ในหัวใจแห่งตนบนรู้สึก หยั่งรากลึกตามฝัน..ส่วนมั่นหมาย นัยสู่อ้อมอกเปลี่ยวผู้เดียวดาย หวังปัดหายส่วนอ้างว้างของบางคน.. ด้วยหนึ่งใจบริสุทธิ์หนึ่งจุดหมาย ส่งอุ่นอายชื่นงามยามหมองหม่น ให้สดใสผกายช่วงสู่ดวงมน ช่วยฝ่าพ้นขวากขวางอย่างเต็มใจ..
ห้วงถวิลเต็มงามความหวานหอม จักแนบน้อมเป็นลำดับคอยขับไข อีกละมุนละไมยิ่งกว่าสิ่งใด เพียรส่งไปทุกเวลาทุกนาที.. มิหวังเลยส่วนใด..ให้ตอบกลับ เพียงแค่รับน้ำใจที่ไหลรี่ มิหวังหรอกเยื่อใยหรือไมตรี แค่คนนี้เพียงอยากให้ใช่ต้องการ..
ยิ้มให้เพื่อแก้มใครจักได้ยิ้ม จนเอมอิ่มหัวใจในความหวาน ถ้อยถวิลหวานเชื้อกว่าเนื้อตาล จักเพียรจานเจือให้ไม่เขียมใด.. สิ่งใดทำทุกข์ทนหรือหม่นหมอง แค่แหงนมองดาวระยับขับแสงใส จำไว้เถิดผู้นี้ที่ห่างไกล จักขับไล่ปลิดพ้น..จนผ่องงาม..
อุ่นอายแห่งเยื่อใยช่างไหววาบ จินตภาพแววระยับขึ้นขับไข แจ้งรูปรอยความคิดแห่งจิตใจ เพียรบ่มไล้จนเผยช่วงในทรวงตน.. เพียงรู้จักก็กรุ่นกลิ่นถวิลหา เหนี่ยวหน่วงพาอกไหวสั่นนับพันหน ค่อยค่อยโหมประทับล่วงสู่ดวงมน จนเอ่อท้นเกินซ่อน..อาทรตรึง.. แต่ก็สุดจะเอื้อนจะเอ่ยออก จะเผยบอกได้อย่างไร..ว่าใฝ่ถึง เพียงรูปรอยลึกล้ำความคำนึง เกินเหนี่ยวดึงอีกใจนั้นให้หันมา.. หากลมร่ำเห็นใจคนใฝ่เฝ้า เถิดพัดเอาความห่วงใยหอบไปหา ความหอมหวานเถิดซาบซับทุกหลับตา ปรารถนาแจ้งรูปรอยว่าคอยเคียง.. ดารดาษดาวน้อยคอยลีลาศ ประโคมพาทย์ให้ไพเราะเสนาะเสียง ส่งเพลงรักละไมร้อยเป็นถ้อยเรียง เพลงนี้เพียงให้รับรู้..เธอผู้เดียว.. หยุดสักนิดได้ไหม..ตรงใจนี้ เถิดคนดี..เพียงเผื่อแผ่การแลเหลียว ใช้เวลาที่เหมาะสมสร้างกลมเกลียว ทอส่วนเสี้ยวแห่งเยื่อใยเพื่อให้กัน..