6 กรกฎาคม 2545 21:02 น.
ดาวประกายพฤกษ์
ในท่ามกลางความเย็นชื่นของอากาศ ในศาลาท่าน้ำไม่มีชื่อ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งง่อนแง่นดูโลเล เหมือนใจผู้คนที่ต่างก็พร้อมจะโอนเอนไปในทิศทางใดก็ได้ เพียงเพื่อให้หลักชีวิตไม่หักโค่นด้วยกระแสแห่งสังคม ยอมแม้จะล้มพับ?ทำได้ แม้จะสูญเสียความเป็นตัวตน เพื่อรักษาความเป็นไม้ผุ ๆ ของตนไว้.
คุณ เคยพบคำตอบที่ร้าวรานหัวใจไหม.. ที่มันคืบคลานมาเกาะจิตใจอย่างเงียบกริบ แล้วกัดแทะโมงยามแห่งความสุขของคุณให้แหว่งวิ่น ด้วยฟันที่คมกริบ มีน้ำพิษฉีดออกมา เพื่อคงความเจ็บปวดนั้นไว้ให้เรื้อรัง กัดกร่อนความเข้มแข็งทีละนิด จนสุดจะฝืนยืนอยู่ได้ ต้องล้มลงคร่ำครวญอย่างบ้าคลั่งให้กับมัน..ใบหน้าของอนาคตจะแสยะยิ้มแยกเขี้ยวให้เห็น ดวงตาที่ปีติของมันจะปูดโปนออกมาอย่างสะใจกับอาการของคุณ ส่วนอดีตจะส่งรอยยิ้มที่ยั่วเย้ยตามมาล่อหลอกให้ใบหน้านองน้ำตาที่กำลังฟูมฟายของคุณต้องกำสรวญเป็นทวี..เมื่อคิดถึงวันวาน..
วันเวลา..เป็นมิตรที่ดีและเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัว มือเรียวงามของโมงยาม จะค่อย ๆ เกลื่อนความรวดร้าวในชีวิตให้จางลง และก็พร้อมจะฉีกบาดแผลให้เปิดกว้างได้อีก เมื่อคุณตกเป็นทาสของอดีต เราต้องยืนอยู่ในจุดสัมผัสของอดีตและอนาคต ปลดเปลื้องตัวเองให้เป็นอิสระกับปัจจุบันกาล รู้จักที่จะปรับความทรงจำให้กับบางสิ่งหลอมละลายไป และดูดซับในอีกสิ่งให้เด่นชัดกับชีวิต..เราต้องเลือกอยู่เสมอว่า จะจำหรือจะลืม เพื่อพาตัวเองขึ้นจากปลักแห่งความเร่าร้อน คล้ายกับหลีกหนี แต่ไม่ใช่ เป็นการถอยออกมาห่าง ๆ เพื่อจะดูว่าก้าวต่อไปของเราจะพ้นหล่มลึกนั่นหรือไม่ ถ้าเกินกำลังของเรา เราก็ลืมเสียว่าได้เดินผ่านเส้นทางนี้ พาตัวเองไปสู่เส้นทางใหม่ แต่จดจำร่องรอยที่ทำให้เราซวนเซลื่นล้มไว้ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับตัวเราและปิยมิตรที่ร่วมชะตากรรม..
สายน้ำเจ้าพระยาไหลเอื่อย ลมพัดโบกโบยสะบัดพัดพลิ้วแผ่วไหว ..อาทิตย์ใกล้อัสดง
ฉันนิ่งเงียบในกระแสเสียงที่แทรกผ่านมาสู่ประสาท บางครั้งมองแผ่นน้ำที่พลิ้วกระเพื่อมเข้าสู่ฝั่งตามแรงของเรือยนต์ที่แล่นไปมา ผักตบชวาลอยเปะปะตามน้ำ บางกอติดอยู่ริมฝั่ง หลายกอลอยตามน้ำไป จะเหมือนความรู้สึกที่ออกจะเหนือความจริง ซึ่งนานครั้งฉันจะรู้สึกเช่นนี้..
6 กรกฎาคม 2545 20:40 น.
ดาวประกายพฤกษ์
อยากบอกกับเธอว่า อย่าดีกับฉันจนเกินไป
เพราะจะทำให้ฉันคิดถึงเธอ
อยากบอกเธออีกว่า อย่าเอาใจใส่ฉันจน เกินไป
เพราะจะทำให้ฉันชอบเธอ
อยากวอนเธออีกเหมือนกันว่า
อย่าหวานกับฉันมากเกินไป เพราะฉันอาจจะ เผลอใจ
รักเธอ.. เพราะมันจะสร้างความทุกข์แก่ฉันมากมาย
ถ้าฉันเกิดรักเธอโดยที่ฉันรู้อยู่แก่
ใจว่าเธอไม่ได้
รักฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะคนที่ทำให้ฉันรักเขาโดยปรกติแล้วมักจะเป็นคนที่รัก
ฉันมากกว่าที่ฉันรักเขา
ถ้าใครคนหนึ่งผ่านเข้ามาในชีวิต
และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่ทำให้เขาไม่
สามารถอยู่กับคุณได้...
อย่าได้เสียน้ำตา
แต่จงดีใจที่เราได้พบกัน และเขาทำ
ให้เรามีความสุข แม้ว่ามันจะเป็น
ช่วงเวลาอันสั้นมากก็ตาม
เพราะ...เวลาจะเป็นเครื่องชี้บ่ง
....ถ้าเขาเป็นของคุณจริง ๆ เขาจะต้องกลับมา
คุณจะรู้ตัวว่าคิดถึงใครคนหนึ่งมาก ๆ
ก็ตอนที่คุณคิดถึงเขาแล้วหัวใจคุณเต้นรัวถี่ขึ้น
เพียงแค่เขาเอ่ยวจีทักทายคุณด้วยความอบอุ่นในน้ำเสียง
ก็จะทำให้ประสาทของคุณซาบซ่านผ่อน
คลายลงอย่างมีความสุขถึง กระนั้นก็ตาม
บางทีคุณก็ยังไม่รู้สึกตัว
และยังชอบปฏิเสธว่า คุณไม่ได้ชอบเขา และ
คุณไม่ได้รักเขา
ปรอทที่จะวัดความรักในหัวใจของคุณได้
เมื่อคุณคิดถึงใครคนหนึ่งแทบทุกขณะจิต
และเมื่อคิดถึงแล้ว
ทำให้คุณมีความสุขอย่างประหลาด
อยากสละความสุขส่วนตัวให้แก่คน ๆ นั้น
แม้ว่าคุณจะเจ็บปวดก็จะทน
ขอเพียงแต่ว่าอยากให้เขาคนนั้นมีใจรักคุณสักนิด
อย่าหันหลังให้กับความรัก
ในขณะที่ความรักยืนจังก้าอยู่ต่อหน้าคุณ
อย่าได้ไล่มันออกไปจากคุณ เพราะถ้า
คุณทำอย่างนั้นสักวันหนึ่งคุณจะหวนคิดขึ้นมาได้ว่า
สิ่งที่คุณไล่เปิดไปนั้น
แท้จริงแล้วครั้งหนึ่งเคยอยู่ใกล้ชิด
ตัวคุณนี้เอง ..
จงให้คุณค่าแก่คนที่รักคุณ
มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ง่ายเลยในการที่จะได้พบคนที่รักคุณจริงๆ
> เพราะ
หัวใจที่จริงจังซื่อตรงหาไม่ได้ง่ายนัก
และมีคุณค่าสูงเหลือเกิน
บางครั้งสิ่งที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุดในชีวิต
ไม่ใช่สิ่งที่เราสูญเสียหรือผิดหวัง
แต่กลายเป็นความเสี่ยงที่เราไม่กล้าเสี่ยง
ถ้าคุณคิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้คุณมีความสุขมาก
จงมุ่งไปหามัน
เพราะในจังหวะของ ชีวิตคนเรา
เรามักจะไม่ผ่านมาบนถนนสายเดิมนี้ซ้ำอีก
... เวลาไม่เฝ้าคอยใคร
ถ้าคุณคิดว่าคุณได้พบกับสิ่งที่ถูกต้องและถูกใจ
จงถนอมมันไว้อย่าง มีคุณค่า อย่าปล่อย
ให้เขาหลุดลอยไป
อย่าปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำและดึงเหนี่ยวคุณไว้
ไม่มีใครนอกจากคุณเท่านั้นที่จะ
รู้ว่าอะไรจะทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง
น้ำตาสองหยดร่วงลงไปในแม่น้ำ และลอยไปตามกระแสน้ำ
น้ำตาหยดแรกเอ่ยขึ้นมาว่า
ฉันคือหยดน้ำตา ของหญิงที่รักผู้ชายคนหนึ่ง
แล้วกลับต้องสูญเสียเขาไป
น้ำตาหยดที่สองตอบกลับอย่างสวนควันว่า
คุณเป็นใคร?
ฉันคือหยดน้ำตาแห่งความเสียใจของผู้ชายที่ปล่อยให้ผู้หญิง
ที่เขารักหลุดลอยไปจากเขา.. เมื่อถึงเวลานั้น
ไม่มีใครจะมาเห็นใจคนที่ปล่อยโอกาสให้หลุดผ่านไปอย่างไม่แยแส
คนเรามักจะไม่เห็นคุณค่า
ความสำคัญของคนที่เรารักและใกล้ชิดกับเรา
จนกระทั่ง
พวกเขาได้จากเราไป แล้วถึงมารู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว
ภายหลังเมื่อรำลึกถึงสิ่งที่เราเคยมี
ความรักเหมือนกับการเล่นเปียโน
คุณต้องขึ้นต้นด้วยการเรียนรู้กฏ
หลังจากนั้นคุณต้องลืมกฏเหล่านั้น เล่นดีดดิ้น
กรีดกรายจากเสียงเร่าร้องของหัวใจคุณเอง
จงมีความกล้าหาญที่จะรัก
แม้ว่าคุณรู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องสูญมันไปในที่สุดก็ตาม
ดีกว่าที่คุณจะไม่พบความรัก
เพราะคุณขี้ขลาดเกินกว่าที่จะกล้าเผชิญกับมัน
สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดในชีวิตคนเรา
คือการเสาะหาใครสักคนหนึ่งที่รู้จักความบกพร่องด่าง
พร้อยของเรา ความไม่ดีของเรา ความแตกต่างของเรา
แต่เขาก็ยังรักเราอยู่อย่างสุดจิต สุดใจ...
ถ้าคุณพบคนอย่างนี้ จงรักเขาให้หมดหัวใจคุณ
เพราะคุณจะหาคนอย่างนี้ได้ไม่ง่ายนัก หรือ
อาจจะไม่พบอีกเลยในชีวิตของคุณ
6 กรกฎาคม 2545 18:06 น.
ดาวประกายพฤกษ์
หากไม่รักกันแล้วก็ไปเถิด
ช่วยไปผุดไปเกิดไกลๆฉัน
ไม่ต้องมาเป็นแกล้งย้ำว่าผูกพัน
กรวดน้ำคว่ำขันให้เธอไปดี
...ฉันไม่มีใจแล้ว....
สละแล้วจากเธอนับแต่นี้
เมื่อลมหายใจลดลงไปทุกวินาที
วันเวลาต่อจากนี้..ฉันขอไม่มีเธอ..
6 กรกฎาคม 2545 17:58 น.
ดาวประกายพฤกษ์
อย่าจากไปเลยนะ..คนดี
บทละคร..ฉากชีวิตที่มีขาดเธอไม่ได้
เพราะเพียงเธอที่ไขลานนาฬิกาในหัวใจ
ขาดเธอไปแล้วนาฬิกาในหัวใจคงหยุดเดิน
6 กรกฎาคม 2545 17:48 น.
ดาวประกายพฤกษ์
ยังรักกันอยู่ใช่ไหม
เสียงแว่วๆไกลๆที่ใจกระซิบถาม
ฝากคลื่นลมข้ามผ่านฟ้าสีคราม
ช่วยติดตามถามข่าวกับดาวเดือน
...เธอที่อยู่ทางนั้น...
คนที่ฉันให้เกินกว่าความเป็นเพื่อน
ฝากสายลมพริ้วหนาวคอยย้ำเตือน
ฉันยังรักเธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง