18 มิถุนายน 2548 20:55 น.
ดาวอังคาs
ช่วยดูน้องด้วยเจ๊ น้องอกหัก
มีความรักไม่สมจมดิ่งหาย
อีกรู้ข่าวน้องสาวไม่สบาย
เศร้าฟูมฟายรันทดหมดคนอิง
ช่วยดูน้องด้วยเจ๊ น้องแอบกิน
เหล้าเบียร์รินทิ้งไว้คล้ายผีสิง
เปลี่ยนเป็นคนละคนชนเอียงพิง
คล้ายตัวปลิงเกาะติดชิดคนเคียง
ช่วยดูน้องด้วยเจ๊ น้องร้องไห้
เพลงอะไรแว่วมาได้ยินเสียง
ของแบล็คเฮดเหตุช้ำตามสำเนียง
ทิชชู่เกลี้ยงหมดโต๊ะโปะดวงตา
ช่วยดูน้องด้วยเจ๊ น้องซึมซึม
ดูนั่งขรึมไม่สนุกตามประสา
อยากกลับบ้านกระมังนั่งก้มหน้า
ถามกี่ที (นู๋) บอกว่า ม่ายยยย...เปนน...รายยยยย......(อึ๊ก ๆ)
ช่วยดูน้องด้วยเจ๊ ผมเป็นห่วง
หวั่นจะถูกล่อลวงพาล่วงหาย
ส่งถึงห้องเลยนะจะใจคลาย
ขอบคุณเจ๊มากมายได้คลายใจ
จำเนียรกาลผ่านมาเกือบห้าทุ่ม
กลับต้องกลุ้มย้อนเล่นเป็นไปได้
เจ๊ถามว่า แล้วกู จะกลับไง (ซะงั้นอ่ะ!)
หัวกูหมุนเมามายตายแล้วกู !!
(เฮ้อ..)
ช่วยดูเจ๊ด้วยน้อง เจ๊แก..มาววว...
เจอผู้สาวไหนว่างเอียงข้างถู
อารมณ์ทอมล้อมโอบซบเคียงภู
จู้ฮุกกรูซู่ซ่าออกทะเล
ช่วยดูเจ๊ด้วยน้อง จะกลับแล้ว
ผีของน้องจรแจวไปสิงเจ๊
ฝากเจ๊กลับด้วยน้องย่องโซเซ
เก็บเอามาฮาเฮ เจ๊ กะ เอม
15 มิถุนายน 2548 20:54 น.
ดาวอังคาs
กลอนก่อนนี้ที่แล้วให้แล้วไป
อุตส่าห์ปิดซ่อนความในใจสงสาร
ที่บอกลาห่างร้างนางนงคราญ
เพราะความจริงที่เห็นนั้นมันตำตา
ณ วังแก้วคืนนั้นจันทร์วันเพ็ญ
ชวนเดินเล่นริมทะเลเทปัญหา
แล้วบอกรักจนเราหลงงงอุรา
ใจดวงน้อยที่หาญกล้ากลับละลาย
หนึ่งเป็นหญิงหนึ่งเป็นชายใต้เงาจันทร์
บรรยากาศชวนไหวหวั่นพลันลื่นไหล
ปล่อยอารมณ์ไต่ตามความพอใจ
จวบสุดท้ายเข็มกับด้ายใกล้เข้าทาง
อันอาภรณ์เจ้าหล่อนร่อนสะบัด
ปรากฏชัดถนัดในใจเต้นผาง
เก็บเสื้อผ้าคว้าให้ไวเกือบวายวาง
ความกระจ่างนางบ่จริงหญิงดั่งยล
ถามผู้ชมความสมจริงหญิงหรือชาย
กดชัตเตอร์วาบสุดท้ายให้ฉงน
เกือบโดนจับขยับหมายชายปลอมปน
แท้วางแผนจะซ้อนกลชนทวาร
14 มิถุนายน 2548 21:59 น.
ดาวอังคาs
ทิ้งคำถามคำนั้นให้ฉันไว้
ฉันขอผลัดผ่อนไปอยู่หลายครั้ง
ทวงกระหน่ำคำตอบกลัวบอบพัง
เกรงผิดหวังช้ำชอกตอกหัวใจ
ที่วังแก้วต้องเบลอเธอกระซิบ
ตาขยิบหลิ่วเค้เทเรื่องไข
สารภาพวาบหวามทราบความใน
ยังห่วงใยมิตรภาพขนาบคลอน
จะบอกเธออย่างไรให้รู้เห็น
ไม่อยากเป็นคนย้ำตามหลอกหลอน
เธอจะรับได้ไหมใจบังอร
หยุดออดอ้อนร้อนเปล่าเฝ้าเวียนวน
บอกคำตอบสุดท้ายใจแค่เพื่อน
จงลืมเลือนที่ทำไปใช่ใจสน
ที่ไปแล้วแล้วไปนะอย่ากังวล
หยุดปะปนเรื่องราวเราเพื่อนกัน
14 มิถุนายน 2548 00:14 น.
ดาวอังคาs
สวยงามเหลือเกินดินแดน........................บ้านเก่าเหย้าแคว้น
เมืองแมนพ้นแดนกันดาร
กรุงไกรดั่งในความฝัน.............................ครบถ้วนครบครัน
บันดาลตามใจจินตนา
เหม่อมองหมายดวงดารา.........................ขับกายป่ายฟ้า
สอยมาหล่นร่วงลงกร
เพ่งพิศหวังปลิดจันทร.............................คว้าเอาไว้ก่อน
นั่งนอนเดาะเล่นเย็นลม
มิดเม้นแห่งทุกข์ระทม.............................ล้วนล้วนสุขสม
เหินลมว่อนร่อนเพลินใจ
ย่างเดินลืมแล้วทำไง...............................ตัวข้าบินได้
จรไปจรมาถาบิน
บินเคล้าเกี้ยวเย้าภุมรินทร์........................ฉ่ำเคลิ้มผกผิน
บดินทร์แห่งโลกุตรา
ไม่มีราตรีทิวา.........................................ร้างไร้เวลา
ทิศานุทิศฤทธิ์เปล่ง
อยู่อย่างไม่ต้องยำเกรง.............................ไป่คนข่มเหง
บรรเลงเพลงขับขานครวญ
ตลบควันกลิ่นอันอบอวล..........................ส่งใจรัญจวน
มิหวนคืนกลับแน่นอน
วาบกายผลุบพรายยซุกซอน.....................หลืบมุมนาคร
เกลือกนอนกลิ้งกลั้วจิตจม
หอมหอมรุมตอมดอมดม.........................สุขแสนสุขสม
ชิดชมเชยรู้ผู้เดียว
14 มิถุนายน 2548 00:13 น.
ดาวอังคาs
หดยุบฟีบฟูบสายสูบเข้า
พ่นออกป่องเป่าซ้ำซ้ำหน
เวียนวนวะว่องไออึงอล
กวักมือลีบเรียกมายลเข้าตัวเมือง
หลืบตึกบ้านร้างหนทางข้า
ปากประตูนคราฟ้าเหลือง
ก้าวเท้าสืบแดนมลังเมลือง
ย่างเยื้องใจเย็นจรลี
ของเหลวสีขาวขุ่นในถุง
เย้ายวนคลุ้งจูงจิตจริตผี
พะพวยพุ่งรูปนางฟ้านางเทวี
ขยับขยี้ไหลหลากมาจากมือ
ตาเคลื่อนจิตคล้อยเริ่มลอยห่าง
จูงมือเดินทางอย่างกระสือ
เร่งโหมสูบเข้าเป่ากระพือ
ให้หลุดพ้นฝั่งยึกยือข้ามมิติ
เปลวไอกรีดกร้านผ่านสมอง
เสียงประโคมรับฉลองนี่ทางนี้
รงค์จรัสเจิดจ้าแผดทวี
เปรมปรีฉ่ำลิ้มอิ่มวังวน
ถึงแล้วสุขแดนธรณี
พลพรรคทาสผีประสบผล
หลุดผ่านข้ามมาทุกตัวตน
ตามบุคคลแต่ใจไปตามทาง