30 พฤศจิกายน 2548 23:22 น.
ดาวอังคาs
มืดค่ำเข้าย่ำคืน.................................ยามดึกดื่นแสนตื่นใจ
จันทร์แจ้งทอแสงใย.......................... เห็นดาวใสได้ชัดตา
น้องพี่มีรอยยิ้ม...................................พลางฉ่ำลิ้มภาพเสน่หา
แสงดาวพราวดาษดา..........................ในธารายังทอเงา
จุดเทียนเปลี่ยนอารมณ์......................ร่วมผสมภิรมย์เหล้า
อำพันนั้นยั่วเอา..................................หลงแสงเย้าจากเงาไฟ
ลมริ้วพริ้วโชยโบก.............................ไร้ความโศกโลกสดใส
หล่อหลอมยอมมอบใจ........................ติดตรึงไว้ไม่รู้เลือน
ดื่มด่ำธรรมชาติ..................................ตามใจวาด ณ ริมเขื่อน
คืนนี้ที่ย้ำเตือน....................................คำว่าเพื่อนมิเชือนแช
คลื่นซัดพัดโยกโยน..............................คนเอนโอนอยู่บนแพ
ระรอกป่วนปรวนแปร...........................สุดตาแลห่างฝั่งมา
คืนค่ำเราคร่ำครวญ............................เสียงลอยหวนป่วนชั้นฟ้า
สอดร้อยถ้อยคีตา................................ปรารถนาแห่งผองเรา
30 พฤศจิกายน 2548 01:46 น.
ดาวอังคาs
วันนี้เตรียมกินปลา............................คอยตั้งตานึกรายการ
แปลงทำเป็นอาหาร...........................ให้สำราญปากเปรมปรีดิ์
ต้มยำคงจะยอด.................................หรือจะทอดกระเทียมดี
น้ำลายสอทันที...................................เครื่องเครามีเตรียมพร้อมมา
พร้อมเบ็ดอีกหกคัน............................นั่งนึกฝันหมู่มัจฉา
คงฝูงมหึมา ......................................ว่ายคอยท่าในวารี
เหยื่อก็เตรียมพร้อมพรัก....................นั่นเหยื่อหมักเราก็มี
ไส้เดือนอวบอ้วนดี..............................แล้วก็นี่รำขนมปัง
ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว...........................เหวี่ยงเป็นแนวริมชายฝั่ง
ยิ้มกริ่มอย่างมีหวัง.............................แล้วมานั่งถองสุรา
จำเนียรกาลผ่านผัน............................เบ็ดเพียงสั่นเพราะลมพา
อยู่ไหนเล่าฝูงปลา...............................ไยไม่มาฮุบเบ็ดเรา
ผ่านไปหลายชั่วโมง...........................แค่มาโผงแกล้งยั่วเย้า
ความหวังเริ่มบางเบา........................ของแกล้มเหล้าเราไม่มี
ยังบ่นไม่ทันเสร็จ................................อ้าว! นั่นเบ็ดไปไหนนี่
ปลาดึงลงวารี.....................................เหล่าน้องพี่คว้าไม่ทัน
จมหายสายธารา................................วับกับตาตะลึงงัน
เบ็ดวางตั้งหลายคัน............................เดาะมาดันเอาคันแพง
24 พฤศจิกายน 2548 22:03 น.
ดาวอังคาs
ฉันคอยอยู่รักเธอนั้นเป็นฉันใด
ไม่เข้าใจคำที่เธอเสนอฉัน
โปรดจงรออย่าท้อแท้แน่ใจกัน
ให้ตั้งมั่นอย่าสงสัยเชื่อใจพอ
พยายามเข้าใจในคำพูด
ข้อพิสูจน์เธอนี้มีไหมหนอ
ถ้าให้ฉันเปี่ยมหวังเพียงนั่งรอ
อยากให้ขออธิบายเพื่อคลายใจ
เลยติดหัวกลืนกล้ำกับคำถาม
เธอมีความรักแท้แน่หรือไม่
ได้โปรดตอบคำถามอย่าข้ามไป
ความสงสัยที่เต็มกลั้นคงบรรเทา
เธอรักฉันหรือไม่ใคร่อยากรู้
เราจะคู่เคียงแน่แท้หรือเปล่า
ความจริงใจแห่งรักยากเกินเดา
จะให้เฝ้าเวียนปุจฉากี่คราเอย
22 พฤศจิกายน 2548 21:55 น.
ดาวอังคาs
ตั้งมั่นเข้าใจในความรัก
ต้องหนักแน่นในใจเราสอง
พิธีการใดไม่หมายปอง
เคียงคล้องมั่นใจในสองเรา
เข้มแข็งมานานผ่านเวลา
คิดว่าส่วนลึกรู้สึกเหงา
กอดนั้นนานแล้วแสนแผ่วเบา
ยังเย้ายวนย้อนคืนก่อนมา
โปรดแสดงความรักสักครั้งหนึ่ง
ให้ซึ้งดังเก่าเรียกเร้าหา
เหน็บหนาวจับไล้กายกายา
ปรารถนาเธอนั้นปันอุ่นไอ
โอบกอดอีกครั้งดังเก่าก่อน
ช่วยย้อนอีกคราจะได้ไหม
ความทรงจำนั้นกลัวผ่านไป
คืนความมั่นใจให้ฉันที
20 พฤศจิกายน 2548 23:20 น.
ดาวอังคาs
วันอาทิตย์วันนี้ที่สยาม
มองดูความพลุกพล่านย่านตลาด
แต่ละนางแต่ละสาวเกินเดาคาด
อย่าให้พลาดหนุ่มเหน้าเฝ้าจับตา
ตลาดนัดขนาดใหญ่ไม่เสียเงิน
ดูให้เพลินตามใจวาดปรารถนา
นั่นคอยใครสายเดี่ยวเสียวอุรา
เหมือนทายท้าให้จ้องมองดูเธอ
มาทางนั้นกลุ่มใหญ่ไม่มีเส้น
หายหลบเร้นเป็นเกาะถันมั่นเสนอ
บ้างเป็นแบบเอ็นใสหาไม่เจอ
บ้างแกล้งเผลอลืมชั้นในใส่ปิดบัง
โน่นก็สั้นนักหนาเห็นขาอ่อน
ดูซิ่หล่อนแผ่เผื่ออวดเนื้อหนัง
ใส่ผ้าแถบหรือเสื้อนั่นถึงสั้นจัง
เห็นไปยังกลางเอวองวงสะดือ
เอ๊ะ! นั่นมุ้งหรือเสื้อผ้าเอามาใส่
มองลอดไปเนื้ออนงค์คงไม่ถือ
แต่ละชายมองนางครางอื้อฮือ!
นี่น่ะหรือแฟชั่นไทยวิไลจริง
ใส่มาโชว์ให้ดูรู้อยู่หรอก
ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ใช่ไหมหญิง
อาจจะกลัวนวลใยไร้คนอิง
จึงตัดทิ้งผ้าส่วนเกินให้เพลินตา
มาขอดูอย่างเดียวอย่าเฉียวฉุน
นี่เป็นบุญเท่าไหร่แล้วแก้วใจจ๋า
ที่ไม่ลวงฉุดนงเยาว์เข้าพนา
อย่าคิดด่าใจทรามยามจ้องมอง