5 เมษายน 2553 23:08 น.

สุข สุก

ดาวศรัทธา


ระยิบแดดแผดเผาจนเมาสุข
แสนสนุกเมืองป่วนชวนสนาน
ระเบิดบ้าปาบ้างช่างเบิกบาน
เริงสราญด่ากันดูมันดี

สีโลหิตคิดร้ายกระหายเลือด
เชิญมาเชือดสังเวยเลยเสริมศรี
ทรามสถุลละมุนละไมไอไมตรี
โหวงเหวงชี้ทางสวรรค์เห็นทันตา

สัตว์นรกจกเปรตเศษสวะ
ดาระดะน่ารักเป็นหนักหนา
กากเดนที่โง่เขลาเบาปัญญา
สมศักดิ์ศรีมีราคาค่าควรเมือง

สุขจนสุกปลุกเร้าเหล่าพี่น้อง
เชิญจับจองแสงสีมีแดงเหลือง
ขุมใหม่ใหม่ใหญ่กว้างทางประเทือง
คนขุ่นเคืองคลายทุกข์สุกวิญญาณ				
4 มีนาคม 2553 22:43 น.

มิติที่สี่

ดาวศรัทธา

เมื่อมีการก่อเกิดกำเนิดกาย
จึงมีตายวายปราณการดับสูญ
ระหว่างทางกลางดงชีพคงคูณ
มีพอกพูนเพิ่มกรรมเนื่องนำมา

วนเวลาย้อนกลับดับถึงเกิด
เป็นปมเปิดใคร่ครวญทบทวนค่า
ดีและชั่วถมใส่ในเวลา
ทั้งทุกข์สุขนานาสารพัน

ทุกเวลาวินาทีที่เลื่อนไหล
คือการแก่ผ่านวัยแม้ในฝัน
วันที่เติมเพิ่มใส่ไปทุกวัน
สมค่ามันหรือไม่  ใครบอกเรา
--------------


สรรพสิ่ง
มีความเกิด เป็นธรรมดา
และ เมื่อมีเกิด ย่อมมีความดับ เป็นธรรมดา
ช่วงระยะของกาลเวลา ระหว่าง การเกิด และการดับ
อาจเป็นเพียงเสี้ยวแวบของเศษวินาที หรือเป็นช่วงกาลนับล้านๆๆปี
ล้วนเป็นการดำรงอยู่ ตั้งอยู่ ท่ามกลางสภาวะอันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

มวลมนุษย์ ล้วนเป็นอยู่ใน ไตรลักษณ์นี้
หากประกอบด้วยอวิชชา 
อาจเห็นเพียงแค่เคลือบ ที่เป็นความสุข ความทุกข์
หลงในมายา ไขว่คว้าตามความอยาก จมอยู่ในกองกิเลส
อยู่ในวังวนแห่งสังสารวัฏ เกิดดับ เกิดดับ เกิดดับ ไม่รู้จบสิ้น

การดำเนินอยู่ในห้วงกาล ระหว่าง ความเกิดและความดับนั้น
คือความแก่
อาจแก่กว่าเมื่อยามแรกเกิด
เพียงครึ่งนาที หรือครึ่งวัน หรือครึ่งเดือน หรือครึ่งปี หรือครึ่งศตวรรษ

“ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”
งานที่เกิดจาก กรรมดี กรรมชั่ว กรรมกลางๆไม่ดีไม่ชั่ว
อยู่ที่เรา-ท่าน จะทิ้งรอยอะไร ไว้แทนค่าตน
---------				
22 กุมภาพันธ์ 2553 22:46 น.

จินตนาการ

ดาวศรัทธา

๏ ภพใดฤๅส่งให้         เกิดมา
ในร่างคนธรรมดา          เช่นนี้
สรีระกอปร์กายา            ดาษดื่น    โลกเฮย
แปลกแค่จิตลับลี้            ซ่อนซ้อนเกินเห็น

  ๏  เป็นมนุษย์เลิศสุดแล้ว   ชีวัน   นี้แล
สรรพสิ่งนับอเนกอนันต์        แหล่งหล้า
กินนอนถ่ายสืบพันธุ์          เพลินอยู่
จิตที่ครองกลับกล้า            หลบเลี้ยวโลดเถลิง

  ๏  สำราญเริงท่องฟ้า      บาดาล
วาบวับจินตนาการ           เพริศพร้อย
ซอกซอนทั่วถิ่นฐาน          สามโลก
ถึงโซ่ตรวนตามร้อย          สุดกั้นกีดขวาง

  ๏  วาดวางอนาคตได้     จากจินต์
ดลดุจองค์อมรินทร์         แต่งแต้ม
ทุกข์สุขส่งใจถวิล           ปรุงเปลี่ยน   แปลงแฮ
ทะลุผ่านมิติแง้ม           ว่ายเวิ้งนิรันดร

 ๏  มีสังวรเหนี่ยวรั้ง      จินตนาฯ
กำหนดเขตมรรคา         มุ่งสร้าง
ผิดชอบชั่วดีพา           ฝันเฟื่อง   ฟูเฮย
หากแต่ธรรมนำข้าง       แบ่งให้เห็นงาม

  ๏  ความดีดีอยู่ด้วย    ความดี
ความคิดคิดผิดมี         เกิดได้
ความชอบติดรูปสี        รส-กลิ่น   เสียงแล
ความชั่วโฉดอาจใช้      ร่างร้ายใจแสลง
			
  ๏  สำแดงจินต์บ่มรั้ง   อาการ
สรรค์ส่งเสริมวิญญาณ     ผ่องแผ้ว
สุดฟ้าสุดบาดาล         ไตรจักร   ภพฤๅ
คิดถูกชอบดีแล้ว        จึ่งร้อยเรียงเสนอ   ๚				
20 กุมภาพันธ์ 2553 00:05 น.

ฤๅหัวใจจะไร้รัก

ดาวศรัทธา

๏   หญิงชายยามชื่นแย้ม    เคียงคลอ
หวานสวาทเพลินสมพอ     ค่ำเช้า
หากยามหน่ายเมินหอ      หายห่าง
เคยสุขกลับกลายเศร้า      รักร้างฤๅไฉน

๏   ครอบครัวใครแน่นแฟ้น  ฟูมฟัก
สายเลือดรวมแรงรัก        ท่วมท้น
หากแรงอ่อนเงินหัก         แปรป่วน
สมบัติมากเหลือล้น        แบ่งข้างควรหนอ

๏   ชุมชนพออุ่นเอื้อ    อาทร
แรงช่วยแรงชื่นนคร	    ร่วมร้อย
ศรัทธาเสื่อมแรงรอน	    ถอยถด  หายแฮ
ใจหย่อนจนใจน้อย	    พึ่งได้พอหรือ

๏  ประเทศคือถิ่นเชื้อ   เถลิงทวี
หมายรักสามัคคี	       ทั่วแคว้น
หากยังต่างเติมสี       ปนเปรอะ  แปลกนา
ชาติสามัคคีแค้น       เรียกร้องอายไหม

๏   บนโลกใบหนึ่งนี้   คนครอง
สรรพสิ่งคนจับจอง      จรดฟ้า
อุปโภคบริโภคผอง      เบียนสัตว์  อื่นฤๅ
คนเล่นสงครามท้า      ฆ่าแม้มนุษย์ชน

๏   รูป นาม ปนอยู่ล้วน	  ปรัชญา
กาย รูป หัวใจพา       ตื่น-เต้น
ความรักเปรียบ นาม หา	 คำตอบ  
ใจจะไร้รักเร้น	         แน่แล้วฤๅเรา
 
๏   เนารูปเสียงกลิ่นทั้ง    รสสัมผัส
รักโลภหลงแรงรัด       โกรธเกรี้ยว
จนใจจะกำจัด	         กิเลส
รักไม่รักลามเลี้ยว       ล่วงล้ำใจคน 	เสมอแล  ๚				
17 กุมภาพันธ์ 2553 19:00 น.

เด็กใหม่

ดาวศรัทธา

สวัสดีปีใหม่ในวันเก่า
สมัครเข้ารวมสมัยสโมสร
สมาชิกชุมชนคนบ้านกลอน
จึงน้อมพรร่อนมาคารวะ

เคยแค่คนวนแอบแวบโฉบเฉี่ยว
ลองตามเลี้ยวเที่ยวหาเข้ามาปะ
หลงลูกลิงแล้วเลยไม่เคยละ
จวนเจียนจะเข้าบ้านตั้งนานแล้ว

แต่เจียมตัวเจียมใจในสังขาร
มุ่งประมาณตั้งธงให้ตรงแถว
กลัวพลั้งพลาดอาจเห็นเป็นเด็กแนว
ได้แต่แซวแล้วจรดั่งซ่อนกาย

ณ บัดนี้ทีท่าใกล้ลาโลก
สุขหรือโศกสะสมจะจมหาย
เสียแรงเป็นนักกลอนนอนเปล่าดาย
ควรขวนขวายร่ายเรียงเผดียงคำ

ขอฝากแปะผลงานที่บ้านบ้าง
ชี้หนทางสุ่มเสี่ยงเลี่ยงถลำ
มากหรือน้อยด้อยค่าไม่น่าจำ
บุญหรือกรรมนำเสนอคงเจอดี

สวัสดีมีชัยให้ทุกท่าน
สมัครสมานสานพลังรวมรังสี
แผ่เมตตาพาเพิ่มเติมไมตรี
ผู้น้อย(เฒ่า)นี้ น้อมกายรายงานตัว ...

สวัสดีครับ				
ไม่มีข้อความส่งถึงดาวศรัทธา