16 ธันวาคม 2547 01:20 น.
ดาวอังคาs
ฉันไม่ใช่กวีกรน่าเอาเยี่ยง
จับคำเรียงเอียงหูรู้ดูถูไถ
นามของฉันมิอุโฆษโลดก้องไกล
แค่คนบ้วนคำออกไปไม่น่าฟัง
ภาษาหยาบกักขฬะต่ำห้ำดวงจิต
เด็กตัวน้อยตัวนิดคิดหน้าหลัง
เลือกใช้คำต่ำช้าไม่น่าฟัง
เอาเยี่ยงอย่างต่างพี่ไว้ดีเอย
16 ธันวาคม 2547 00:30 น.
ดาวอังคาs
ควันเทาเป่าปอด
ไหม้มอดเสื่อมโทรม
ความตายประโคม
โหมห่อเก็บตุน
เพาะโรคเชื้อร้าย
มลายจบจุล
เหล้าขาวเซี่ยงชุน
อุดหนุนสัปเหร่อ
ตะปูตอกโลง
ตีโผงใต้เฌอ
กลบเถ้าเหย้าเกลอ
พบเจออีกวาร
๑ มวน ๑ มุ่น
ควันกรุ่นเทาธาร
กัดกร่อนลมปราณ
พบพานความตาย
16 ธันวาคม 2547 00:26 น.
ดาวอังคาs
ภาคมนุษย์
ทะเลบ้าพินาศคลั่ง คนก่น
ฤทธิ์ร้ายสุดเหลือทน แรงคลื่น
เรือพายเรือใหญ่ยนต์ โยนคว่ำ ด่ำจม
มนุษย์ร้องบ่ต้านฝืน คลื่นร้ายใหญ่เยง
ภาคมหาสมุทร
อันนามข้านั้นว่า มหาสมุทร
ดูก่อนเถิดมนุษย์ ผู้น้อย
ข้านิ่งทว่าลมยุด ฉุดข้า ถาโต้
สดับก่อนปล่อยร้อนถ้อย ข้านักปรักปรำ
(แก้ไข ๑๙-๐๓-๔๘)
ภาคมนุษย์
ทะเลบ้าพินาศบ้า อลวน
ฤทธิ์ร้ายสุดเหลือทน สะท้าน
เรือข้ามผ่านสมุทรชล โยนคว่ำ ดิ่งเฮย
มนุษย์บ่นบ่ทนต้าน คลื่นร้ายใหญ่ทราม ฯ
ภาคมหาสมุทร
อันนามข้านั้นว่า มหาสมุทร
ดูก่อนเถิดมนุษย์ นิดน้อย
ข้านิ่งทว่าลมยุด ดึงฉุด ข้านอ
สดับก่อนปล่อยร้อนถ้อย ฉุกบ้างพิจารณา ฯ
15 ธันวาคม 2547 00:09 น.
ดาวอังคาs
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
หล่อนหลุบตัวเข้าเต๊นท์
นึกถึงคนรักที่จากเธอไป
แล้วเธอก็.........
ฝนตกเปียกปอนฉ่ำหวาน กอหน่อไม้บาน
ผุดโผล่โอ้อวดหนั่นดิน
แทงยอดเหนือบ่อน้ำริน จิตหวนถวิล
นิ้วดิ้นปลิ้นแปลบแลบไป
รอบหน่อนิ้วจ่อถูไถ ลื่นแล่นแอ่นกาย
ร่องไร้หญ้ากอก่อกวน
นิ่มแน่นอุ่นแอ้นหยุ่นยวน กลีบดอกลำดวน
บี้พับยู่ยับตึงไต
อัตยียวนชวนไช จากช้าสู่ไว
จ่อใกล้สุขาวดี
แมวครางกลางย่ำราตรี อื้อฉาวสุขี
เสียงนี้แว่วแว่วยาวไกล
ไม่สนไม่เกรงใจใคร กระทบโสตไป
เอะหูเตะใจบางคน
13 ธันวาคม 2547 23:37 น.
ดาวอังคาs
ทะเลดาววาววับจับท้องฟ้า
ยากอรรถาจารึกเป็นอักษร
หัวใจข้าเปล่าเปลี่ยวเดี่ยวอาวรณ์
จึงจากจรนคราดั้นมาไกล
ที่หมอกขาวพราวร่วงพุ่มพวงฝอย
ซึ่งบนดอยภูสูงสนไสว
ที่แสงดาววาววับจับดวงใจ
ซึ่งรายล้อมคนมากมายแต่เหงาตรึง
ธรรมชาติห่อหุ้มชุ่มดวงจิต
ธรรมมิตรยามนี้คือที่พึ่ง
ชีวิตสาวหนาวเหน็บเจ็บรุมรึง
มากางขึงเต๊นท์ผ้าใบใต้ต้นพัก
แล้วนั่งทอดอารมณ์ชมราวป่า
หยิบกีต้าร์มาคลอคลามิหน่วงหนัก
เหล้ามีหยิบจิบนิดชุ่มจิตนัก
เพลง ความรัก พัดลอยปล่อยตามลม
เวลาหลับกลับตื่นดื่มด่ำดาว
แกล้มกับเหล้าลงคอบ่ผสม
แกล้มน้ำตาเพลาคิดยามชิดชม
เคยสุขสมแล้วมาล้างห่างพ้นกัน
เคยคอยเคล้ายวนยีชะโลมจูบ
เคยเฝ้าลูบเฝ้าไล้ดึกผายผัน
เคยกกกอดโอบแนบแอบชิดกัน
เคยสุขสันต์ลึกล้ำฉ่ำดวงใจ
ทอดอารมณ์ตาหลับดับแสงดาว
ไล่ความหนาวยกจอกดอกสุดท้าย
รุนกีต้าร์เข้าเตนท์ถดเร้นกาย
ระลึกหมายใกล้คนรักที่หักพัง
รูดซิปติดปิดเต๊นท์เอนอินทรีย์
ดวงฤดีหมายถึงซึ่งเนื้อหนัง
แท่งเนื้อหนั่นโนมแน่นแล่นจากกัน
รูดซิปเปิดหลืบสวรรค์เร่งครรไล