14 พฤศจิกายน 2547 01:01 น.
ดาหลา & ปะการัง
จิ้มพริ้มเพราเยาวนุช
งามบริสุทธ์ดุจน้ำทิพย์ใส
เป็นขวัญใจของมวลมิตร
เพราะกำเนิดเกิดกลางดวงใจ
กายเจ้าจ้อยนิดกระจิดริด
แต่กำจิตกำใจบิดรมารดาไซร์
เจ้าเกิดในศิริดีที่รูปโฉม
เป็นสิ่งประโลมใจได้ยินดี
ปากนิดจมูกหน่อยค่อยประสม
เกิดเป็นตนคนดีมารศรี
ผิวเจ้าสีชมพูงามเหลือ
ผ่องผิวเจือเนื้อนวลขำ
เกสเกศาดกดำเนียนขนนก
ของามปกเกศเกล้าเฝ้าจดจำ
แม่งามขำช่างน่ารักแลน่าชัง
เจ้าจะจักนิ่งสนิทในห้วงใจ
แม่เจ้าบอกกับยายเมื่อตอนสาย
จะเตรียมกายเตรียมใจในการคลอด
เพราะตลอดผ่านมานานจวนครบ
ใจแม่อยากกอดคนดีที่ในพุง
บอกหลานไปเกิดดีวันนี้สิ
เกิดพร้อมดีเป็นศรีวันคืนศุกร์
สิบสองศุกร์นี้ ดีแล้วแก้วตา
เพราะยายมาหาเจ้าเพราะเฝ้ารอ
คืนวันผ่านไปไม่ทันคิด
แม่มิ่งมิตรทำตามที่ยายขอ
ลืมตามองโลกที่โสภา
ในเพลาดีสี่ทุ้มกว่านิด
พ่อเจ้าบอกกับยายใจตื่นเต้น
ดีใจนักเจ้าเกิดมาครบดั่งใจคิด
โอ้แม่ตัวน้อยแม่กลอยใจ
มาทำให้ยายเจ้าให้หลงใหล
กลับมาเปิดตำรามองหาชื่อ
เพราะยึดถือคำเก่าที่ขานไว้
เป็นตำนานผูกนามไว้ดีก็เป็นศรี
เอาละสิ ยายเจ้าว้าวุ่นใจ
เปิดตำราเป็นสิบสิบไม่ยักเห็น
ชื่อเจ้าเป็นกระไรมันไม่สวย
ค้นคว้าที่มีจากกอถึงอออ่าง
กว่าจะได้ชื่อเจ้ามาแทบถอดใจ
จาฏุพัจน์ หาได้ อ่านว่าจาตุพัด
แปลว่าผู้มีวัจนะที่เป็นศรี
วจีเพราะดีศรีแก่ตัวเจ้า
ปากเป็นเจ้าเอกตรีดีดีนักแล
ดีใจได้สาวน้อยคนใหม่ของครอบครัว...........
12 พฤศจิกายน 2547 22:54 น.
ดาหลา & ปะการัง
อยากถามเธอคนดีว่าวันนี้
ลืมแล้วแล้วสิว่าวันเกิดฉัน
เกิดอะไรขึ้นใยลืมมัน
ลืมแล้วลืมนิ่งนิจสนิท
ไม่เคยลืมสักปีจำเป็นนิจ
ประตูใจของเธอนั้นได้ปิด
เพราะว่าจิตที่เคยนิจพิสมัย
คลายคลอนไปแล้วหรือแก้วตา
เคยบอกรักฉันวันหลายครั้ง
เคยตอกย้ำเสมอรักเธอทุกครา
แล้ววันนี้เกิดอะไรไร้จำนรรจา
แกล้งให้นำตาเอ่อล้นหัวใจ
ฉันไม่รู้เกิดอะไรกับวันนี้
โอ้คนดีลืมหมดแล้วที่บอกไว้
รักพี่แนบแน่นแม้นจากไกล
แต่หัวใจก็ยังอยู่คู่เคียงเธอ
ไม่อยากคิดอะไรไว้ล่วงหน้า
ไม่อยากคิดว่าเหตุใดกลายรักตรม
ไม่อยากแม้จะติดตรมขม
เพราะเธอยังนิ่งเงียบไร้คำวอน
อยากร้องออกไปคาใจก่อน
เคยอ้อดอ้อนวอนเว้าเจ้าตัดรอน
หากบังอรห่างและร้างลา
อรอุมาตอบพี่ทีนี่อะไรวานบอก
พี่จะถามเจ้าไม่รักใยแกล้งหลอก
พูดกลับกลอกที่ไว้
ว่าเจ้ารักพี่แน่แม้นต้องห่างไกล
มั่นคงไว้ไม่กลายแม้ชีพวาย
ไม่รักพี่แล้วหรือคนดีจึงห่างหาย
ไม่ติดต่อแม้วันนี้วันพี่ชาย
คงได้แต่นั่งคิดและคิดอีก
หรือเจ้าคลายรักพี่แล้วรักลวง
เขียนกลอนยาวให้คนดีพี่รออยู่
ยอดพธู คนดีที่พี่ห่วงหวง
ใจยังคงคิดถึงวันของเราสอง
จะครองคู่อยู่เคียงกันจนวางวาย
วกวนไปหัวใจพี่สับสน
ดวงกมลคนดีทำพี่เจ๊บกาย
ตอบกลับมาหาคนดีพี่จะคอย
ว่าจะถอยออกจากใจของรักเรา
เพียงบอกมาสักคำก็จะจบ
แล้วจะลบทุกอย่างที่ตั้งหวัง
จะไม่รั้งเธอให้ร้าวราญ
จะเดินห่างออกไปเหมือนไร้ใจ
บอกกับพี่เถิดคนดีมีรักใหม่
พี่จะยอมถอยห่างเจ้าดวงใจ
บอกมาเถิดอย่ากลัวพี่จะว่า
แล้วจะไปให้ไกลจนไร้เงา
ไม่มีการตอบรับจากหมายเลข
เพราะเอกเขนกเอียงคู่เขา
ไม่ตอบรับกลับใจวางวาย
ใจสลายเพราะคนดีทำพี่เรา
นานเท่าไรแล้วนะที่รักอยู่
นานเท่ารู้รักกันมั่นนานเนาว์
ไม่รู้โง่งมงายกลายโง่เขลา
นานแล้วเราบอกรักมิคลาย
ได้แต่เพ้อหาไปไร้ตอบรับ
ได้แต่เพ้อรักบอกยอกกาย
ได้แต่พรายพร่างอ้างน้ำคำ
ถามเธอไปอีกทีแม้นไม่รักกัน
ขอคำตอบสักทีจะได้ไหม
ขอคำตอบกลับมาว่าไม่รัก
ขอบคำตอบสักคำจำใจกลาย
จะได้บอกตอกย้ำช้ำใจตาย
ดาหลา & ปะการัง
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
เพ้อได้ยาวที่.......แต่ไม่จบ
12 พฤศจิกายน 2547 17:42 น.
ดาหลา & ปะการัง
ตื่นแต่เช้ากราบกอดแม่
แลน้ำตาแม่มันรินไหล
ขอสิ่งใดที่มุ่งมั่นอย่าร้างไป
แต่สิ่งไหนมันกระย่ำยีลี้ไกล
ลูกแม่ จงมีสุขทุกทิวา
วันนี้ วันเกิด เปิดรับพรแม่
ขอให้แค่แม่กอด รอดอาดรู
ขอแค่แม่จำได้กำเนิด กู
แม่แท้ผู้ชีวิ กอดรับฝันบบรเจิด
ไม่มีดอกไม้สักดอก ไม่ถอดใจ
ไม่มีใคร มากำนัลในวันเกิด
ก็ชางเถอด กูอยู่ชูเชิด
แม่กล่อมกู แต่เมี่ยง เลี้ยงดู
ไม่มีงานเลี้ยง ใด ใด ให้เริงร่า
ไม่ปรารถนาจะสังสรรค์สุข
เพราะเกิดนี้แม่เจ๊บก้เพราะกู
จะไม่ไปเปิดประสงค์สังสรรค์
วันแม่เจ๊บเจียนตายคล้ายดับจิต
ใครเคยคิดบ้างไหม เจ๊บแค่ไหน
เจ๊บจะตายลูกเอ็ยร้องเพลงไป
สนุกสุขสันวันเกิดกู
จะไม่ร้องให้ในวันเกิด
จะไม่เปิดใจรับกับความทุกข์
จะเปิดใจให้เบิกบานรับสุข
เพราะ เปิดพรนำพา ตามเจนต์
อย่าคิดหวังว่าฉันจะเป็นเลิศ
อย่าหวังเพลิน จนเกินเหตุ
อย่าได้แม้แต่จะคิดเกิด
ว่าทำได้ดี ไม่เท่าเทียบครู
เขียน ด้วย หัวใจ ที่ บอกว่าทำได้แค่นี้ .....
วันนี้ สิ่งที่คิด ลี้ไป จากชีวิตแล้ว .............
รับพรแม่ ที่อบอุ่นที่ สุด
มาจ๋า หนุเหงา นะ รู้ไหม
กลอนรู้ว่าไม่ดีเท่าที่คิ แต่จิตตกแค่นี่แหละคุณพี่ขา
11 พฤศจิกายน 2547 11:49 น.
ดาหลา & ปะการัง
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้เน๊อะ......
คืนนี้น้องคนดีมิห่างพระธรรม
คืนนี้สวดนำพรสว่างให้จำ
คืนนี้คงฝันดีเพราะผ่อนคลายสบาย
สวดมนต์นำจิตวางณ.พระพุทธเจ้า
ตั้งจิตเรา เฝ้าเจาะจงลงผ่อนคลาย
พระธรรมน้อมนำให้กลับกลาย
จิตสว่างคลายจิตนิ่งเสียจริงจริง
พี่ทิกิจ๋าขอบคุณที่เอื้อนเอ่ย
นำเฉลยคุณธรรมเป็นขวัญมิ่ง
ต่อแต่นี้กรรมใหม่ต้องร้างจริง
สร้างกรรมดีต่อชิวีนี้ให้สดใส
สาธุอีกครั้งจ๊ะ
: 9584 - ดาหลา & ปะการัง
: 374973 - 10 พ.ย. 47 - 22:04
วันนี้ สัมผัสสระระหว่างบท ผ่านแล้ว
เหลือ สองประเด็นคือเสียงกลอนที่มัน
อ่านแล้วไม่มีชีวิตชีวานะคะกับ
คำซ้ำ
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้เน๊อะ...
เน๊อะ ไม่ต้องใส่ไม้ตรี ก็เป็น เนอะ อยู่แล้ว
นะคะ แต่ในนี้ เนื่องจากหาสระเออะมา
ประกบลำบาก ก็โยกกลอนไปเป็นนะจะได้
รับกับคำ พระ ดังนี้
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้นะ......
มิห่างพระน้องคนดีชี้ธรรมพร่ำ
เมื่อ สระอำ คือ คำว่าพร่ำ อยู่ ท้ายบาทแล้ว
ในทางกลอน เรามักไม่นำมาสัมผัสในอย่าง
คำว่า นำ ที่เกินมาใน
คืนนี้สวดนำพรสว่างให้จำ
เราก็ลองแก้ไขเป็น
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้นะ......
มิห่างพระน้องคนดีมีธรรมพร่ำ
สวดมนต์สอนพรสว่างทางให้จำ
แล้วลงมาเจอไร้สัมผัสในบาทสี่อย่าง
คืนนี้คงฝันดีเพราะผ่อนคลายสบาย
ก็จำเป็นต้องแก้ไขเป็นดังนี้อีก
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้นะ......
มิห่างพระน้องคนดีมีธรรมพร่ำ
สวดมนต์สอนพรสว่างทางให้จำ
คืนแรมค่ำฝันผ่อนนอนสบาย
เช่นเดียวกับหลักใน การนำคำสัมผัสมาไว้กอ่นหน้า
อย่าง
คืนนี้คงฝันดีเพราะผ่อนคลายสบาย
เราจะลงสัมผัสท้ายว่าสบาย ไม่ควรใส่คำว่า
คลายตรงหน้าสบาย ทำให้ความหมาย
ไร้น้ำหนัก
สรุปบทหนึ่งจึงเปลี่ยนเป็น
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้นะ......
มิห่างพระน้องคนดีมีธรรมพร่ำ
สวดมนต์สอนพรสว่างทางให้จำ
คืนแรมค่ำฝันผ่อนนอนสบาย
บทสอง
สวดมนต์นำจิตวางณ.พระพุทธเจ้า
ตั้งจิตเรา เฝ้าเจาะจงลงผ่อนคลาย
พระธรรมน้อมนำให้กลับกลาย
จิตสว่างคลายจิตนิ่งเสียจริงจริง
สวดมนต์นำจิตวางณ.พระพุทธเจ้า
บาทนี้ความหมายเกือบได้
แต่ ณ พระพุทธเจ้า ถ้าหมายถึงพระพุทธเจ้าจริง
คงต้องบอกความหมาย ว่า น้อมรำลึกไปหาโดย
เปลี่ยนเป็นว่า
สวดมนต์นำจิตสู่จุด.พระพุทธเจ้า
หรือ
สวดมนต์นำจิตมุ่ง ณ.พระพุทธเจ้า
ถ้าวาง ก็แปลว่ารู้ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ตรงไหน เป็นไปไม่ได้
ไม่มีใครทราบว่าพระองค์ไปนิพพาน ณ แห่งใด
ตั้งจิตเรา เฝ้าเจาะจงลงผ่อนคลาย
เสียง สุดท้าย ในบาทสองนี้ เรามักไม่ลงเสียงสามัญ
ควรจะเป็น เสียงอื่น เช่น เอก โท ตรี จัตวา
นิยมลงจัตวาเพื่อให้เสียงไพเราะเช่น
ตั้งจิตเรา เฝ้าเจาะจงลงผ่อนหมาย
พระธรรมน้อมนำให้กลับกลาย
ถึงตรงนี้จะเห็นว่า พระธรรมนั้น สามารถสัมผัส กับคำว่านำได้
ก็สลับที่เสีย....เป็น ...แล้วเติมคำว่า จิตเพื่อให้มีความหมาย
และ จังหวะ กลอนดีขึ้น
งามงอนคนไหนงอนไม่รู้นะ......
มิห่างพระน้องคนดีมีธรรมพร่ำ
สวดมนต์สอนพรสว่างทางให้จำ
คืนแรมค่ำฝันผ่อนนอนสบาย
สวดมนต์นำจิตสู่จุด.พระพุทธเจ้า
ตั้งจิตเรา เฝ้าเจาะจงลงผ่อนหมาย
น้อมพระธรรมนำจิตสว่างคลาย
ให้กลับกลายดวงจิตนิ่งคิดจริง
พี่ทิกิจ๋าขอบคุณที่เอื้อนเอ่ย
นำเฉลยคุณธรรมเป็นขวัญมิ่ง
ต่อแต่นี้กรรมใหม่ร้างอย่าอ้างอิง
สร้างทุกสิ่ง กรรมดีต่อชิวีนี้ให้สดใส
ง่า พี่แก้ไปเวียนหัวมาก
เพราะน้องปักพลังลงในคำแรงมาก
ทำให้พี่มืนที่ต้องแก้ให้ทุกบาท
แต่สามบทนี้ยังพอไหว ถ้ายาวกว่านี้พี่คงตาลาย
ทิ้งไปไม่จบทุกบท
ลองพิจารณาดูแล้วกันนะคะ ว่าวิธีแก้ไขกลอน
เราให้เข้าที่เข้าทางทำอย่างไร
จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki
รหัส - วัน เวลา : 374999 - 10 พ.ย. 47 - 22:41
9 พฤศจิกายน 2547 22:54 น.
ดาหลา & ปะการัง
ปัญหามีไว้ทำไมใครรู้บ้าง
ปัญหามันค้างคาอยู่ที่ไหน
ปัญหามันมาจากอะไร
ปัญหาเกิดจากอะไรทำไม
คนทุกคนมีปัญหามาให้เป็นปัญหา
บ้างใหญ่ล้นท้นหัวสมอง
บ้างเล็กแร้วท่าขี้ตาแมวกอง
บ้างไม่ใหญ่ทำให้ยิ่งใหญ่เกิน
บ้างทำนิ่งปัญหามาปัญญาไหล
บ้างแก้ไปปัญหาที่หนักจริง
บ้างเล็กแสนเล็กทำให้ใหญ่ยิ่ง
บ้างทำเกินจริงกลายเป็นกร้าวทุกสิ่ง
บ้างมองเรื่องใหญ่เป็นเล็ก ๆ
บ้างมองเล็กใหญ่ โตมโหระทึก
บ้างไตร่ตรองครองรำลึก
บ้างโวยวุ่นทึกทักไปไม่ต้องมอง
ปัญหามีเอาไว้ให้แก้ไข
ปัญหาหลีกลี้ไปจ้างไม่พ้น
ปัญหาเล็กหรือใหญ่ใช่อับจน
ปัญหามาหาทางแก้แต่ละอัน
แต่ละอันปัญหาต่างมุมแก้
แต่ละละมุมมองของปัญญา
แต่ละปัญหาต่างใช้ปัญญา
ปัญหาใหญ่เล็กไซร้ แก้ได้
ท่องเอาไว้ใหญ่เล็กก็เล็กใหญ่
ท่องเข้าไว้ใหญ่ทำเล็กได้ยากที่ไหน
เล็กแล้วเล็กถีบมันออกไปให้ไกลไกล
ปัญหาเหล่านั้นไซร์ แก้ได้ด้วยปัญญา
ดาหลา & ปะการัง
๐๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
ใหญ่เล็ก..........เล็กใหญ่