14 กันยายน 2547 19:00 น.
ดุจดังแสงไฟในเงามืด
งามใดเล่าเท่าเธอโอ้นงคราญ
งามสะอ้านงามสะอาดโอ้นวลลออ
งามใดหนองามเจ้างามยิ่งนัก
งามดั่งรักปักอกปักดวงใจ
งามหนองามตัวเจ้าช่างงามกริยา
งามวาจางามไปหมดมิมีตำหนิ
งามไม่ผิแรกวัยแรกแตกแย้ม
งามแสนงามงามใดเทียมงามเจ้าเอย
13 กันยายน 2547 17:56 น.
ดุจดังแสงไฟในเงามืด
ฝากสายลมแสงแดดและสายชล
วอนทุกคนทุกท่านแลทุกนาม
อ้อนคนงามที่รู้จักแสนมักคุ้น
ง้อให้ใครต่างใครไปทุกคน
ช่วยฝากสิ่งหนึ่งของผมไปทุกแห่งหน
ช่วยบอกต่อบอกไปทั่วทุกคน
ช่วยบอกจนคนอื่นจำได้ขึ้นใจ
ช่วยบอกคำว่าคิดถึงเธอมากมาย
13 กันยายน 2547 17:34 น.
ดุจดังแสงไฟในเงามืด
มิได้หัวล้านแต่ก็เป็นคนใจน้อย
มิได้น้อยใจแต่ที่จริงแล้วชอบคิดมาก
มิได้มากรักที่จริงมีรักมากกว่า
มิได้บ้าแง่งอนแต่ชอบโดนง้อ
มิได้ถูกทิ้งแต่เราเป็นคนขี้ท้อ
มิได้พ้อถึงเธอแต่กำลังพร่ำเพ้อ
มิได้คิดถึงแต่กำลังเฝ้าฝันละเมอ
มิได้เก้อคอยแต่กำลังรอความหวัง
10 กันยายน 2547 18:53 น.
ดุจดังแสงไฟในเงามืด
แรกสบพบเริ่มสบตาเหมือนสบใจ
ไม่เหมือนใครเพราะคือเธอที่รอคอย
นั่งเหม่อลอยคอยคะนึงถึงแต่เธอ
โอ้สวรรค์ช่างใจดีประทานมา
เมื่อได้เจอใจก็เพ้อตามเธอไป
เมื่อจากไปใจก้เพ้อละห้อยหา
เมื่อยามนั่งก็นั่งเหม่อเพ้อทุกกาล
เมื่อยามนอนใจก็เฝ้าฝันถึงเธอ
เมื่อยามตื่นลืมตาก็เพ้อถึง
เมื่อกินข้าวก็หวังว่าเธอจะทำให้กิน
เมื่อได้ยินเสียงเธอก็เหม่อลอย
เมื่อได้เห็นก็เริ่มพร่ำรักแต่เธอ
เมื่อไม่เห็นใจเริ่มเหงาและเปล่าเปลี่ยว
เมื่อไม่ได้ยินสุ้มเสียงก็คะนึงหา
เมื่อไม่เจอก็เพ้อหาใจแทบขาด
เมื่อเธอยอกไม่รักใจก็สลาย
6 กันยายน 2547 17:52 น.
ดุจดังแสงไฟในเงามืด
บทกลอนเนื่องในโอกาสที่ใกล้จะอกหักหรือเปล่า
โอ้ว่าจันทร์แสงนวลนวลอร่ามฟ้า
สาดส่องหล้าสาดส่องใจให้เปลี่ยวเหงา
โอ้สายลมหอบความหนาวซ้ำเติมเรา
สุดคาดเดาสุดแต่ลมจะผาดผ่าน
โอ้แสงดาวพราวระยับนับล้านล้าน
ยังมิอาจมาเป็นมิตรหมู่มากมี
โอ้ดาวเสาร์จ้าวความงามของดาวเคราะห์
บ่มิเพาะความงามเท่านามเธอ
โอ้สิ่งใดที่สวยงามรวมเป็นหนึ่ง
มิเผยผึ่งผาดงามเท่าทรามเชย
โอ้น้องรักเจ้าจากไปโอ้ทรามเชย
บ่มิเคยหันมาเมียงหันมามอง
โอ้เจ้าใยนวลนางถึงลางเลือน
เจ้าจากไปจากนานมิกลับมา
โอ้ว่าเจ้าจากแล้วใช่จากไป
เจ้ายังทำให้พี่ละห้อยโหยหา
โอ้ทำไมนวลละออจึงจากไป
ปล่อยให้พี่ทนอยู่กับความเดียวดาย
โอ้ความเหงาเคล้าความเศร้าปนน้ำตา
หยดลงมาเป็นคำกลอนส่งถึงเจ้าเอย