5 มกราคม 2549 01:29 น.
ดาวอังคาs
พอเริ่มออกตัวหัวเชิดตั้ง
ฉันนั่งใจสั่นให้หวั่นไหว
แปลกหูแปลกตานภาลัย
มุมมองต่างไปไม่เคยชิน
ฝันใฝ่มานานทะยานฟ้า
สมปรารถนาข้าถวิล
ก้อนเมฆเทียมชิดติดปีกบิน
ธรณินห่างตาคราก้มดู
ข้าคือปักษาเพลานี้
สุดที่พรรณามาขานกู่
ลอยล่องท้องฟ้าชะชื่นชู
เรียนรู้อีกด้านย่านโลกา
ท้องทุ่งเข้มขจีสีเขียวสด
หลั่นลดยอดเขาเงื้อมเงาผา
ปุยเมฆสีขาวเย้ายวนตา
ธาราใสเย็นเป็นทางยาว
ลดเพดานบินถึงถิ่นฐาน
จดจำอีกนานผ่านห้วงหาว
เก็บมาคุยเฟื่องเขื่องฟ้าพราว
เรื่องราวครั้งนี้มิลืมเลือน
24 ธันวาคม 2548 00:14 น.
ดาวอังคาs
เริ่มรักแสนเร่าร้อน..............................ดังไฟ
บ่คิดว่าสิ่งใด......................................แยกพ้น
เราสองต่างเข้าใจ..............................อุ่นอก เสมอเฮย
สัมผัสหวามรักล้น..............................โชติร้อนประกายเพลิง
วันผันคืนผ่านพ้น................................แปลกไป
อบอุ่นละมุนละไม...............................เหือดแห้ง
อยู่ไหนเล่าเปลวไฟ............................มืดดับ แล้วฤๅ
เหลือแต่ความเสแสร้ง.........................กอดด้วยแกนแกน
โอบกอดที่เหน็บร้าว............................หนาวเย็น
เหมือนดั่งผู้มิเป็น.................................คู่แท้
วันผ่านเนิ่นเล็งเห็น..............................ความเปลี่ยน แปรนา
คืนกลับสู่ผู้แพ้......................................ต่อห้วงรักเดิม
ไฟรักเก่าโชติเชื้อ..............................ผันคืน
มิอาจจะรั้งฝืน.....................................หล่อนย้อน
อดทนเก็บกล้ำกลืน............................ยอมปล่อย
ความสุขที่คอยป้อน............................กลับไร้ความหมาย
คุกกรุ่นอย่างเร่าร้อน...........................เงียบงัน
ลอยแผ่วเพียงเปลวควัน....................จากเถ้า
แผดเผาผ่านคืนวัน.............................พ้นล่วง
วาตะพริ้วโลมเร้า................................ลุกแจ้งเป็นเพลิง
22 ธันวาคม 2548 00:37 น.
ดาวอังคาs
พร้อมยอมเป็นคนบ้าคอยราวี
ดั่งภูติผีสิงร่างกร่างหุนหัน
ตาเป็นเพลิงโชนพุ่งฟุ้งลอยควัน
พร้อมหักป่นสรวงสวรรค์ให้บรรลัย
พร้อมยอมเป็นคนชั่วหัวใจเหี้ยม
ที่เต็มเปี่ยมด้วยทุกข์คอยรุกไล่
ตัวปัญหาลอบแว้งแย่งหัวใจ
จงอย่าได้เริงรื่นชื่นคืนวัน
พร้อมยอมเป็นคนทรามตามกระแซะ
คอยกระแนะกระแหนแหย่ปลุกปั่น
จะขอกัดไม่ปล่อยคอยกีดกัน
เพื่อลงทัณฑ์ยีย่ำให้หนำทรวง
พร้อมยอมเป็นคนเลวดิ่งเหวรัก
จมลงปลักความแค้นเพราะแหนหวง
เมื่อสุดแสนฟุ้งซ่านการตามทวง
จงลุล่วงดับพร้อมกันนิรันดร์กาล
ยามฉันทุกข์เจ็บปร่าน้ำตาหลั่ง
อย่าได้หวังว่าผู้ใดได้ยิ้มหวาน
จะตามติดพัวพันอันธพาล
ตามระรานเข่นฆาตทุกชาติไป
16 ธันวาคม 2548 23:53 น.
ดาวอังคาs
มีเรื่องราวมากมายในหนหลัง
ที่คงยังทำข้าฯ น้ำตาไหล
คือรอยรักสุดปรารถนาแรงอาลัย
หายจากไปล่วงลับยากกลับคืน
เมื่อไม่รักก็จากไม่มากความ
ใครจะห้ามกันได้ไยต้องฝืน
หน้าที่ฉันคือการเหงาเฝ้ากล้ำกลืน
หน้าที่เธอคือเริงรื่นชื่นฉ่ำใจ
อย่ามาทำแหย่เย้าเราคือเพื่อน
ฟังแล้วเฝื่อนรูหูเธอรู้ไหม
อย่ามาหมายเอ่ยถามความเป็นไป
ยิ่งชิดใกล้ยิ่งดิ่งดำช้ำรายวัน
โปรดอย่าส่งเสียงคุ้นเคยเลยนะเธอ
จงอย่าได้คิดเสนอเจอหน้าฉัน
ถึงทางแยกก็แยกทางห่างไกลกัน
คิดอยากผันก็อย่าย้ำคำร่ำลา
โปรดแสดงความเป็นมนุษย์ครั้งสุดท้าย
ด้วยการหยุดทำร้ายหัวใจข้าฯ
โปรดสงสารโปรดสมเพชเวทนา
ขอเพียงเศษความเมตตาเสี้ยวอาทร
13 ธันวาคม 2548 21:31 น.
ดาวอังคาs
จะแปลงฝันให้เห็นเป็นอักขรา
แผลงวาจาจากใจจารผ่านสมอง
เปลี่ยนความคิดหลายหลากจากมุมมอง
เป็นร้อยกรองสอดถ้อยร้อยมวลคำ
เพลงที่ฟังถูกใจในความหมาย
ตลกร้ายทะเล้นอ่านผ่านแล้วขำ
บทความดีมีสาระน่าจดจำ
เก็บมายำแต่งปรุงฟุ้งเป็นกลอน
เขียนกลอน "เจ็บ" ปวดร้าวราวนรก
แค้นเต็มอกโศกสุมรุมกัดกร่อน
แท้ความจริงคำร้อยเรียงเพียงละคร
ทุกบทตอนใช่ว่าช้ำตามบรรยาย
จินตการเต็มหัวกลัวอะไร
เขียนลงไปตามฝันก่อนมันหาย
ร้อยเรียงรับจับต้นชนกับปลาย
ได้ความหมายตามความฝันของท่านเอง
จงอย่ายอมให้ใครมาขโมยฝัน
จงมุ่งมั่นแม้ใครหลู่ขู่ข่มเหง
จงรังสรรค์มันออกมาอย่าหวั่นเกรง
จงบรรเลงตามถวิลที่จินตนา