7 มิถุนายน 2551 04:17 น.
ดาวระดา
รามสูรคำรามถามถึงแก้ว
มณีแววงามวับสลับสร้อย
เมขลากล้าหือเลยถือคอย
มิยอมปล่อยลอยล่อแสนพอใจ
นางนวยนาดอาจองผู้ทรงศักดิ์
กล้าหาญหักตักษณีที่ขว้างใส่
แกว่งมณีต่อกรสะท้อนไป
ผู้ยิ่งใหญ่เยี่ยงนั้นยังหวั่นเกรง
รามสูรเทิดทูนศรีมณีรัตน์
จึ่งตวัดซัดขวานคมหวังข่มเหง
แต่พลาดท่าเสียทีไม่ดีเอง
แม้จะเล็งกี่ครั้งก็พลั้งพรุน
ด้วยผลพวงดวงแก้วเป็นแววล่อ
จึ่งได้ก่อเกิดเหตุอาเวศขุ่น
ความเสียหายหลายแหลกแตกเป็นจุน
ไม่คุ้มทุนกรุ่นโศกสู่โลกแดน
เหมือนแผ่นดินถิ่นไทยในตอนนี้
ล้วนอัคคีสุมไปในทั่วแผ่น
ไร้สงบรบรุ่มเป็นกลุ่มแกน
อนาถแสนแผนชั่วของชาติชน
ผลที่ได้เพลิงไหม้บรรลัยเมือง
ถามขุ่นเคืองเรื่องใดทำไทยหม่น
คนทั้งชาติขาดสุขเพราะทุกข์ตน
ไร้เหตุผลสิ้นดีถึงมีภัย
6 มิถุนายน 2551 14:12 น.
ดาวระดา
วิถีชีวิตคล้ายลิขิตขึ้นมาใหม่
ชาวพงไพรสำเหนียกเรียกตองเหลือง
แนววิถีได้ปะปนเป็นคนเมือง
เหมือนรุ่งเรืองสังคมใหม่ไกลครรลอง
ณ วันนี้มีที่ดินเป็นสินส่วน
มลามวลทิ้งป่ามาสนอง
ทิ้งตะแย็ดทิ้งป่าลาเพิงตอง
สู่ห้วงของสังคมใหม่ในนิยาม
อัตลักษณ์มลาบรีนี้ถูกจัด
เป็นเกณฑ์วัดข้าคือคนชนสยาม
คอยแสดงแต่งอวดชื่อให้ลือนาม
ตั้งคำถามได้อะไรในความจริง
นอกจากถูกมองเป็นของแปลก
เป็นรอยแยกแตกไปทั้งชายหญิง
แม้จะมีแหล่งหลักไว้พักพิง
แต่หลายสิ่งเสื่อมค่ามลาบรี
6 มิถุนายน 2551 01:33 น.
ดาวระดา
สุดแผ่นดินถิ่นกว้างใหญ่อันไพศาล
ฉันจะหาญสานรักอยู่เคียงข้าง
จงเชื่อใจให้รักไม่จืดจาง
อย่าหม่นหมางกลางหัวใจมอบให้คุณ
ฉันจะอยู่คู่เคียงมิเอียงไหน
สุดฟ้าไกลฉันจะไปให้ตักหนุน
ขอให้เชื่อด้วยเนื้อแห่งนาบุญ
แม้มีฝุ่นพิษหนาจะฝ่าทน
เราจะอยู่คู่กันถึงวันจาก
เอ่ยเต็มปากอยากให้ไม่สับสน
ขอทีเถอะที่รักอย่ากังวล
สู่ถนนสายใยรักเราถักทอ
5 มิถุนายน 2551 13:27 น.
ดาวระดา
เราขาดกันวันที่ยังมีรัก
รอยสลักยังล้นใจในรักหวาน
ยังปริ่มรักเปี่ยมท้นล้นดวงมาน
แต่เหตุการณ์พานพรากต้องจากกัน
ด้วยจริตคิดไปในเรื่องต่าง
เลยอับปางร้างรักปักโศกศัลย์
ความเข้าใจผิดผูกติดให้จาบัลย์
เธอทิ้งฉันกั้นรักรวยด้วยความตาย
ถามกี่ครั้งซ้ำซ้ำไม่จำจด
รักไม่หมดจากใจให้ความหมาย
ฉันยังหวังวาดเธอเคียงคู่กาย
พูดไม่อายชายอย่างฉันนั้นจริงจัง
ความระแวงแคลงใจอันใดหนอ
ทำรักฝ่อฝืดไปไม่ถึงฝั่ง
รักเอ๋ยรักทำไมไม่จีรัง
ขอโอกาสสักครั้งยังไม่ยอม
แล้วจะมอบวลีใจไว้ไหนเล่า
ในเมื่อเจ้าทิ้งไปไม่ถนอม
ความระแวงอยู่ริมใจให้มาตอม
แล้วเธอพร้อมให้มันปลิดชีวิตตน
เหลืออนุสาวรีย์วลีรัก
ที่ยังปักกลางห้วงดวงใจหม่น
ฉันมืดมิดทุกทิศในบัดดล
ฉันสับสนพ่นโศกสู่โลกทราม
4 มิถุนายน 2551 15:03 น.
ดาวระดา
ถึงวันนี้ศรีคนไทยไปไหนหมด
รอยยิ้มหดหายไปจากใบหน้า
ไทยเคยทักไทยเคยยิ้มอิ่มอุรา
มิกังขาเชื่อใจไทยด้วยกัน
เราเคยรักหวงแหนแผ่นดินนี้
ว่าคือที่มีความสุขดุจสวรรค์
รักสงบครบเครื่องทุกเรื่องพลัน
มิจาบัลย์หวั่นไหวให้ทำลาย
เราเคยกล่าวคำขอโทษเมื่อทำผิด
ด้วยจริตที่ดีมีความหมาย
ไม่อาฆาตเคียดแค้นไปทั่วกาย
แค่แปะไว้ตรงปลายปากแล้วขากทิ้ง
เราเคยรวมเลือดเนื้อเป็นเชื้อไทย
แล้วทำไมเอาผีป่ามาเข้าสิง
ทำให้เลือดที่ข้นปนเลือดปลิง
ทำไทยดิ่งสู่เหวแห่งเปลวไฟ
หวังว่าไทยคงเป็นไทยที่ไทยหวัง
รวมพลังมิลอยเลื่อนเพราะเงื่อนไข
รอยยิ้มจะได้ตื่นฟื้นมาไว
ความสดใสสู่ใบหน้ากลับมาเยือน