11 เมษายน 2545 11:16 น.
ดอกสารภี
สงกรานต์สานน้ำใจ
มอบมิตรไว้ไมตรีกัน
ยิ้มแย้มแกมสุขสันต์
จิตสดใสอภัยกาล
น้ำหอมน้อมราดรด
จิตจรดจรุงมาลย์
วันคืนรื่นชื่นบาน
คงความสุขไร้ทุกข์เยือน
จากใจน้ำใสรด
ภัยพึงหมดสดเสมือน
น้ำเย็นเน้นตามเตือน
ติดดวงจิตคิดเย็นงาม
สงกรานต์สานสัมพันธ์
ครอบครัวนั้นหมั่นไต่ถาม
ทุกข์สุขหรือไรยาม
ย่อมยินดีมีห่วงใย
สงกรานต์สานคุณธรรม
อ่อนหวานล้ำคำกล่าวไว้
สวัสดีวันปีใหม่
มอบทุกคนพ้นชังกัน
สงกรานต์สานประเพณี
สามัคคีมีสร้างสรรค์
ทำบุญเกื้อหนุนพลัน
ก่อเจดีย์หนี้วัดวา
สงกรานต์กตัญญู
ดำหัวผู้กรุณา
เปี่ยมล้ำความเมตตา
ตอบแทนท่านกาลมงคล
สงกรานต์สานดวงจิต
มากมวลมิตรคิดกุศล
กิจกอปรชอบกมล
ร่วมรักษาค่ายืนนาน.
10 เมษายน 2545 14:09 น.
ดอกสารภี
ลั่นทมร่วงสู่พื้นชื่นเป็นถ้อย
มาเรียงร้อยเป็นรักประจักษ์เห็น
รักรักรักอย่างไรไหนที่เป็น
หลายประเด็นเด่นนิยามความรักคือ
รักคือให้ใครทั่วไม่กลัวหมด
รักไม่ลดจรดใจนั่นใช่หรือ
รักคือหลงคงยินสิ้นเขาลือ
รักยากรื้อถอนจากพรากฤดี
รักมีผลดลร้อนนอนไม่สุข
รักเป็นทุกข์ฉุกคิดพิษหรือนี่
รักเป็นสุขอย่างไรใคร่ถามที
รักจักมีคุณค่าพารักกัน.....
6 เมษายน 2545 23:16 น.
ดอกสารภี
เฟื่องฟ้าเฟื้อยเฟื่องฟ้า ฟ่องฟื้น
กลมกล่อมกันเกรากลืน กลบแก้ม
แมงมุมถักแพผืน ผายข่าย
ตักหมื่นสีตกแต้ม แต่งฟ้าระบายฝัน ฯ
ปันแสงแต่งไต่เส้น สาวสวรรค์
วาววาบวับแวววรรณ ว่ายเวิ้ง
ขับขึงข่ายขอบคัน คุกค่าย
เพชฌฆาตเขี้ยวซุกเซิ้ง ซุ่มซ้อมกำลัง ฯ
ไวหวังเผ่นผ่านโพ้น แผ่นฟ้า
ชีปะขาวชะตา แตกนั้น
เชือดชีพเหยื่อโอชา ชูชีพ
ห่วงแห่งสายโซ่ชี้ ชัดแท้ทรมาน ฯ
6 เมษายน 2545 22:33 น.
ดอกสารภี
พุ ท ธ ธ ร ร ม รำ ฤ ก
๑
กราบม้าหินตัวนั้นท่านเคยนั่ง
กราบความว่างอย่างนั้นท่านเคยสอน
กราบกรวดหินดินทรายในดงดอน
เก็บความหมายทุกบทตอนสอนกมล
๒
ล้ออายุล้อเวลาชะตาเล่น
ล้อกฎเกณฑ์สมมุติสุดสับสน
ล้อวิถีชีวิตติดกรรมกล
ล้อตัวตนที่หลงยึดตะพึดตะพือ
เล่นกับความเป็นตายคล้ายคนโง่
เล่นกับความโลภโมห์โทสันหรือ
เล่นกับจิตส่วนลึกด้วยฝึกปรือ
เล่นกับโลกที่คอยยื้อให้หลงทาง
ตรองให้ลึกตรึกให้ซึ้งถึงเล่ห์โลก
ที่โยนโยกหยอกเย้าเมามิสร่าง
ใครฤาอาจช่วยบรรเทาให้เบาบาง
ต่างต้องสร้างทางพ้นด้วยตนเอง
ในคราคร่ำธรรมดาประสาโลก
คลื่นวิโยคห่าโหมตะโบมเบ่ง
รู้ปลุกจิตประคองใจไร้ยำเกรง
อาจลอยเรือร้องเพลงมิโคลงคลอน
๓
กราบม้าหินตัวนั้นท่านเคยนั่ง
กราบความว่างอย่างนั้นท่านเคยสอน
กราบกรวดหินดินทรายในดงดอน
ก่อนสัญจรคืนหลังสู่วังวน
5 เมษายน 2545 12:43 น.
ดอกสารภี
อุปสรรคสู่นิพพาน (สภาวะหมดกิเลสทั้งปวง)
เปรียบคนปานท่อนไม้ ซุงคาน
หวังมุ่งพระนิพพาน ล่องน้ำ
ลอยไหลเรื่อยสายธาร ไปสู่ สมุทรนา
อุปสรรคมีมากล้ำ ขัดให้ถึงชัย
เกยฝั่งระยะใกล้ เกาะทาง
อายตนะในพลาง ติดไว้
ตาหูจมูกนาง อีกหนุ่ม นั้นนา
หลงผิดพักอยู่ใกล้ บ่คล้อยเคลื่อนไป
ติดฝั่งไกลที่นั้น นานเนา
รูปรสกลิ่นเสียงเลา ลูบไล้
สวยงามชอบหายเหงา หาง่าย
ติดหนักพักจอดไว้ ว่างเว้นไหลลง
จมลงตรงที่น้ำ นอนนาน
นับเนื่องอุปาทาน ยึดยื้อ
ตัณหาสิ่งสามานย์ อยากยิ่ง
ทรัพย์สิ่งมีมากตื้อ ติดแปล้ปางตาย
เกยฝั่งเกาะเล็กน้อย ในธาร
เปรียบหยิ่งยโสพาล จิตร้าย
ถือดีเด่นเดือดดาล ทุกเมื่อ
หยาบยิ่งบ่เคลื่อนคล้อย ฝั่งนั้นติดนาน
คนกรายมาเก็บไว้ วายไป
เหมือนหนึ่งตายจากไกล หมดสิ้น
ดังพระสึกคลาไคล สู่โลก
ทางหมดเหมือนดั่งปลิ้น เปลี่ยนพ้นทางควร
เทวดามีฤทธิ์ล้ำ นำไป
บุญกอปรบำเพ็ญใด มุ่งแท้
เสวยสุขยิ่งย่ามใจ จดจ่อ
หยุดอยู่บ่คลายแก้ เกาะแหน้นกองบุญ
วังวนดำดิ่งน้ำ ลึกลง
หลุดร่วงบ่หยุดปลง ประมาทแท้
กามามุ่นเมาทรง หลายสิ่ง
สนุกสนานแปล้ หยุดแล้วไปนิพพาน
ยุ่ยสลายไปก่อนแท้ ซุงดี
หลงผิดคิดตนมี อยู่พร้อม
บริสุทธิ์หลุดราคี ขาวผ่อง
จริงนั่นของหลอกย้อม หยุดยั้งนิพพาน
ตรองตรึกสติตั้ง ตามใจ
หาเหตุสืบเสาะไป ประสบได้
ทางหลุดสุดสดใส มีอยู่
อริยมรรคนั่นไซร้ ปฏิบัติแท้ทางนิพพาน.
สุรภา เดชะ
เขียนจาก ปฐมทารุขันธสูตร ว่าด้วยการท่องเที่ยวในสังสารวัฏ