3 มีนาคม 2552 21:30 น.
ดอกบัว
เดือนเมษาหน้าแล้งป่าแห้งเฉา
สัตว์น้อยใหญ่ไร้เงาถิ่นไสว
ความเหือดแห้งรกร้างแผ่กว้างไกล
ความแล้งไล่พลัดถิ่นดินอุดม
ยามหน้าร้อนธารใสไหลรวยริน
กลับแห้งหายหมดสิ้นความชื้นขม
ทั่วผืนป่าซบเซาเคล้าแรงลม
ที่พัดพรมแห้งกรังทั้งป่าดง
แหล่งอาศัยสรรพสัตว์อัตคัด
อัตภาพร้อนจัดเป็นผุยผง
อัตราส่วนทดถอยเจตจำนงค์
อัธยาศัยยืนยงปรับเปลี่ยนไป
ความกันดารผืนดินถิ่นอาศัย
สรรพสัตว์น้อยใหญ่ไม่ผ่องใส
มาเหือดแห้งอับเฉาทั้งพงไพร
ในดงใหญ่ชุ่มฉ่ำสิ้นแรงไกว
แล้วท้องทุ่งผืนป่านาคนยาก
คงลำบากอดโซโก้ไฉน
นาก็แล้งน้ำลดเขื่อนหมดไป
มนุษย์เราร้างไร้น้ำทำกิน
แสงตาวันทอทาบอาบนภา
หมู่วิหคถลาออกผกผิน
เหยื่ออาทรป้อนลูกให้มีกิน
ใฝ่ถวิลอาหารจานชีพตน
จากกิ่งคอนร่อนเร่ดุเหว่ว้า
แสนอัดอั้นตันอุราคราสับสน
ยอมตัวตายหมายลูกให้อยู่ทน
ชีพดิ้นรนเสี่ยงภัยในพนา
ดั่งคนเราทายท้าจักโผผิน
ยามแล้งร้อนพลัดถิ่นเพื่อภักษา
เอื้ออาทรร่อนเร่เมืองธารา
หวังเงินตราเจือจานคุณมารดา
ในเมืองกรุงมุงหวังอนาคต
ทั้งเหนื่อยอดกระหายเป็นหนักหนา
สู้ฝ่าฟันอุปสรรคสิ่งนานา
หมดน้ำตาเพื่อทนคนเงยรอ
ในถิ่นฐานบ้านเดิมมีไออุ่น
อกละมุนแม่เอื้อเมื่อร้องขอ
นะท้องทุ่งถิ่นคอนอ้อนละออ
ในป่าปูนนี้หนอล่อหลงกล