29 กันยายน 2550 13:57 น.
ดารากายา
กวีสื่อชีวิตจิตวิญญาณ
ให้ผู้คนสื่อสารผ่านความคิด
เรียงร้อยถ้อยคำอันประสิทธิ
หลักชีวิตต่างลิขิตความรื่นรมย์
ประสานประมวลรวมความคิด
ประดิษฐ์ค้นหาสื่อประสม
ความจริง...ความฝัน...ค่านิยม
เรียงถ้อย...ร้อยบรรจง...บ่มจิตใจ
คุณค่า...ความรู้สึก...ความนึกคิด
ประกอบกิจพลังฝันอันยิ่งใหญ่
แต่งแต้มร้อยเรียงจินต์เผยแพร่ไป
ทรงคุณค่าสำนึกในจิตวิญญาณ์
14 พฤษภาคม 2550 11:53 น.
ดารากายา
เพียง...ฝัน
เสียงบรรเลงเพลงพรายกายขยับ
ได้สดับเพราะพริ้งอิงใจหมาย
โอบประคองพริ้วตามอยู่มิวาย
เสียงบรรเลงเครงคล้ายหมายเชิญชวน
ให้โอบเอื้อนเคลื่อนคล้อยคอยจังหวะ
เต้นขยับกลับต้นมิเหหวน
อยู่กลางฟลอร์กลางจันทร์มิเอ่ยครวญ
สุดถนอมล้อมล้วนสวนดารา
นาฬิกาตีสิบสองบอกเอื้อนเอ่ย
สุดเฉลยตื่นตระหนกคร่ำครวญหา
เป็นเพียงฝันจริงหรือ...นาฬิกา?
ปลุกให้ตื่นเพื่อจากลานิทรารมณ์
น่าเสียดายเป็นเพียงภาพความฝัน
เมื่อคื่นพลันต้องกลั้นความขื่นขม
ชีวิตจริงมิพัดผ่านเช่นสายลม
เพราะความฝันเป็นเพียงพรมห่มทางลวง
11 พฤษภาคม 2550 18:17 น.
ดารากายา
อดิเรก...
อดิเรกเอกเขนกนอนนั่ง
ประดิษฐ์หวังชอบวณิชย์คิดค้นหา
ทำสิ่งที่สนใจสั่งสมมา
กลายเป็นประติมามหากร
ดั้งด้นคิดเพียรทำผิดจึงแก้
ประสบการณ์นั้นแลช่วยสั่งสอน
พรแสวงพรสวรรค์หนุนปกรณ์
มิหย่อยยอนต่อหนทางอันยาวไกล
ทำเป็นสิ่งยามว่างไว้แก้เหงา
ให้คลายเศร้าได้ประสบค้นพบใส
อดิเรกเป็นอาชีพเลี้ยงกายไป
นำความภาคภูมิใจให้แก่ตน
เราลองหาความถนัดในชีวิต
มาประดิษฐ์สารพัดหัดคิดค้น
ตั้งใจทำตามความชอบแต่ละคน
ผลิตผลประสิทธิตนปนภาคภูมิ
** - วณิชย์ หมายความว่า การค้าขาย
- กร หมายความว่า ผู้ทำ (อีกนัยหนึ่งคือมือ)
- ปกรณ์ หมายความว่า ตำรา , หนังสือ