5 กรกฎาคม 2548 23:12 น.
ดาวอังคาs
เงยหน้าเห็นเพียงดวงดาวเจ้ากระพริบ
ดูวับวิบละอองดาววับวาวใส
ฟ้ายิ่งมืดยิ่งขับเร่งเปล่งนวลใย
ดูสดใสแต่ใจข้าหาเทียบทัน
ช่างเงียบเหงาเงาต่างเกลอละเมอหนาว
ขอดวงดาวรับฟังข้ามองหน้าฉัน
ส่งดาวใจเติมไอรักหลากรำพัน
แล้วเธอนั้นพลันเข้ามาปรากฏกาย
ขอให้ค่ำคืนวันนี้มีแต่เรา
อิงไหล่เฝ้าดูดาวดวงทั้งปวงฉาย
มีความรักฟูมฟักกันหวานมิคลาย
เป็นเจ้าหญิงทิ้งความหมายจวบวายวาง
เปรียบเธอเป็นดั่งนางฟ้าพาชื่นจิต
อยู่กลางใจแนบสนิทปลิดหมองหมาง
เปลี่ยนชีวิตที่เคยหลงงงเส้นทาง
เปลี่ยนหัวใจที่เปลี่ยวร้างด้วยหวานคำ
อธิบายเพียงแค่ไหนไม่เทียมเทียบ
ยากเกินเปรียบความรู้สึกที่ชุ่มฉ่ำ
มาเถอะหนาฟังข้าขานผ่านลำนำ
แด่เจ้าหญิงที่เลอล้ำหวามดวงใจ
5 กรกฎาคม 2548 01:36 น.
ดาวอังคาs
๏ ดาวหางดวงแกร่งก้อน....................ทะยาน
นานล่วงโบราณกาล............................พุ่งคว้าง
โคจรผ่านอังคาร.................................แลพฤ หัสนา
มนุษย์มิปล่อยร้าง...............................มุ่งค้นศึกษา ฯ
โคจรกายมุ่งผายผันผ่านเรื่องราว
กี่ดวงดาวกี่หนาวร้อนฟ้อนหางพลิ้ว
เทมเพลวันนั้นคือชื่อระบือปลิว
พุ่งโฉบฉิวลิ่วโค้งฟ้ามาเนิ่นนาน
ถือได้ว่าเป็นดาวหางบุราณโข
ฝุ่นก้อนโตติดน้ำแข็งแรงมหาศาล
วันก่อเกิดกำเนิดพร้อมจักรวาล
หมุนเทียมโลกเมื่อถึงกาลผ่านเข้ามา
นาซ่าริเริ่มโครงการหลายล้านดอลล์
สิบปีก่อนวางแผนการมานานหนา
เป้าประสงค์เพิ่มพูนใส่ในปัญญา
ในความลับจักรดาราพาคลี่คลาย
ดีพอิมแพ็ค ตามชื่อนั้นยานอวกาศ
ที่ส่ายอาดขึ้นไปล่าหาความหมาย
เผชิญหน้า เทมเพลวัน อันเยี่ยมกราย
ระบือโหมโพยมพรายไปต่อกร
ตามแผนการณ์ปล่อยยานลูกรุกเข้าชน
อนุมานการส่งผลชนดอกศร
เกิดเป็นหลุมกว้างล้นหลามสนามฟุตบอล
ลึกลงไปเท่าตึกซ้อนสิบสี่ชั้น
เกิดเป็นควันพวยพุ่งฟุ้งแรงกร่อน
น้ำแข็งก้อนแกร่งกระทุ้งมุ่งกระทั้น
แรงระเบิดไดนาไมท์หนักห้าตัน
ฉีกห้ำหั่นบั่นดาวหางยังมิคลาย
ดีพอิมแพค ถอยตัวห่างสังเกตุการณ์
เพื่อถ่ายรูปทุกมุมด้านหวั่นเสียหาย
แรงระเบิดที่ฟันฟาดอาจทำลาย
ส่งข้อมูลมาชมฉายไม่พร่าจาง
อันเนื้อเรื่องและชื่อยานขานเหมือนหนัง
คล้ายคลึงดั่งการทำลายในดาวหาง
ภาพยนตร์ - ระเบิดเหวี่ยงเลี่ยงเส้นทาง
ในความจริง - ระเบิดวางเพื่อทางวิทย์ฯ
ดารากรคำนวณไว้ไม่ต้องหวั่น
การโคจรดาวดวงนั้นไม่พลาดผิด
ถึงระเบิดเกิดหลุมแบะแค่น้อยนิด
อย่าเพิ่งคิดตื่นตูมตนชนโลกา
มีเรื่องราวอีกมากมายในฟ้ากว้าง
มิปล่อยร้างในทางนั้นหมั่นค้นหา
จับเทกรองกระบวนวิทย์ฯติดปัญญา
ไขความลับการเกิดมาหาตัวตน
3 กรกฎาคม 2548 20:58 น.
ดาวอังคาs
ภาพเยาว์วัยในความฝันฉันแสนหวาน
เจ้าชายหนุ่มในนิทานทะยานม้า
หน้าเข้มคมสมชายแกร่งแกว่งสาตรา
ออกเดินทางเพื่อค้นหาชายาครอง
ผ่านมาแล้ววันวัยนั้นฉันเติบใหญ่
ก็เข้าใจแค่ใฝ่เพ้อละเมอหมอง
ไร้นางซินฯสโนวไวท์ไร้ใครปอง
ไร้เจ้าชายขอจับจองดองร่วมนาง
ใช่ฉันรู้ว่าตัวฉันมันเป็นใคร
ไม่ได้หวังซะจนไกลใจหมองหมาง
แค่ผู้หญิงเฉกทั่วไปริมรายทาง
อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวอ้างว้างปล่อยวางได้
เป็นผู้หญิงธรรมดาหาควรคู่
ฉันก็อยู่มีความสุขทุกข์ทนไหว
ความรักลวงล่วงผ่านมาแค่ผ่านไป
ยัดใต้เตียงเพียงปิดไฟได้ผ่านวัน
หมุนเวียนวนชนรุ่งเช้าเจ้าหญิงน้อย
ไม่เศร้าสร้อยคอยเจ้าชายในความฝัน
โบกบ๊ายบายทุกข์ใต้เตียงเดินเลี่ยงมัน
เริ่มวันใหม่เช้าวันจันทร์อันสวยงาม
30 มิถุนายน 2548 23:01 น.
ดาวอังคาs
ลงทุนถอยในเสื้อผ้าราคาแพง
เคราที่พ้นคางโผล่แทงแต่งเกลาเกลี้ยง
ก่อนจะพรากจากชายคากระจกเมียง
ผมเผ้าเหวี่ยงปัดเป๋ไป๋จัดให้งาม
กลายจะดูผู้พูดน้อยคอยนั่งนิ่ง
แต่ความจริงความข้างในใจล้นหลาม
ก้อนหทัยเร่งระรุมเต้นตูมตาม
ตอนเมื่ออยู่ใกล้นงรามมาตามนัด
ใช้สายตาสื่อมากว่ากล่าววจี
รู้คารมไม่ค่อยดีจะชี้ชัด
กระพริบพรายเพ้อพร่ำพรอดกอดกระหวัด
โบกสะบัดความนัยน์ตาพากำจาย
สร้างเรื่องราวที่ลุ่มลึกดูลึกซึ้ง
ประโยคเด็ดให้ติดตรึงขึงความหมาย
คำประพันธ์ชั้นอุโฆษโลดแพรวพราย
จำเอามากรีดละลายใจนางพลัน
มีอาการขานสนองปองเรื่องไหน
โอเคครับ ไปก็ไป ได้ทั้งนั้น
นู่นก็ดี นี่ก็ได้ ใช่ตามกัน
สารพันฉันตามใจในอนงค์
ถึงกับเปลี่ยนรสนิยมวนกลับหลัง
ก่อนเคยฟัง Linkin Park ถากเสียงหลง
แปรเปลี่ยนไปฟัง บอย โกสิยพงษ์
เพลงแผ่วพลิ้ว chill chill ลงก็คงดี
เลี้ยวผิดซอยเดินลอยใจไปทางนั้น
โทรศัพท์กดผิดกันติดทางนี้
อยู่ทุ่งครุใจมุวน...........................
บรรยากาศประดามีสีชมพู
นอนไม่หลับขยับซ้ายป่ายพลิกขวา
มโนเห็นเป็นดวงหน้ากระซิบหู
"หลับฝันดี นะเจ้าคะ" ชะใจชู
กระสับส่ายก่ายคุดคู้คู่เพียงเงา
อีกอาการหนึ่งที่เห็นที่เป็นไป
เกิดนึกเบื่อมิเหลือใจในรสเหล้า
เคยสังสรรค์ร่วมฉลองเพื่อนของเรา
ผันกลับเฝ้าฮัลโหลเห่เจรจา
เคยบ้างไหมในยามนี้ที่คอยลุ้น
ยามใจวุ่นกรุ่นความรักมาทักหา
ดั่งนางดลเวทย์แห่งใจร่ายมนตรา
ซัดใจข้าบ้าเห็นแต่แค่นางเดียว
28 มิถุนายน 2548 22:01 น.
ดาวอังคาs
ลอยม้วนตัวขมัวดำก่ำขอบฟ้า
ฤทธิกล้าอัสนีที่กำแหง
พระพายพวยพัดโชกลมโบกแรง
เดชสำแดงแห่งพลังพร้อมพังภินท์
เจ้ายางยูงหักโยนโค่นหมดท่า
เชี่ยวกรากบ้าพาย-พากระแสสินธุ์
กระต่ายขาววิ่งอ้าวเข้าโพรงดิน
ผีเสื้อยับปีกวิ่นดิ้นแดวาย
อสนีขยี้เปิงเป็นเพลิงเผา
ช่างน่าเศร้าลูกนกตกรังหาย
คะเคียนล้มทั้งยืนบ่ฝืนกาย
ควันกระจายคลุ้งรับกับสายลม
ภูเขาหินดินดอนถอนหายใจ
มวลดอกไม้ย่อยยับราบทับถม
เหลือเพียงซากหักเฉาร้าวระบม
ริ้วแรงคมธรรมชาติบาดป่าไพร
เสียงคำรามห่ามเหิมเริ่มเบาจาง
แสงสว่างพร่างมาฟ้าสดใส
กระรอกโผล่คอชูดูดีใจ
พลิกฟื้นไข้ในพนาไม่ช้านาน
ความสงบแผ่ขยายรายรอบป่า
หลังฝนซาฟ้าซ่อนความอ่อนหวาน
สัตว์น้อยใหญ่กลับถิ่นดินสราญ
คืนดงดานยับย่อยค่อยเติบโต