8 กุมภาพันธ์ 2549 21:17 น.
ดาวอังคาs
เจ้านกแก้วจอมแก่นแสนพูดมาก
ได้มาจากแม่เล้าเขามาขาย
หล่อนว่ากิจการล่มล้มละลาย
มาเปิดท้ายเลหลังหวังเงินตรา
ก่อนเคยเลี้ยงเอาไว้อยู่ในซ่อง
ข้อบกพร่องที่ยังสร้างปัญหา
คือชอบพูดหยาบทรามคำวาจา
เร่เข้ามาขายไม่แพงอย่าแย่งกัน
หญิงคนหนึ่งผ่านมาเห็นเป็นชื่นชอบ
ฟังคำตอบเจ้าของร้านพาลขบขัน
"โธ่! แค่นี้ไม่เป็นไรนิสัยมัน
เอาไว้ฉันจะดัดให้นิสัยดี"
จ่ายเงินแล้วหิ้วกรงตรงกลับบ้าน
วางแผนการนำผ้าคล้ำดำมิดหมี
มาคลุมกรงด้วยเห็นเป็นวิธี
เผื่อแก้วนี้จะลืมสิ้นถิ่นคณิกา
จนสามเดือนผ่านไปคงได้ที่
เวลาดีมาถึงจึงเปิดผ้า
ฉับพลันแก้วก็เผยเอ่ยออกมา
"เฮ้! ซ่องใหม่" แหม! วาจาน่าอับอาย
เหลือบมาเห็นหญิงคนนั้นพลันตื่นใจ
"แม่เล้าใหม่!" นกกล่าวซ้ำคำฉิบหาย
ยังไม่ทิ้งวาจาน่าหยาบคาย
โธ่ให้ตาย! นกพูดมากปากตะไกร
แล้วลูกสาวก็กลับมาเพลาเย็น
นกแก้วเห็นทักทันที "อีตัวใหม่!"
โอ้อ้ายแก้วปากนรกนกจัญไร
น่าจับไปเชือดซัดผัดกระเพรา
พอตอนมืดผู้เป็นพ่อก็กลับมา
แล้วสายตานกทะเล้นเหลือบเห็นเข้า
ตามสันดานก็ทักทายร้ายไม่เบา
สวัสดี "ลูกค้าเก่า" เจ้าประจำ
3 กุมภาพันธ์ 2549 21:11 น.
ดาวอังคาs
เมืองวุ่นในฝุ่นพิษ
ยามมืดมิดไม่เคยหลับ
ไฟราวพราวระยับ
เปิดต้อนรับยามราตรี
อวลจรุงคลุ้งสุรา
แกล้มโอชาแกงกระหรี่
ค้างคาวเคล้านารี
เสือเศรษฐี-เสือหิวเงิน
เค-บ้า-อี-ไอซ์-เลิฟ
มีมาเสริฟเปิบจำเริญ
ซื้อ-ขาย ง่ายเหลือเกิน
อัพให้เพลินกับเม็ดยา
ผับ-เธค เด็กใจแตก
เข้าไปแลกเปลี่ยนวิชา
เซ็กส์ศาสตร์ปรารถนา
เริงหรรษาหาความรู้
สองล้อห้อเป็นแกงค์
เดิมพันแข่งแย่งน้องหนู
ชาวบ้านขานชื่นชู
เสนาะหูอยู่ทุกครา
เห็นศพพบซอกตึก
ในซอยลึก-ในธารา
ปล้น-จี้ ข่มขืนฆ่า
ตามกอหญ้าหมกอำพราง
งัดแงะแคะสะเดาะ
บ้านไหนเหมาะเลาะหน้าต่าง
เหลือเพียงบ้านเปล่าว่าง
เสร็จกิจย่างจรลี
อาชีพอันหลากหลาย
กระจัดกระจายในราตรี
ขอจงหลับฝันดี
ในคืนนี้เมื่อนิทรา
31 มกราคม 2549 23:13 น.
ดาวอังคาs
เพียงเมล็ดกระจิดจ้อย จมดิน
ฟูมฟักรดน้ำริน ค่ำเช้า
ก่อกำเนิดชีวิน ไม้ดอก
งามยิ่งจริงหนอเจ้า อวดสล้างประดับดิน
แรกแย้มกลิ่นดอกไม้ รัญจวน
ขจรส่งกลิ่นเย้ายวน ภู่ผึ้ง
เกสรอ่อนชักชวน ลองรส
สิงสู่สมซ่านซึ้ง คลุกกลั้วไต่ตอม
น้ำหวานฉ่ำหยดย้อย ตักตวง
ดวงดอกมิแหนหวง กวักเย้า
กระเตาะปลั่งพุ่มพวง ยังเต่ง ตึงนา
น้อยใหญ่แมลงเคล้า ร่อนเลี้ยวแวะชม
จำเนียรกาลผ่านพ้น คืนวัน
วัฏจักรแสนน่าขัน แม่นแท้
เคยใสสดแพรวพรรณ กลายเหี่ยว ซีดเฮย
ร้างภู่ผึ้งแลแล้ ปลิดคว้างปลิวโปรย
ดอกเก่าลงนบด้าว ทับถม
ดอกใหม่เกิดน่าชม กว่าแล้ว
รอวันซากดิ่งจม ผันเยี่ยง ปุ๋ยเอย
ท้ายสุดความผ่องแผ้ว อยู่ได้ครู่ยาม
กำเนิดจากพื้นโลก ดินธุลี
คืนกลับอย่างดุษฎี ทุกผู้
ยืนยงสถิตย์คงบ่มี เห็นพบ
ล้วนซากสิ้นคุดคู้ แนบไว้เพียงดิน
26 มกราคม 2549 22:07 น.
ดาวอังคาs
นอนทอดนิ่งร่างกายไร้ลมปราณ
สิ้นอาการตอบรับขยับไหว
หนึ่งชนชีพลาลับดับล่วงไป
สู่แห่งใดกันเล่าเฝ้าคำนึง
มีโลงไม้ห่อบังร่างเย็นชืด
คงจะมืดสิ้นแสงใดส่องไปถึง
เหลือไว้แต่ความหลังฝังตราตรึง
เพ้อรำพึงครวญคร่ำรินน้ำตา
ยินสดับนักบวชสวดบาลี
ฤๅจะชี้หนบรรจบสู่ภพหน้า
คีตประโคมก้องเชิดเปิดมรรคา
จงเดินทางไคลคลาผ่านราตรี
โชยกลุ่มควันพวยฟุ้งพุ่งจากเมรุ
เป็นกฎเกณฑ์ชีวิตไร้สิทธิ์หนี
ท้ายแค่เถ้าฝุ่นผุยขุยธุลี
สุดชีวีเคยเฟื่องจบเรื่องราว
จะล่องลอยไปไหนในคืนนี้
ห้วงราตรีอื่นแดนแสนเหน็บหนาว
ได้สัมผัสสุขสมชมดวงดาว
หรือจะร้าวร่อนคว้างทางมืดมน
22 มกราคม 2549 21:10 น.
ดาวอังคาs
คิดถึงน้องเอ๋เทพารักษ์
คิดถึงน้องตั๊กอยู่หลักสี่
คิดถึงน้องต้องช่องนนทรี
คิดถึงน้องบีสี่พระยา
คิดถึงน้องขวัญอยู่บ้านแขก
คิดถึงน้องแต๊กแพรกสา
คิดถึงน้องก้อยซอยนานา
คิดถึงน้องจ๋าพระยาไกร
คิดถึงน้องอุ๊อยู่ครุนอก
คิดถึงน้องป๊อกบางกอกใหญ่
คิดถึงน้องตั้มสามเสนใน
คิดถึงน้องไหมอยู่ไทรม้า
คิดถึงน้องรัตน์อยู่วัดหนัง
คิดถึงน้องกั้งอยู่บางหว้า
คิดถึงน้องมินต์รามอินทรา
คิดถึงน้อยหน่าท่าพระจันทร์
คิดถึงน้องกี้อยู่ศรีย่าน
คิดถึงน้องกานต์สะพานหัน
คิดถึงน้องจิ๋งตลิ่งชัน
คิดถึงน้องอั๋นสัมพันธวงศ์
คิดถึงน้องนุชวุฒากาศ
คิดถึงน้องอาร์ตราชประสงค์
คิดถึงน้องนัดอยู่พัฒน์พงษ์
คิดถึงน้องหงส์บางโพงพาง
คิดถึงน้องปูอยู่บางกรวย
คิดถึงน้องหมวยอยู่ห้วยขวาง
คิดถึงน้องโหน่งวงศ์สว่าง
คิดถึงน้องปรางค์บางนาใน
คิดถึงน้องแพรอยู่แคราย
คิดถึงน้องมายด์อยู่สายไหม
คิดถึงน้องจ๋อมอยู่อ้อมใหญ่
คิดถึงน้องไก่ซอยสายลม
คิดได้คิดไปได้แต่คิด
แม้อยากใกล้ชิดจิตขื่นขม
ได้แต่เพ้อบ้าตามอารมณ์
สวรรค์ล่มสิ้นร้างสักนางเชย