25 เมษายน 2548 23:42 น.
ดาวอังคาs
เลิกผ้าห่มตอนเช้าหนาวจริงเน้อ
ดูเทอร์โมมิเตอร์ลบองศา
พื้นเย็นเจี๊ยบค่อยค่อยย่างออกห้องมา
อาบน้ำอุ่นล้างหน้าตาไปทำงาน
ฝ่าหิมะเย็นเยียบเสียบแทงไส้
ใส่เสื้อโค้ทตัวใหญ่ให้อุ่นซ่าน
นั่งดูลมหายใจเป็นไอควัน
คงสายกันอีกเตื้อเบื่อเหลือทน
รถติดสาวยาวยืดอืดเป็นแถว
ต้องติดแกร่วหิมะหนาเต็มถนน
บุลโดเซอร์กวาดหิมะวุ่นอลวน
กว่าหลุดพ้นบางนาตั้งเก้าโมง
จิบกาแฟให้อบอุ่นวุ่นกับงาน
เปิดฮีทเตอร์อุ่นสราญ (เฮ้ย!) ควันโขมง
อ๊ะ! ได้ไงแย่จังนั่งงวยงง
สงสัยคงใช้งานหนักมิพักกัน
นั่งทำงานทั้งวันเสื้อกันหนาว
สามสี่ตัวมิหายร้าวนั่งตัวสั่น
ทำไมหนาวอย่างนี้หนาปวดจาบัลย์
หน้าหนาวนี้ขอให้มันรีบผ่านไป
*** บุลโดเซอร์ = รถกวาดหิมะ
20 เมษายน 2548 22:36 น.
ดาวอังคาs
1 ณ โรงพยาบาลบำบัดจิต
รวมบุคคลเสียจริตชิดรวมอยู่
ร้องดีดดิ้นเกลื่อนตานอนคุดคู้
รวมเด็กหญิงหนึ่งผู้อยู่หนึ่งคน
2 อยู่มานานหมอจะพาลประสาทตาม
ถึงในยามให้ยาไม่เคยสน
ปัดป้องถุยถ่มทิ้งดิ้นทุรน
เธอสบถแล้วก็ก่นบ่นเสียงดัง
3 ไม่เคยรับยาใดแต่แรกเข้า
เธอซึมเศร้าจับเจ่าแต่หนหลัง
หมกตัวตนบนความเหงาเร้าประดัง
กรีดน้ำตาร้างหลั่งอย่างตรอมตรม
4 อยู่มานานอาการไม่ดีขึ้น
ความสดชื่นห่างใจใบหน้าขม
ทอดออกมองหน้าต่างลำพังชม
นั่งคุยขรมอารมณ์ดีกับพิราบ
5 บรรดาหมอเห็นว่าไม่เข้าที
พิราบนี้มีเชื้อโรคคณานับ
ต้องจัดการเสียทีให้ล่วงดับ
ให้นักการมาขับไล่นกไป
6 เด็กน้อยแอบเอาอาหารหว่านให้กิน
หมอไม่อยู่มันก็บินกลับมาใหม่
พยาบาลในชุดขาวแอบมองใน
ห้องเด็กน้อยพูดอะไรไม่รู้ที
7 ภาษาแปลกแตกต่างจากผู้คน
ฟังสับสนนี่คำมนต์หรือคำผี
เพราะว่ายาไม่สนใจจะใยดี
กินให้มีสติสัมปชัญญ์
8 ถึงวันหมอก็ทึ้งรังนกพิราบ
เกรงเด็กน้อยจะรับเชื้อโรคนั้น
เสียงกรีดร้องจากเด็กน้อยดิ้นดึงดัน
ต้องจับมัดกับเตียงชั้นน้ำตาริน
9 ค่ำคืนนั้นพระจันทร์ดวงเต็มกลม
ได้ยินเสียงท่องโอมโอม! ตะเบ็งลิ้น
ดังมาจากห้องเด็กน้อยกลอยยุพิน
สดับยินไม่รู้ความจึงตามไป
10 เข้ามาใกล้ยิ่งฉายดังคำพิรุธ
มาเป็นชุดชวนขนลุกยากเกินไข
โถคนดีเกินกู่แล้วน่าเศร้าใจ
พูดอะไรไม่เป็นคำช้ำกมล
11 เร่งฝีเท้ากลัวก้าวร้าวทำร้ายตัว
น่าปวดหัวต้องรับมือเด็กสับสน
หยุดยืนอยู่หน้าห้องก้องตะโกน
สุดคำโหนสุดท้ายเสียงหายไป
12 ประตูกางผางเปิดเกิดงงงวย
แล้วเด็กน้อยแสนสวยหายไปไหน
พันธนาการที่มัดซัดกระจาย
ผืนผ้าม่านปลิวสยายในสายลม
13 ชะโงกหัวโผล่แกลแห่ร้องลั่น
สีแดงฉายฉาดฉานร้องกันขรม
เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรให้เป็นปม
ร้องระงมหมอพยาบาลแตกซ่านใจ
14 ปีกสีแดงแรงกล้าฝ่าขยับ
หายลอยลับทิ้งร้างทางคุกร้าย
บินพาดผ่านจันทร์ดวงกลมลอยพราวพราย
คงทิ้งไว้หนึ่งขนขลับระยับพรรณ
20 เมษายน 2548 22:34 น.
ดาวอังคาs
1 มีพ่อมดใจร้ายจับฉันขัง
ในเวียงวังสกาวขาวปั้นหยา
อยู่ในห้องเล็กเล็กแสนนานมา
กรีดน้ำตาหลั่งร้างอย่างตรอมตรม
2 เขาส่งให้สมุนร้ายมาป้อนยา
ในชุดขาวพราวตายัดยาขม
ฉันปัดป้องถุมถ่มทิ้งดิ้นครามโครม
คอยโอ้โลมยัดยาเบื่อให้เชื่อฟัง
3 ฉันกรีดเสียงดีดดิ้นมาตลอด
เป็นหนทางอยู่รอดในห้องขัง
สมุนร้ายแยกเขี้ยวขาวก้าวร้าวดัง
จะไม่กินก็ช่าง พลางถอนใจ
4 นี่กี่ปีกี่เดือนล่วงผ่านแล้ว
ไม่เห็นแววจะได้ออกไปไหน
เพื่อนคนเดียวที่อยู่ข้างไม่ห่างไกล
พ่อนกแก้วตัวใหญ่ข้างบานแกล
5 สีสวยสันพรรณระยับขับเป็นมัน
บอกกับฉันแล้วซักวันพาถาแถ
ออกจากห้องนรกหมกดวงแด
ให้สดับแปรถอดคำบ่นต้องมนต์ฟัง
6 เด็กน้อยเรียนเพียรรู้มาตลอด
จำต้องถอดใจบางหนในมนต์ขลัง
เพราะพ่อมดส่งสมุนอันน่าชัง
เข้ามาขวางพลางไล่นกผกผินไป
7 ต้องแอบแอบหลบซ่อนตอนกลางดึก
อดทนเรียนฝนฝึกตรึกมนต์ไข
ค่อยค่อยเพียรเรียนด้วยหวังอย่างตั้งใจ
จำเอาไว้ผิดไม่ได้ในพยางค์
8 พ่อมดร้ายใจเหิมเริ่มรู้แกว
ฆ่านกแก้วถึงรังเร่งถากถาง
ต่อแต่นี้มีแต่เราแล้วหนทาง
คืนนี้เราจะทิ้งร้างทางมืดมน
9 คืนนี้ได้เวลานั้นจันทร์เต็มกลม
นั่งหลับตาท่องโอมโอม! หวังเห็นผล
ต้องใช้เสียงที่ดังสุดแรงตน
ในคำมนต์ผลจะเกิดเปิดทางจร
10 ในเสียงส่งส่งผลถึงบนโพ้น
เสียงตะโกนด้นคำแปลกแตกสะท้อน
พ่อมดร้ายเอะใจใยมินอน
เสียงเธอชอนไชหูไม่รู้เรื่อง
11 พ่อมดพร้อมสมุนขับเคลื่อนกาย
ขยับย้ายเหาะไปใส่เต็มเครื่อง
เสียงคำแปลกยิ่งดังฟังยิ่งเคือง
เด็กน้อยเร่งขับคำเฟื่องปลดเปลื้องกาย
12 คลายกุญแจที่รัดทีละเปลาะ
เสียงดังเชาะ! กรงเหล็กขังง้างดังหมาย
ลมพัดมาแรงริ้วปลิวม่านคลาย
พ่อมดร้ายได้เห็นแต่แกลแตกโพลง
13 เสียงพึ่บพั่บขยับปีกหลีกบินหนี
พ่อมดบ้าใจผีควันโขมง
หลุดไปได้ยังไงใจมึนงง
เหลือไว้คงเตียงเปล่า เจ้าบ้าเอย!
17 เมษายน 2548 07:32 น.
ดาวอังคาs
กุ๊กกู๋ยามค่ำแล้ว................................ผีมา
อยากจะรู้หน้าตา...............................ภูติร้าย
ยลเห็นสื่อนานา.................................ปีศาจ จริงเฮย
ว่อบแว่บเห็นคลับคล้าย......................ใช่แล้วเจอผี
มีคำถามไว้มากมายอ้ายตัวดี
ที่เขาเรียกกันว่า ผี นี้อย่างไหน ?
บอกกันต่อมาว่าหลังความตาย
จะเป็นผีดุร้ายมากรายยล
ผีนั้นเกิดกับสิ่งมีชีวิต
ถ้าไม่มีชีวิตคิดรวมไหม ?
อยากรู้จริงเพราะมันคันในหัวใจ
ช่วยฉันตอบขานไขให้ฉันที
ตามรายงานบอกไว้ว่าเสื้อผ้าสวม
แปลตามรวมใส่เสื้อผ้าในหลายผี
ไร้ชีวิตแล้วทำไมติดกายี
หรือเสื้อผ้าเหล่านี้มีวิญญาณ ?
ผีนั้นเกิดจากคนได้อย่างเดียว
หรือว่าเกี่ยวรวมได้ในเดรัจฉาน ?
สัตว์ที่เห็นอยู่เกลื่อนตาครบวันวาร
ตายไปแล้วก็จะผันเป็นผีไป ?
ผีเอาแรงอันใดใช้เดินทาง ?
ตามตำราบอกว่าห่างเป็นไปได้
ไม่ตรงกับทางฟิสิกส์แรงใดใด
งงกันไหมการเยื้องกรายในตัวตน
นึกนึกต่อผลพวงชีวิตผ่าน
วิวัฒนาการนานผ่านพ้น
คงมีผีมนุษย์วานรในยุคโน่น
ถอยไปจนคงเห็นผีสัตว์เซลล์เดียว (หรือเปล่าหว่า)
เชื่อเรื่องผี คนเห็นผี มีมามาก
เพราะเห็นจากทีวีที่แลเหลียว
เพราะอ่านจากนิตยสารนั่นเลยเชียว
ถูกถ่ายทอดแบบบิดเบี้ยวหลายชั่วคน
ทุกวัฒนธรรมต่างบรรยายผี
ตามฐานเกิดที่ตัวมีตามเหตุผล
เพราะเรามีภาพของผีติดกมล
พบอะไรแปลกตาตนบ่นเจอผี
ยังมีคน หากินกับ ผีปีศาจ
จับเอาเรื่องมาแต่งวาดแซ่บอีหลี
เป็นนิยายเป็นเรื่องเล่าขายดิบดี
เพราะเขารู้ตลาดนี้ที่ทำตังค์
เชื่อเรื่องผีกันไหมครับเหล่าเพื่อนกลอน
ผมสะท้อนให้อ่านก็มีหวัง
ให้พี่พี่เพื่อนเพื่อนมีพลัง
อยู่ในทางวางสติสมประดี
อิสระต้องอยู่กับตัวเรา
ในความกลัวพาอับเฉาสติหนี
ปลดเปลื้องคราบแห่งความลวงบ่วงชีวี
คิดให้ดีว่าผีนี้ คืออะไร ?
11 เมษายน 2548 20:54 น.
ดาวอังคาs
กาลามสูตร พุทธองค์ จงสดับ
ขอให้รับ ข้อความ ตามเหตุผล
อย่าเชื่อถือ เพราะฟังต่อ ตามคำคน
อย่าเชื่อเพราะ ปฏิบัติด้น ต่อกันมา
อย่าเชื่อเพราะ เป็นข่าว ที่เล่าลือ
อย่าเชื่อถือ จากหนังสือ ตำราหนา
อย่าเชื่อเพราะ คาดเดาเอา ตามจินตนา
อย่าเชื่อเพราะ คะเนว่า น่างั้นงี้
อย่าเชื่อเอา ตามอาการ ที่เป็นไป
อย่าเชื่อเอา เพราะชอบใจ ตามลัทธิ
อย่าเชื่อเพราะ เห็นคนบอก ปัญญาดี
อย่าเชื่อเพราะ เห็นท่านนี้ คืออาจารย์
จงนำตน หลุดพ้น เอกเทศ
ปฏิเสธ การอ้อน วอนสวรรค์
อันต้นไม้ ดวงดาว หรือเขาชัน
สิ่งเหล่านั้น นั่นบ่ช่วย อำนวยคน
พุทธองค์ ปฏิเสธ เรื่องฤกษ์ยาม
อย่างมงาย งุ่มง่าม ตามศาสตร์โหร
ทรงตรัสว่า ผลประโยชน์ จะผ่านพ้น
ผู้โง่เขลา ที่กระโจน ในโหรคำ
ประโยชน์นั้น คือตัวฤกษ์ ของประโยชน์
จะต่ำชั่ว หรือเรืองโรจน์ แสนน่าขำ
ต้องมาจับ ดวงดาว เข้ารับกรรม
ดวงดารา จะมาทำ ช่วยอันใด