2 สิงหาคม 2548 00:01 น.
ดาวอังคาs
พิรุณเอยเอ่ยอ้าง...........................กรองความ
ธรรมชาติดลใจยาม......................มืดฟ้า
ขับเร้าบทกลอนงาม......................หลายหลาก
มุมเบิ่งต่างท่านข้า.........................เม็ดน้ำละอองปรอย
ฤดูฝนวนมาข้ามองย้อน
ดูบทกลอนหลายงานจารเรื่องฝน
ธรรมชาติวาดไหวดลใจคน
ได้เหม่อ-ยลผ่านแกลไม่แน่ใจ
บ้างยกประดุจแก้ว.......................จากโพยม
พรมชะใบบังโฉม.........................ป่าไม้
ประหนึ่งคีตประโคม......................เปาะแปะ เสนาะเฮย
แห้งเหือดจากคลายไร้...................ชุ่มชื้นราวสวรรค์
มีสองทางคำนั้นคำว่าฝน
ในบางคนเปรียบเป็นความสดใส
ดั่งดนตรีจากฟ้ากล่อมป่าไพร
ชะพรมไม้พรมหญ้าสุขารมย์
บางพวกกลับก่นร้อง.....................ฟ้าฝน
เปียกโชกแย่เหลือทน...................วุ่นแท้
เทหลั่งล่วงสายชล........................เจิ่งมรรค
ซ้ำโรครุมพ่ายแพ้.........................หวัดร้ายกรายกล้ำ
ความอีกทางต่างกันด้านตรงข้าม
มาในนามเปลี่ยนหมายกลายเป็นขม
ด้วยน้ำนองเต็มถนนเพราะฝนพรม
ต้องนอนซมพิษไข้ไม่สบาย
ตั้งเค้ามาช่วงนี้.............................ตั้งตัว
สดชื่นฤาหมองมัว.........................มิรู้
ครืนขู่อย่าเพ่อกลัว........................วิตก
ริรักใคร่ชื่นชู้................................มั่นไว้หาญเผชิญ
ฝนตั้งเค้าคราวนี้ชวนให้คิด
อาจจะเป็นฝนพิษฤทธิ์โหดร้าย
หรืออาจเป็นฝนหวานจวบวางวาย
ยากทำนายคอยลุ้นพิรุณเท