12 ธันวาคม 2548 02:03 น.
ดาวอังคาs
นั่งทางในเอาละมังจึงหยั่งเห็น
สิ่งที่เป็นความจริงแท้เชือนแชเฉย
ซัดฟันธงอย่างนี้ไม่ดีเลย
จะพูดเปรยสิ่งอันใดควรไตร่ตรอง
อคติคือตั้วกั้นกันความคิด
วิปริตแทรกพวยพุ่งคลุ้งสมอง
มาใส่สีตีไข่ตามใจปอง
บอกพวกพ้องรุมยำทำล่วงเกิน
แค่ "ขอโทษ" พูดง่ายง่ายจากใจจริง
อย่าเกรงกริ่งในถ้อยแจงแกล้งขวยเขิน
รู้ความจริงแล้วอย่าบิดคิดทำเมิน
ใช่เพลิดเพลินยามถูกด่ามันคาใจ
"ลูกผู้ชาย" ต้ององอาจไม่ขลาดกลัว
พูดคำมั่วเผลอพลั้งผิดคิดแก้ไข
นั่งคิดเองเออเองบรรเลงไป
ยกโทษได้เพียงแค่พ่อขอสมา
9 ธันวาคม 2548 21:28 น.
ดาวอังคาs
เมื่อยิ่งรักก็ยิ่งแค้นแสนสุดเจ็บ
มาถูกเหน็บให้ระกำช้ำหน่วงหนัก
เป็นเยี่ยงนี้ละหรือคือความรัก
ถูกหาญหักทิ้งขว้างช่างรันทด
จะวันนี้วันไหนก็ไม่ทราบ
จะลืมภาพความหลังฝังกำสรด
คนเคยรักมาออกฤทธิ์ทำคิดคด
ลวงโป้ปดนานามาหลอกคบ
ที่วันนี้ยืนอยู่ได้เพราะใจคิด
ว่าชีวิตเธอสิ้นดินฝังกลบ
อีกต่อไปชาติหน้าอย่าได้พบ
ขอน้อมนบกราบอ้อนวอนคุณพระ
9 ธันวาคม 2548 00:49 น.
ดาวอังคาs
เธอปล่อยมือวันนั้นฉันไม่พร้อม
แต่ต้องยอมด้วยเหตุเพราะไม่เหมาะสม
ทำตามแรงปรารถนาแห่งอารมณ์
เก็บชื่นชมเพียงครู่ยามตามพอใจ
เธอดึงดื้อก็พร้อมจะยอมรับ
จะสับปลับกี่ครั้งยังทนไหว
ตามออดอ้อนตอนเธอเต้นเป็นฟืนไฟ
เป็นของใครมากี่ครั้งยังไม่แคร์
ต้องขอโทษทุกครั้งไปแม้ไม่ผิด
ในความคิดต้องคล้อยตามห้ามคิดแส่
ต้องประคองอารมณ์ป่วนที่ปรวนแปร
ฉันได้แต่คอยเคียงข้างอย่างอดทน
ฉันต้องเสียน้ำตามากี่ครั้ง
ฉันต้องยั้งอารมณ์บ้ามากี่หน
ฉันต้องเสียเพื่อนมากมายไปกี่คน
เพื่อเปรอปรนให้เธอนั้นวันผ่านมา
เธอขโมยคืนวันของฉันไป
ยามที่ใจอาจพานพบคนคบหา
อยู่เคียงข้างมอบความรักมิหักลา
อนิจจาเธอปล่อยฉันฝันเพียงลม
6 ธันวาคม 2548 01:48 น.
ดาวอังคาs
"เขา" ได้เล่าเรื่องราวกล่าวทิ้งไว้
สองช่างซ่อมปล่องไฟในตึกเก่า
เดินออกมาหนึ่งร่างช่างเกลี้ยงเกลา
แต่เขม่าจับติดตรึงอีกหนึ่งคน
"เขา" ได้ตั้งปุจฉาว่าคนไหน
ที่จะไปอาบน้ำก่อน ? พร้อมเหตุผล..... ?
เด็กคนหนึ่งตอบทันใดในบัดดล
"คนตัวหม่นเพราะเขม่าควันนั่นยังไง"
"เขา" ให้คิดให้ดีก่อนที่กล่าว
คนตัวดำเห็นคนขาวยังพราวใส
ก็ต้องคิดว่าตัวเองมิเป็นไร
ไร้ปื้นจับติดตัวให้ได้หมองมัว
"เขา" ให้คิดแนวทางต่างกลับผัน
คนผ่องพรรณเห็นคนดำคล้ำไปทั่ว
คงจะมองว่าเราเขรอะเปรอะทั้งตัว
เห็นผิดขั้วแตกต่างระหว่างกัน
"เขา" ให้เด็กตอบอีกครั้งอย่างพินิจ
เธอจงคิดให้รอบคอบก่อนตอบฉัน
เด็กจึงตอบถ้างั้นต้อง "คนผ่องพรรณ
ไปขัดสีฉวีวรรณก่อนนั่นไง"
"เขา" เฉลยคำตอบนี้มิถูกต้อง
ออกจากปล่องเหมือนกันมันแปลกไหม
หนึ่งสะอาด.. หนึ่งหมองหมาง.. ได้อย่างไร
มิตรองในความจริงสิ่งอันควร
"เขา" สอนสั่งกำชับกับลูกศิษย์
คำตอบผิดเพราะถามนำทำให้ป่วน
จะมิพบเรื่องแท้จริงสิ่งทั้งมวล
เมื่อกระบวนความคิดถูกปิดลง
คือ "ตรรกะ" จำไว้ให้แม่นมั่น
จะพบมันต้องอย่าให้ใจเผลอหลง
กระโดดจากสิ่งประจำเคยดำรง
จงปลดปลงโซ่เส้นเขื่องเรื่องเคยชิน
ในทิฐิแห่งสันดานอันแน่นหนา
คือมายาหลอนจิตนิจศีล
สลัดฉากที่ล่อวางหวังตีกิน
เปิดใจจินต์ก้าวพ้นเล่ห์กลลวง
1 ธันวาคม 2548 22:29 น.
ดาวอังคาs
คุณทหารเป็นเพื่อนกับตำรวจ
ท่านนักบวชเป็นเพื่อนนักกฎหมาย
นั่นสมหญิงเป็นเพื่อนกับสมชาย
ส่วนเจ้านายเป็นเพื่อนกับลูกน้อง
ลุงนักการฯ เป็นเพื่อนกับหมอฟัน
ท่านนายพันเป็นเพื่อนกับตากล้อง
คุณสมหมายเป็นเพื่อนคุณสมปอง
เมืองระนองเป็นเพื่อนปัตตานี
เจ้ามดแดงเป็นเพื่อนเจ้ามดดำ
โน่นหมอลำเป็นเพื่อนกับหมอตี๋
หนุ่มนักมวยเป็นเพื่อนกับนางชี
ตาหมอผีเป็นเพื่อนนักกีฬา
คุณสนธิเป็นเพื่อนกับท่านแม้ว
เจ้าน้องแมวเป็นเพื่อนกับน้องหมา
เฒ่ายาจกเป็นเพื่อนกับดารา
น้องเลขาฯ เป็นเพื่อนกับพ่อครัว
ท่านผู้แทนเป็นเพื่อนกับชาวบ้าน
หนุ่มนายพรานเป็นเพื่อนบังขายถั่ว
พิธีกรเป็นเพื่อนคนเลี้ยงวัว
คนขายตั๋วเป็นเพื่อนนักกวี
ล้วนหลากหลายชนชั้นได้พานพบ
มาบรรจบในเส้นทางต่างวิถี
ต่างที่มาก็ตรึงติดมิตรไมตรี
ขอเพียงมีความจริงใจให้แก่กัน
พิศดูเถิดเพื่อนพ้องโปรดลองตรึก
อย่าเพิ่งนึกผลักไสให้โศกศัลย์
หนึ่งรู้จักอีกหนึ่งพึงแบ่งปัน
อาจเติมฝันกับใครได้อีกหลายคน