2 ตุลาคม 2547 13:37 น.
ดาหลา & ปะการัง
แม่เป็นผู้มีพระคุณกับเรามากที่สุด
เวลาเราไม่สบายแม่จะเช็ดตัว กอดเรา หอมแก้มเรา ตลอด
เวลาเราหิว เราอ้อนเอาอะไรแม่หาให้เราตลอด
ไม่เคยมีเลย อยากกินอะไร ไม่ได้กิน
และเวลาที่เราจะนอนแม่จะมาหอมแก้มก่อนนอน
ตอนเรา หกล้ม แม่จะเข้ามาถามว่า
'เจ็บมั้ยลูก'
แล้วเราก็ตอบแม่ไปว่า
'ไม่เจ็บมากจ๊ะแม่'
แล้วแม่ก็พาไปทำแผล
แล้วแม่บอกว่า'เจ็บก็ต้องทนนะลูก'
แม่อดทน แม่เก่งเสมอ สำหรับเรา
เรารู้ ....แม่มีเวลาให้เราน้อย ถึงน้อยมาก
แม่ทำงานแต่เช้า จนถึงค่ำ ทุกวัน แม่ไม่ค่อยจะมีวันหยุด
แม่เหนื่อยเพราะเรา เรารักแม่มากๆๆ
แม่ทำงานหนักเพื่อเรากับน้อง......เรารู้
แต่เราไม่น้อยใจหรอก
เรารู้ว่าเรายังเป็นลูกที่ดีของแม่ยังไม้ได้เลย
เราแย่มากๆๆ เมื่อวานนี้เราทำให้แม่เสียใจ
เรารู้ แม่ไม่บ่นไม่ว่าเราสักคำ แม่บอกเว่า มันเป็นสิ่งที่หนุต้องเลือก และตัดสินใจเอง
เราสัญญาว่าต่อไป เราจะตั้งใจเรียน เราจะเป็นทำให้ได้เราจะตั้งใจ ทำเพื่อแม่
แม่จ๋า ไอ้ขาหมูรักแม่นะ ต่อไปไอ้ขาหมูของแม่
จะตั้งใจเรียน ไม่ดื้อ ไม่ซน อีกแล้ว
จะไม่ทำให้แม่เสียใจอีก ......สัญญา ฮ่ะแม่
รักแม่มากที่ซู๊ดดดดดดดดดดดเลบ
2 ตุลาคม 2547 13:34 น.
ดาหลา & ปะการัง
เมื่อวานเย็น กลับบ้านค่อนข้างเร็ว
เพระรู้สึก เนือยๆๆและเหนื่อย
ที่สำคัญ คิดถึงลูก แหละ .....
คิดถึงธรรมดา ก้อ เป็นอยู่แล้ว
แต่ วันนี้ แฝง ความห่วง เพราะเจ้าตัวเล็ก ของฉัน
โทรมาบอกว่า เจ๊บเท้าค่า เท้าน้องโดน โต๊ะ มันไม่หลบน้อง เลยค่า แม่
แทนที่จะโทษตัวเองนะ โทษ โต๊ะ ซะอีก
ไม่อยาก บรรยาย ความเจ๊บของลุก
หากเจ๊บแทนได้อยากรับเอา มา
นึกภาพ ลูก เดินไม่ได้เพระเจ๊บเท้า.....ไม่อยากจะคิด
ขับรถค่อนข้างเร็ว เพราะใจจดจ่อ กับลูก
ฉันไม่รู้หรอกว่าหัวใจหรือ อะไร มันโยงใย
ชีวิตฉันกับลุก .........ฉันจะมีความรู้สึก พิเศษ ๆ เสมอ
ก่อนที่จะเกิด เรื่อง อะไรสักอย่าง
ครั้งนี้ก้อ เช่นกัน ฉันรู้สึก เหงา หงุดฟงิด ไร้สาเหตุอีกแล้ว
และ ก็ นะ เจ้าตัวเล็ก ของฉัน เจีบ
ถึงบ้าน รีบ ไปดู เจ้าตัวเล้ด้วยความห่วง
แต่ก็นะ ถึงบางอ้อ ว่า เจ๊บแต่ไม่มากนักที่เหลือ ลุกอ้อนเต็มๆ ๆ
แม่จ๋า น้องจ๋าเจ๊บเท้า วันนี้เดินขึ้นชั้นบนไม่ได้
แม่จ๋าแม่........เป็นช้างให้หนุหน่อยน้า .....
คิค .......ขำก้ขำนะ ลุกรักของฉัน
แต่บอกว่าขขอเวลาอาบน้ำแปร๊บเดี๋ยวมารับ
แล้วความรู้สึก หนึ่งของฉัน ก้ ถามตัวเอง
แล้วลุกฉันอีก คนล่ะ ไปไหน หานไปไหน
ฉัน วิ่ง ๆ ๆ ๆ ขึ้นชั้นบน เพราะฉัน จะมองชั้นบน ทุกครั้ง
เมื่อถึงบ้าน หากไฟ เปิด แปลว่า ลุกๆๆยัง ไม่นอน
แต่วันนี้ ไฟ ปิด .........เกิดอะไรขึ้น
พอถึงห้อง เปิดไฟ ......
รีบ อีกครั้ง เจ้าขาหมูนอนห่มผ้า รีบ จับตัว ดู ตัวร้อนจี๋
เอ้า เอ้า เอา อีกแล้ว ขาหมู อ้วนๆๆ ไม่จาบาย
แล้วฉันจะทำไงดี ....จะจัดการคนไหนก่อนละนี่
เอาเจ้าขากหมุก่อนดีก่า เพราะ ตัวเหมือนยักษ์น้อย
เช็ดตัว ให้ ขาหมู ....ลงมาต้มโจ๊ก ให้กิน แล้วกินยา
จัดการขาหมุ
จนเสร็จภาระกิจแล้วก้ไป เป็นช้าง ให้ แม่นางจ๊ะจ๋า เค้านั่ง
ก่อน จัด ให้นอนแล้ว ก้อ
ค่อยไป จัดการภาระกิจของตัวเอง
มีความสุขนะ ทุกครั้งที่ได้ ทำไรๆๆ ให้ลุก แม้ยาม ป่วยไข้
เจ๊บปวด ทุกครั้งที่เห็นลุก ปากแดง หนาว สั่น เพ้อ เพราะพิษไข้
ไม่อยากให้ลุกเป็นอะไรเลย แม้แต่ปลายก้อย
ไม่มี ใครรู้หรอก ว่ารักลุก มากแค่ไหน
รัก ห่วง อาทร สารพัด ......
แม่บอกลุก ทุกๆๆ วัน ว่า แม่ รักลุก มากที่สุด
นั่งคิด ไป เรื่อยๆๆ เรื่องราว เหล่านี้ ผ่านมานาน
แต่
เหมือนเพิ่งเกิด ขึ้น เมื่อวานจริงๆ ๆ
ฉันไม่ต้องการอะไรตอบแทนจากลูก หรอก
ขอเพียงรอยยิ้ม อ้อมกอดน้อยๆๆ อยู่กับฉันตลอดไป...ก้อพอ
2 ตุลาคม 2547 13:31 น.
ดาหลา & ปะการัง
เมื่อ พยาบาล เอา เจ้าซาละเปามาให้ แรก ๆ ๆ ก็ กล้ากลัว ๆ ๆ
นึกภาพไม่ออกว่าจะอุ้มท่าไหน อย่างไรหนอ .....
นอนมองลุก ใบหน้า กลมๆ หลับตาพริ้ม สดใส แก้ม เป็น พวง เชียว
สัมผัสครั้งแรก ที่ได้จาก การกอดลูก
สัมผัสแรก ที่ได้โอบกอด เจ้าตัวกระจิ๊ด ในสายตาแม่
น้ำตา เออ นอง ทั่วใบหน้า
ใครจะรู้บ้างไหม ว่า ปลื้ม ปิติ อย่างไร
ครั้งแรก ที่ได้ ให้ น้ำนมกับลูก
รู้สึกได้ ถึงกระแส เลือด ในกาย ไหลสูบฉีด แรงๆๆ
อิ่มเอิบ จริง ๆ ๆ .....
วันเวลา ผ่านไป จาก วันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี
เจ้าขาหมู ที่ รักของฉัน ก็เปลี่ยนชื่อจาก ซาละเปา มาเป็นเจ้าขาหมู
เพราะ ว่า ตัว โตเร็ว กินเก่งมากๆๆ
ไม่มีอะไรที่ ให้แล้วไม่ ไม่กิน
เฝ้าถนอม ยุงไม่ไต่ไรไม่ให้ตอม ....
ยามลูก ฝึกกัดกินดื่ม กริยาท่าทาง น่ารัก เหลือ
เจ้าขาหมู เมื่อตอน 2.6 ขวบ ได้รับพระราชทานรางวัลโลห์เกียรติยศ
จาก พระองค์เจ้าอทิยา ฯ ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภาณ์
เป็นเด็กสุขภาพ ดีแข็งแรง ร่างเริง แจ่ม ใส
จ้ำหม่ำ มาก
ใครๆๆ ก้หลงรัก เจ้าขาหมูตัวกลมๆๆ ของฉัน
จวบจน ได้เข้าเรียน อนุบาล ก็เป็นที่รัก ของคุณครู เพราะไม่ดื้อ แต่ ซน มาก
กิติศัพท์ เล่าลือ ซนที่สุด ในโรงเรียน
วัน เวลาผ่านไป จนเข้าเรียนประถม มีงานประจำปี
ก็สร้างวีรกรรม จนได้ สิน่า
แต่งตัว สวยไป โพสท่า ให้ช่างภาพ ที่ รับถ่ายรูปตาม งาน โรงเรียน
อุอุ นะ ราคา ไม่เบา ....แต่ก็ ทำ เอาคุณยายหน้าบาน เมื่อ ใครๆๆ ชม หลานสวย .......
คิดดูสิ วันนี้ เวลา ผ่านไป เกือบ 15 ปีแล้วสินะ
5000 กว่าวัน ที่ฉัน กอด ลุก ตั้งแต่ ตัวเท่าเมี่ยง
จนเดี๋ยวนี้เรากลายเป็นคนที่ถูก กอด ซะเอง
อยากบอกว่า การเป็นแม่ ไม่ได้ง่าย เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ลุกร้องต้องตีความหมายให้ได้ ว่าร้อง เพระ อะไร
ลูกกลัวอะไร บ้าง ชอบไม่ชอบอะไร ใน 1 ขวบปีแรก
เวลากินไม่ได้กิน เวลานอน ไม่ได้นอน
หากเจ๊บป่วยไข้ จะ เฝ้าระวัง ป้อนข้าวป้อนยา
เช็ดตัว บ่อยๆๆ ...........ห่วง สารพัด ห่วง
หาก เจ๊บได้ ปวด ได้ ป่วยแทนได้ ก้อยากรับเอาไว้ แทนลุก ทั้งหมด
ทุกวันน้ ฉัน มีเพียงลูกเท่านั้นที่เป็นหัวใจ
ลุกไม่เรียกร้องอะไรจากฉันมากมาย
ฉันรู้ว่า สิ่งเดียวที่ลูกอยากได้ จากฉัน มากที่สุดคือ ความรัก และ เวลา
ฉันเยงเป็นแม่ที่ ขาด และขาด ส่วนนี้อยู่ มาก มาย
ทำอย่างไรได้ เวลา มันถูก ใช้ไปแ กับการทำงาน
แต่ความรัก ไม่ได้ ใช้แบ่งปัน ให้ใคร
ทุกวันนี้ ฉันยังคงนอนกอด ลูก ซ้ายคน ขวาคน
ทุก คืน........ทุกคืน............
ดู สิ จาก ที่เราต้อง หุงหา ข้าวให้กิน เดี๋ยวนี้ หุงข้าวเป็นแล้ว .....
ทำกับข้าวเป็น แม่ ไม่ เหนื่อย เทาไหรแล้ว ..........
เฮ่อ...............เป็นปลื้ม และรู้สึกว่า............
ลูกโต เร็วจน รู้สึก ใจหายเหมือนกัน แหละ............
โปรดติดตาม ตอนต่อ ปาย ซาลาเปาก๊อก 3
28 กันยายน 2547 17:22 น.
ดาหลา & ปะการัง
" พี่ โอ ชงนม ให้ลูกหน่อยค่ะ " เสียงเจื้อยแจ้วของหมูแก้ว ดังลอดประตูห้องมา
ตลอดเวลา ปี กว่าๆ ที่ ผม นายโอ ได้ มีครอบครัว กับสาวสวยแสนห้าว คนนี้
คงไม่มีใคร อิจฉา เลย เพราะ หนุ่ม หล่อ ( เข้าข้างตัวเอง ) กับสาวสวย ดูช่าง เหมาะสมกัน อะไรจะปานนั้น....
เดินไป .......ชงนม นับไป หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก จนได้ตามที่เจ้า หนอน กินได้ของผม ชอบแล้วเดินมา หยอกแม่นิดลุกหน่อย แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องทำงาน
ตั้ง แต่ แต่งงานชีวิตของผม รู้สึกว่า สมบรูณ์ และดีไปเสีย ทุกอย่างเลย
ผมก็ยังทำงาน เป็น วิศวกร อยู่ เหมือนเดิม ...ออกไป ตรวจงานบ้างติดต่อ งานบ้าง
บางวัน.ผมเหนื่อย มากๆๆนั่ง พับกับโต๊ะ ทำงาน..........นานเหมือนกัน
ที่ลูกน้องเดินมา พร้อมด้วย กาแฟ 1 ถ้วยใหญ่ ....
และบอกว่า " พี่โอ เหนื่อยมาก พัก ก่อน หาเพื่อนคุย ในเน็ต ก่อน เผื่อหายเหนื่ย "
ผมไม่ค่อยสนใจนัก เพราะ ไม่มีเวลา มากสำหรับการเล่น เรื่องไร้สาระเหล่านั้น
จึงตะโกนบอกลูกน้อง ไปว่า " สมัครไว้แระกัน "" ว่างจะเล่น "
วันเวลา ผ่านไป
ผมล้า ต่อ การทำงาน และ ปัญหา เรื่องงานเข้ามารุม ผมมากขึ้น
ผมเริ่มกลับบ้าน ค่ำ และสายขึ้นเพราะ งานรุมมาก ....
ล้า จน ลุกน้องบอกว่า พี่ พักบ้าง แล้วเดินมาเปิดคอมไป ที่เวบไหน ผมไม่สนใจ
ให้ แล้ว login ให้เรียบร้อย
ผมนั่งอยู่ นานเหมือนกัน
มาตกใจกับเสียง โอ๊ะโอ.....จึงเงยหน้า เห็น รุป จดหมายสีเหลืองๆกระพริบที่หน้าจอ
ด้วยความอยากรู้ เลยคลิก ไป
มีข้อความว่า " เหงาค่ะ คุยด้วยได้ไหมคะ "
ลงชื่อมา หน่อย .....
ขอความช่วยเหลือ แบบนี้ เลยลองคุยด้วย
หลังจากนั้น เวลา ผ่านไป นาน ผมกับหน่อย กลายเป็นเพื่อนทางเน็ตที่ คุยกัน เข้าใจ มากหน่อย มักจะบ่นให้ ผมฟังว่า แฟนเค้าไม่ค่อยสนใจ มัวแต่ ทำงาน
อะไรก็ดี เสียแต่ ว่าทำงานมากไป ....เค้ารักเธอมาก เธอก็รักเค้ามาก
เธอจะเล่าปัญหา นี้ทุกครั้งที่ได้คุยกัน
แต่เราไม่เคยขอเบอร์โทรหรือนัดเจอกันแม้แต่ครั้งเดียว
ด้วยเหตุผล คือ เราไม่อยาก เป็น ส่วนเกินของชีวิตใคร
เป็นเพื่อนที่คุยได้ แลกความคิดได้ เพียงพอแล้ว......
นี่หล่ะ เพื่อนทางเน็ตที่ผมได้ สัมผัส........
และแล้ว ไม่รู้ อะไร ดลใจผม ให้คิดถึง หน่อย อย่างไม่มีปี่ มีขลุ่ย
จึงขอนัดทานมื้อเที่ยงกับเธอ.....
ซึ่งเธอไม่อิดออด แล้วตกลงกันที่ร้าน MK ที่ลาดพร้าว......
เอา ซิ Mk อีกแล้วเหรอ ..... .ทำไมต้องที่นั่นะนะ
แต่ความรู้สึก ที่อยากเจอก็ตอบตกลงไป
ผมจึงบอกกับ หมูแก้วว่า วันเสาร์ พี่มีนัดกับลูกค้า หมูแก้วจะไปบ้านคุณยายไหมพี่ไป ส่ง
หมูแก้วบอกว่า อยากไป เหมือนกัน
คุณรู้ไหม คืนนั้น ผมนอนไม่หลับเลย คิดถึง หน่อย หน้าตาจะเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่ามันตื่นเต้นหรือว่า ไง บอกไม่ถูกคับ
....มันคือ อะไรกันนี่ !!!!!!........ผมเกิดความรู้สึกนี้ได้อย่างไรกันนี่
ผมกำลังจะนอกใจหมูแก้วหรือ ????
เช้าวันเสาร์ ผมส่งหมูแก้ว แล้ว ขับรถเรื่อยๆๆ ไป ตามที่นัดเอาไว้......
ไปถึง ผม ก็พบ ผู้หญิงคนหนึ่ง
ผมยาวๆๆ นี้คุ้นตานัก นั่งตรงๆๆแบบนี้คุ้นเหลือ หลาย
ใจผมเต้น ตึกตั๊ก ๆ ๆ โครมคราม .......
เอ่ยไป ก่อนว่า " สวัสดีครับ "
เธอไม่หันมา แล้ว เธอตอบว่า สวัสดีค่ะ
ผม ตกใจ หัวใจ แทบจะหล่น ลงไป กองที่ เท้า..
ไหง คุณ หน่อย กลายเป็น เป็น เป็น..!!!!!!!
หมูแก้ว .
ผม พูดไม่ออก เลยคับ
หมูแก้วขอโทษที่ต้องใช้ สื่อตรงนี้ มาเพื่อ ระบายความในใจ ที่น้อยใจผม อยู่
แทนที่จะคุยด้วยตัวเอง
เธอบอกว่าเธอเกรงใจ.
ผมตื้นตันใจและละอายแก่ใจมาก
จึงบอกกับหมูแก้วว่า ต่อไป ขอ เริ่มต้นใหม่ กับวันเวลาข้างหน้า
เพราะอดีตไม่สามารถแก้ไข อะไรได้อีก มันเป็นเพียง สิ่งที่เป็นข้อเตือนใจเท่านั้นเอง
สิ่งที่หมูแก้ว ทำครั้งนี้ ผมไม่โกรธเธอเลย มันทำให้ ผมรู้ว่า ผมไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวและเดี่ยวดายเหมือนแต่ ก่อนอีกแล้ว
ชีวิตผม มีหมูแก้วแล้วยัยหนุหนอน อีก
ต่อไป ผมจะเป็นพ่อและสามีที่ดี
นับแต่นั้น มา ผมเลิก เล่นเน็ต กลับบ้านตรงเวลา
มีเวลาให้หมุแก้วมากกว่าเดิม......สัญญาคับสัญญา
9 กันยายน 2547 11:30 น.
ดาหลา & ปะการัง
นาน แล้ว เกือบ 15 ปี ฉันไม่เคยรู้เลยว่า ความรู้สึก ที่ฉัน บอกกับตัวเองว่า
แม่ไม่รักฉัน แม่ไม่รักฉัน.........มันเป็นคำถามค้างคาในใจเสมอ มา
จวนจน วันที่ฉันมีครองครัว และวินาที่ หผลการตรวจของฉัน ออกมาและ หมอ บอกว่า
" คุณกำลังจะมีลูก " " หมอดีใจด้วย "
จำด้ แม่นยำมาก นับแต่นั้น ฉัน เฝ้าฟูมพัก หล่อ หลอม เลือด ในกาย ฉัน
ด้วยอาหารชั้นเลิศ ด้วย ทุกอย่างที่สามารถจะถ่ายทอด ให้ลุกได้
เวลา ผ่านไป 2 เดือน 3 เดือนแรก มีมีอะไร ตื่นเต็ม หวือหว๋า ในการตั้งท้อง
แต่ เมื่อวันหนึ่ง ฉันรู้สึก เหมือน กล้ามเนื้อ ที่ท้องฉัน กระตุก เบาๆๆ 5-6 ครั้ง
ฉันตกใจ ความรุ้สึก เกรงกลัว ที่จะสูญเสียลูก ประเดประดังเข้ามา
ฉันรีบไปหาหมอทันที่ ด้วยความกังวล !!!
เมื่อหมอ ตรวจแล้ว โดยการ ใช้เครื่องตรวจอุลตร้าซาวด์ เพื่อดูว่าเด็ก ดิ้นหรือเปล่า หัวใจ เต็นอยู่ไหม ในนาทีนั้น ฉันได้ยินเสียงเหมือน คนตีกลองรั่วๆๆ เร็ว แต่เป็นจังหวะ
มันเป็นเสียง ที่ไพเราะมาก .....มันคือ เสียง หัวใจ ลูกเต้น .
.....ฉันยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อ หมอบอกว่า สักครู อาการที่เป็น อาจะเป็นเพราะเ ด้ก เริ่มดิ้นแล้วและ สามารถ ส่งความรู้สึก ผ่านผนังหน้าท้องได้แล้ว แสดงว่าเด็กแข้งแรงมาก ..........
รู้ไหม หน้าฉัน คงเหมือนกระด้ง ออกมาจากห้องตรวจเทียวยิ้มน้อยยิ้ม ใหญ่ ....
ฉัน เฝ้านับ วันนับคืน รอคอยที่จะได้เห็นหน้าลุก ของฉันอย่างใจ จดจ่อ ......
เวลา ผ่านไป 8 เดือนเต็ม ฉันมีเจ้าตัวน้อย อยู่ กับฉัน ตลอดเวลา ที่ผ่านมา ฉันจะเล่านิทาน และเปิด เพลง ร้องเพลง ให้ลุกฟัง เสมอๆๆ
หวังให้ลุกเป็นเด็ก ร่าเริง แจ่มใส แข็งแรง
ฉัน.....เฝ้ารอ สาวน้อยของฉัน นานเหลือ เกิน 9 เดือน เชียวหรือ
ฉัน.....มีความรู้สึกว่า ความผูกพันที่ฉันมี ให้เค้า ยาก ที่จะตัดออกจากกันได้
รักและ ถนอม ยิ่งกว่าจงอาหวงไข่ มิปาน
วันที่ฉันรอคอย ได้ มาถึง ......7 กุมภา
ตื่นแต่เช้า เห็น เลือดออกมากมาย ตกใจไหม
ตกใจแต่ก็ตั้งสติ เพราะ หมอบอกว่า ก่อนคลอด จะมีเลือดออกได้
ให้ เตรียมตัวมาคลอดได้
ฉันอาบน้ำ สระผม แต่งตัว ใส่ชุดฟรอม์ สำหรับทำงาน ไป ตามปกติ เดินทำงาน ในขณะที่ทำงานก็รูสึก หน่วงๆๆ หนักๆๆท้อง เหมือนถุก แรงดึงดูด ไง ไม่รุ้
หน่วงๆๆ หนักๆๆ ท้อง นาน จน รู้สึก เมือ่ยขา และบอกพี่ที่ทไงนว่าเลือด ออก ค่ะพี่
ทุกคนตกใจ ซัก กัน และได้รับพร อันใหญ่หลวง ว่า " ทำไมเพิ่งบอกเดี๋ยวนี้ " " เดี๋ยวก็คลอด กลาง ห้องทำงานหรอก
ว่าแล้ว ก้ต้องพบหมอ
ฉันเริ่ม มีอาการ ปวด บิด ร้าวๆๆ ไป ทั่วหลัง ไหล่ เอว บั้นเอว เหมือนจะขาด เสีย ให้ได้
บากจะบรรยาย ว่าเจ๊บ หรือปวด จะคล้ายตอนท้องเสีย ก็ไม่ใช่
จะว่าปวดท้องผูก ก้ไม่เชิง มันเร้าว ๆๆ บิด ๆ ๆ
ไงไม่รุ้ ...........
ฉันไป ถึงห้องคลอด ด้วย อาการ ตื่นเต็น เพระ มดลุกขยายมาก และ ปากมดลุก ขยายเปิด แล้ว 4 เซ้นติเมตร คือ พร้อมที่เจ้าตัวน้อยจะออกมาชมโลก แล้ว
นอนรอ ตั้งแต่ 11 โมง ก็ไม่คลอด
บ่ายกว่าๆๆ คุณหมอ เจาะ ถงน้ำคร่ำ แล้ว สักครู่ ใหญ่ๆๆ
ความรู้สึก เหมือนร่างกายจะฉีกได้เจ๊บนร้าวไป ทั้งร่าง ก็ว่าได้
ฉันได้ยินหมอบอกว่า ขอ ยาก แก้ปวด 1 เข็ม
ไม่รุ้หรอกเค้าปักเข็มไปเมือ่ไหร มันเจ็บ จนไม่รุ้ว่า อะไรอีกแล้ว
ราวกับ เนือ้ที่แตกละเอีด
เวลา 16.05 นาฬิกา
หมอแม่ทูนหัวของฉัน บอกข้างๆๆหูว่า ออมแรงอีกทีแล้ว เบ่งสุดแรง เลยนะ
เห็นหัวเจ้าหมูน้อยแล้ว นะ นิ่มนะ
เอ้า แบ่ง อืบมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
นาน 2-3 ครั้ง พร้อม กับได้ยิ้นเสียง หมอบอกว่า หมูอ้วนออกมาแล้ว
หน้าเหมือนซาละเปา เที่ยว ....ยัยนิ่มเอ๋ย.........
เวลานั้น บอกได้ ว่า หมดแรง แขนขาที่เจ๊บปวด นั้นหายปลิดทิ้ง เมือ่ได้เห็นหนา เจาลุกน้อย ที่ เฝ้ารอ มานาน 9 เดือน...........
และ ก้เป็น เจ้า ขาหมูของฉันจวนเท่าทุกวันนี้ ............เอยยยยยยยยยย
และ ฉันได้รับรู้ แล้ว ไม่ มีวัน ที่แม่จะ ไม่รักลุกของตัว ..........ไม่มีวันเด็ดขาด
เวลนา ฉันรักแม่ฉัน และ ฉันก็รักลูก ฉัน เต็มหัวใจ ...........