1 สิงหาคม 2549 17:51 น.
ดอกฝัน
เป็นเพียงนักเดินทางในคืนเศร้า
ดูเงียบเหงาเบาบางอย่างภาพฝัน
ผ่านเรื่องราวประสบการณ์ของคืนวัน
บ้างหวาดหวั่นรันทดสลดใจ
เพื่อนของฉันคือน้ำตาคราครั้งนี้
ทุกข์ทวีโหมกระหน่ำน้ำตาไหล
สร้างบาดแผลเจ็บลึกผนึกใน
สร้างตัวตนอ่อนไหวไปตามกาล
แล้วเวลาก็พาเธอมาเป็นเพื่อน
คอยติเตือนรักของเธอแสนอ่อนหวาน
มอบให้ฉันมั่นรักในดวงมาน
สื่อผสานลบโศกเศร้าอันร้าวรอน
รักนั้นมีอานุภาพมากมายนัก
ฉันจึงจักเรียนรู้เธอพร่ำสอน
ใจสองใจรวมกันไว้ไม่อาวรณ์
ร่วมกันสร้างอนุสรณ์ของหัวใจ
1 สิงหาคม 2549 17:41 น.
ดอกฝัน
ในเค้าเงื่อนเงื่อนงำของชีวิต
ชี้ถูกผิดเคราะห์กรรมอุทาหรณ์
ชีวิตนี้มีสุขทุกข์ทุกบทตอน
ภาพสะท้อนแก่นแท้แง่ตัวตน
เป็นเพียงภาพสะพานผ่านร้สึก
ที่ส่วนลึกจริงแท้ยังสับสน
กับความชั่วความดีราคีระคน
มีปะปนแตกต่างระหว่างกัน
เมื่อใดสิ้นกรแสกรรมสังสารวัฏ
ที่อุบัติดับลงตามกองขันธ์
ดีหรือเลวตัดสินตามทางของมัน
ขึ้นสวรรค์หรือนรกหมกอบาย
หากรู้แจ้งเช่นนี้ชี้เหตุผล
กระทำตนดีไว้ไม่สูญหาย
ดีนำสุขทุกข์นำโศกไม่รู้วาย
ควรตั้งกายทำแต่ดีมีสุขจริง
1 สิงหาคม 2549 17:32 น.
ดอกฝัน
แย้มรอยยิ้มพิมพ์ใจใครพบเห็น
คือยิ้มเย็นชื่นจิตสเน่หา
รอยยิ้มพริ้มใช่แกล้งแสร้งลวงตา
แต่ทว่ากลั่นมาจากข้างใน
เพียงรอยยิ้มเจือจานหวานระรื่น
จิตชุ่มชื่นเยือกเย็นมองเห็นได้
หากคนเรามีน้ำจิตมีเยื่อใย
ต่างอภัยไม่ถือโทษไม่โกรธกัน
สันติธรรมก่อเกิดประเสริฐสุข
ไร้สิ้นทุกข์ลือนามสมานฉันท์
สังคมจึงอยู่เย็นเป็นสุขพลัน
ด้วยเรานั้นรักใคร่เปี่ยมไมตรี