30 มีนาคม 2552 07:23 น.
ดอกบัว
เสี้ยวหนึ่งแห่งอารมณ์จุดไฟฝัน
ท่ามคืนวันวุ่นวายในโลกกว้าง
สงบเงียบเยี่ยบเย็นบนเส้นทาง
ทุกก้าวย่างฟันฝ่าท้ารอยกรรม
จะมีพรหมองค์ใดลิขิตได้
มาเติมไฟใส่เชื้อเมื่อถลำ
มาซับรอยระทมยามระกำ
ยามเพลี่ยงพล้ำชะตาล้าโรยแรง
คงเปล่าดายมิได้ในลิขิต
ธรรมชาติลิลิตจิตโชนแสง
ปฏิสนธิกาลตามแสดง
ผลวิบากจำแลงจึงแปลงมา
ธรรมชาติรูปจิตและเจตสิก
ผู้ลิขิตรูปนามสืบพรรษา
ทวารทั้งหกหยิบยกจิตวิญญาญ์
จึงเกิดมาเวียนว่ายในบ่วงกรรม
จึงร่ายเสกอักษรเป็นกลอนกานท์
ตามชีวิตที่ผ่านทุกเช้าค่ำ
ผ่อนระกำลำบากความชอกช้ำ
เพื่อลำนำบทกานท์จารบรรเทา
ด้วยน้ำทิพย์รินไหลได้ผ่อนเย็น
ใจที่เร้นร้อนรุ่มคลุมแผดเผา
มีสรณะกำบังเป็นร่มเงา
คอยขัดเกลาเงาดำกล่ำครอบคุ้ม
อันเรื่องราวเร้าจิตให้คิดร้อน
ดั่งมีฟอนกองไฟความร้อนสุม
ดวงจิตกุมกิเลสเฝ้ากลุ้มรุม
ดังเหมือนเราซ่องสุมทุกข์ภายใน
ชีวิตนี้ไม่มีเครื่องต้านทาน
คงไม่ผ่านกองทุกข์พ้นไปได้
ล้วนตกในอำนาจอันตราย
ธรรมสัมมารัตนตรัยคุ้มครองตน
เราทุกคนสะสมตัวกิเลส
อันเป็นเหตุแห่งทุกข์จิตสับสน
ขันธ์ทั้งห้ารวมกลุ่มเกราะกมล
นาฬิกาเจตสิกดลเป็นตัวเฟือง
อาศัยกรรมก่อเกิดเป็นชีวิต
จักขุพิศมองเห็นทิศต่อเนือง
โสตวิญญาณการฟังอยู่ทุกเรื่อง
ฆานวิญญาญ์ประเทืองกลิ่นโชยมา
ทั้งชิวหาลองลิ้มชิมสัมผัส
จิตวิญญาณเร่งรัดมโนทั้งห้า
จิตอารมณ์เร่งเร้าในกามา
ขันธ์ทั้งห้ารวมหมู่ขึ้นเป็นกอง
กุศลจิตฝ่ายดีอำอาจเหนือ
จึงก่อเกื้อโลภะมาสนอง
เข้ายึดติดรูปสวยเย้าเรืองรอง
ตามสนองไพเราะเสนาะใจ
ฝ่ายโมหะรากเหง้าอกุศล
ชวนชี้ยลโทสะให้หลงไหล
ให้หลงผิดแตกต่างมรรคาไป
จึงก่อให้เกิดกรรมตามก่อกวน
27 มีนาคม 2552 15:02 น.
ดอกบัว
คลื่นหัวใจ
ดุจกระแสภายในที่เชื่อมต่อ
ระหว่างสองหัวใจได้ถักทอ
เชื่อมรอยต่อผสานเป็นหนึ่งเดียว
คลื่นคิดถึง
ทุกห้องห้วงคำนึงความแน่นเหนียว
รู้สึกตรงส่งต่อเธอผู้เดียว
มิรัดเหลียวผู้ใดให้ระคาย
คลื่นแววตา
ทุกห้วงแห่งเวลามิแหนงหน่าย
ยังสบซึ้งแววหวานที่พราวพราย
คลื่นภายนัยไหลผ่านม่านแววตา
ในความรัก
จึ่งสลักตรึงจิตเสน่หา
กระแสคลื่นซึมซับจับอุรา
จากแววตาคิดถึงซึ่งความรัก
26 มีนาคม 2552 17:01 น.
ดอกบัว
เมื่อตะแบกมาเยือนถึงเรือนชาน
มาผลิแย้มเบ่งบานทุกหย่อมหญ้า
ดอกไม้ต่างฤดูละไมตา
เดือนเมษาหน้าร้อนทองกวาวบาน
บานทายทักสงสรานต์ผสานคู่
ดอกคูนรู้เคลียคลอมาขับขาน
แย้มเยือนเนามหาวันสงกรานต์
ร่วมสืบสานประเพณีของไทย
วันสงกรานต์งามงดจรดทุกภาค
ปราศจากเคลือบแคลงจะแจ้งไข
งานบุญปีฤกษ์ดีวัฒนธรรมไทย
เราพร้อมใจร่วมสานประเพณี
ลูกหลานอยู่ต่างถิ่นทั่วแดนไกล
พร้อมรวมใจกลับทุ่งต่างวิถี
อยู่ภาคเหนือปิ๊กกลางอย่างเสรี
ต่างพื้นที่ฮอตบ้านลานเถียงนา
ประเพณีบ้านเราเขาก็จัด
สิบสามนัดหมู่เฮาร่วมหรรษา
ทั้งลูกหลานผู้เฒ่าต่างเข้ามา
ปฏิบัติกิจศาสนาแต่โบราณ
เช้าตักบาตรถวายภัตตาหาร
สังฆทานพร้อมสรรพทั้งคาวหวาน
ทั้งจีวรสบงวางใส่พาน
อุทิศการกุศลให้ญาติเรา
บ่ายสรงน้ำพระพุทธและพระสงฆ์
ทั้งขอพรยืนยงกับผู้เฒ่า
รดน้ำญาติผู้ใหญ่ให้นำเนา
ขอให้ท่านอยู่เหย้าสถาพร
การละเล่นพื้นบ้านแต่นานเนา
รวมหนุ่มสาวเกราะกลุ่มสโมสร
มอญซ่อนผ้าวิ่งรอบเพื่อนเว้าวอน
เธออย่าซ่อนหลังฉันหวั่นห่างไกล
ลำนำเพลงพื้นบ้านสนานสนุก
ทั้งร่วมปลูกสำนึกลูกหลานให้
รักษาวัฒนธรรมแบบไทยไทย
พร้อมเพียงใจสืบสานประเพณี
21 มีนาคม 2552 16:20 น.
ดอกบัว
โลเกชั่นเขียนกลอนอักษรสาร
เป็นตำนานภาษาอักษรศิลป์
เพราะอ่านเขียนเรียนรู้เป็นอาจิณ
ใฝ่ถวิลเพียรพร่ำร่ำตำรา
จึงหัดเขียนเรียนคำย่ำถูกผิด
โลเกชั่นเพี้ยนผิดความปรารถนา
เขียนหลายหลากมากความในปัญญา
เป็นที่มาผ่อนคลายกับสายงาน
โลเกชั่นความรักที่หนักอก
หาหยิบยกจินตนาให้ตระหง่าน
วาดความฝันความหวังอย่างชื่นบาน
เป็นรางวัลชีวินให้ครึ้นเครง
หามุมฉากความรักจากที่ใด
โลเกชั่นมุมไหนที่ว่าเจ่ง
หรือตัดต่อฉากสวยไว้บรรเลง
เลือกฉากเจ่งจำอวดไว้อวดกัน
ธรรมชาติความรักที่หนักอก
มาหยิบยกเปรียบเปรยให้ไหวหวั่น
เป็นความรักจากใจมีให้กัน
คนสองคนเท่านั้นต่างรู้ดี
หาแก่นแกนธรรมชาติกวาดดวงจิต
ยามหลงติดบ่วงบาศราดวิถี
หลงลาภยศหลงคำในวลี
การบ่งชี้กลลวงของดวงมาน
เขียนอักษรกลอนกานท์ไว้อ่านเล่น
มิได้เน้นรางวัลบรรทัดฐาน
เขียนทักทายเพื่อนผองให้สราญ
กำลังใจมอบกันยามท้อใจ
อยู่ต่างถิ่นต่างที่มีสมัคร
ผูกสัมพันธ์แน่นหนักความสดใส
มิได้หวังสัมพันธ์เลิศวิไล
แค่มีใจอาทรตอนราวราน
เรียนรู้โลกปัจจุบันเป็นหมั่นเหมาะ
มิจำเพราะเจาะจงเป็นพื้นฐาน
ร่ำตำราภิธรรมตามบทกานท์
เพื่อเป็นฐานชีวิตก่อนปิดลง
จะจัดฉากชีวิตดั่งนิยาย
คงมิง่ายงอกงามนามบทส่ง
โลเกชั่นฉากสวยมิยืนยง
เป็นบทส่งนิยามตามแสดง
ก่อนชีพดับลับลาในครานี้
จึงใฝ่เพียรฤดีก่อนสิ้นแสง
เรียนบุญบาปวิญญาณก่อจำแลง
สลัดแรงบ่วงกรรมที่ทำมา
กุศลกรรมใดใดก็มิสู้
ละกิเลสกรรมวิบากมากปัญหา
มิติดบ่วงคารมในสัญญา
เพียรธรรมาก่อนลาร่างปนดิน
21 มี.ค 2552
ดอกบัว
21 มีนาคม 2552 09:19 น.
ดอกบัว
ผืนป้ากว้างสล้างทางชีวิต
ธรรมชาติลิขิตป่าผืนใหญ่
ปราศจากชื่อเสียงสำเนียงใด
มนุษย์ไซร้บัญญัติจัดขึ้นมา
ตั้งสมยานามนั้นปิงวังยม
นั่นดอกไม้แย้มโฉมยิ้มเริงร่า
นี้เค้าแมวตาโตโชว์ดวงตา
นั่นเฟื้องฟ้าต้านแดดแผดมลาย
ธรรมชาติธารใสไหลรวยริน
เลี้ยงชีวินสรรพสัตว์ให้เวียนว่าย
ระรวยรื่นราดรดมิวางวาย
ดั้นชีวิตแกว่งไกวในสังสาร
ต้นไม้ใหญ่ปกใบไหวสะพรั่ง
ลำน้ำกว้างปลาน้อยว่ายสืบสาน
ต่อเผ่าพันธ์โซ่สายเป็นตำนาน
เป็นสังสารเกิดดับสลับกัน
โลกเราล้วนอนิจจังอันไม่เที่ยง
มีสลับสับเปลี่ยนเวียนแปรผัน
เหมือนชีวิตขึ้นลงอยู่ทุกวัน
เดี๋ยวโศกศัลย์รังรองอภิรม
ยามราตรีแสงดาวพราวนภา
เดือนเพ็ญท้าแสงฉายสำแดงข่ม
ส่องกระจ่างเจิดจ้าน่านิยม
ธรรมชาติพรั่งพรมพรานมนุษย์
21 มี.ค 2552
ดอกบัว