26 กุมภาพันธ์ 2552 20:13 น.
ดอกบัว
ตกอยู่ในมายาของชีวิต
จิตกำหนดเจตสิกลิขิตให้
กำหนดรูปสัมผัสความเป็นไป
จิตรับรู้สภาวะใจเท่าทัน
เพราะกิเลสเป็นเหตุตัวปัญหา
เข้าเกาะกุมอุราพาไหวหวั่น
กำซานทรวงห้วงลึกจิตจาบัลย์
มาโรมรันเร่าร้อนวอนต่อยตี
เมื่อจิตตกยกปรับระดับอยาก
ก่อวินาศขาดดุลในวิถี
เปลี่ยนอัตตาลุ่มหลงเข้าราวี
มาต่อยตีจิตใสให้หมองมัว
จิตสัมผัสเจตสิกปรุงแต่งจิต
เหตุคุ่นคิดจิตโจนโผนสลัว
สิ่งสมมุติจุตติเข้าพันพัว
สิ่งน่ากลัวกิเลสเหตุใจตน
เย็นหอมอ้อมแมกไม้คลายหม่น
ฟากฟ้าแสงล้อมห่มทุกแห่งหน
เปล่าดายเปรี่ยววางว่างท่ามกมล
เหตุแห่งผลค้นใดใคร่สิ่งดี
ถ้าต้องการพ้นผ่านสิ่งหารหัก
ฝันมีรักหรือชังหวังสุขี
สายลมเย็นพัดพรมดวงฤดี
คือตัวชี้วิถีในตัวตน
รักษากาย, รักษาใจ,รักษาวาจา
เมื่อใดที่คิดว่าจะชำระล้างร่างกายขันธ์ทั้ง 5
จงระลึกนึกเสมอว่าจักพยายามทำให้หมดจด
และทะนุถนอมต่อท่านผู้มีคุณ, และให้คิดว่านี้คือการใช้หนี้เก่า
พร้อมกับทำด้วยความรู้สึกที่น่าเบื่อหน่าย เพราะ ทำไม่เลิกสักที
ศีล, การทำกาย และ วาจาให้เรียบร้อย
สมาธิ, การมีใจตั้งมั่น
ปัญญา, การรอบรู้ในกองสังขาร
วิมุติ, คือความหลุดพ้นอย่างอิสระ
มาเรียนรู้การกำจัดกองทุกข์กันเถอะ
ลาภสักการะ เกียรติยศ, เปรียบเหมือนใบไม้
ศีล คือเปลือกไม้
สมาธิ คือ เยื้อไม้
ปัญญา คือ เนื้อไม้
วิมุติ คือ แก่นไม้
แล้วเราต้องการอะไรดีหล่ะ หรือ ว่า แค่ให้ได้เห็นต้นไม้เท่านั้น
เรามาเรียนรู้ให้ถึงซึ่ง ใบไม้, เปลือกไม้, เยื่อไม้, เนื้อไม้,
สุดท้ายให้ถึงแก่นไม้ กันไปเลยดีกว่า
ศีล 5 ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจเร็ว ไม่พูดปด และไม่หมดสติ
ศีลธรรม ไม่ได้ทำให้คนพ้นทุกข์ได้
เรื่องง่ายๆ เพียงแต่ใจไม่ปรุงแต่ง ประตูธรรมชาติ ก็จะเปิดรับ
ความทุกข์เดือดร้อนทั้งหลายก็จักพินาจหายไป
คำสอนของหลวงปู่ที่มีเมตตาสอนลูกหลานให้เรียนรู้กิเลสตัณหาในจิตตน
24 กุมภาพันธ์ 2552 14:44 น.
ดอกบัว
จากวัยเยาว์เข้าสู่การศึกษา
ตั้งสติเรียนวิชาต่างวิถี
ปรับสภาพจิตใจใฝ่ทางดี
โลภ โกรธ หลง ตัวชี้จิตเปลี่ยนแปลง
ปรับสภาพข้างในนิ่งสนิท
หล่ะ หิริโอตตัปปะ อย่ากำแหง
ใช้ขันติปรับจิตปิดสำแดง
สิ่งเคลือบแคลงเป็นเหตุแห่งเภทภัย
เมื่อได้รู้ยุทธวิธีเช่นนี้แล้ว
ก็เคลื่อนแถวทัพพลันประจันไว้
ความรูสึก เป็นอาวุธฉุดปราชัย
ตัว ตัณหา ก่อเภท เหตุไพรี
ยิ่งอารมณ์อ่อนไหวราวไผ่ลู่
กิเลสวิ่งสู่จิตผิดวิถี
ปรับกระแสพินิจพิศฤดี
จะเข้าใจบ่งชี้(มิ)เจตนา
สิ่งสมมุติผุดพรายดั่งร่ายเสก
ใช้เมตตากรุณาอุเบกขา
มุทิตาประเสริฐอัปมัญญา
ใฝ่ธรรมาอภัยไทยธรรม
เห็นใบไม้ร่วงหล่นปนดินเปื้อน
ใบไม้เตือนคนเรามีสูงต่ำ
ความแตกต่างดวงจิตให้น้อมนำ
ความเหลื่อมล้ำใจเราไม่เท่ากัน
23 กุมภาพันธ์ 2552 14:43 น.
ดอกบัว
แสงอุษาแย้มเยือนเพื่อนเงียบงาม
ในทุกยามสางรุ่งจรุงไสว
เปิดเปลือกตาเบิกโลกอรุณไฉไล
สำนึกไหวซึมซับกับสายลม
เสียงวิหคแซ่ซ้องมาร้องทัก
สายลมโบยสบัดพัดล้อมห่ม
ช่อชบาอรชรชวนเอื้องชม
คลี่กลีบโชว์แย้มโฉมโลมตาวัน
แสงอุษามาเยือนเหมือนให้คิด
ว่าชีวิตยังอยู่อย่าไหวหวั่น
บนเส้นทางชีวิตที่ยาวนั้น
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนวันยังงามตา
เสียงนกร้องเยือนมาฟ้าสดใส
เสียงใบไม้แกว่งไกวแย้มอุษา
หมู่ผีเสื้อเริงรมย์ชมพนา
สรรพสัตว์หรรษาพาร้องเพลง
สายธารไหลรวยรินกลิ่นพฤกษา
โชยอ่อนอ่อนอ้อนพามาข่มเหง
ชงโคคลี่กลีบยวนชวนบรรเลง
นกขมิ้นครึ้นเครงมิเกรงกลัว
ครั้นยามสายสุริยาแรงกล้าเข้า
หมอกตอนเช้ารุ่งสางจางสลัว
ถึงหมอกจางฟ้าแจ้งคลายหมองมัว
โลกทั้งโลกสว่างทั่วพื้นพิภพ
คือธรรมชาติวาดเส้นเพ้นท์พื้นผิว
โลกหมุนริ้วเวียนวนมาบรรจบ
สลับร่ายแรงกรรมวิญญาณ์ภพ
มาบรรจบวัฏจักรสบวันวาย
18 กุมภาพันธ์ 2552 16:29 น.
ดอกบัว
วันเวลาหมุนครบกำหนดรอบ
ที่แม่มอบชีวิตลิขิตฝัน
เพาะบ่มรักเมตตาขยายพันธุ์
ให้ลูกนั้นได้เกิดกำเนิดมา
แม่ทนเจ็บเหน็บหนาวคราวอุ้มท้อง
แม่ปกป้องประคองครรภ์เติบกล้า
ถนอมลูกผูกจิตจนครบครา
กำเนิดมาเป็นลูกผูกสายใย
แม่ทุกข์ยากบากบั่นสรรค์งานหนัก
ผูกสมัครรักมั่นมิหวั่นไหว
หวงแสนหวงเท่าห่วงดั่งดวงใจ
ที่แม่ให้กับลูกทุกเวลา
พระคุณแม่ประมาณไม่สิ้นสุด
แม้สมมุติแผ่นดินทั่วแหล่งหล้า
เป็นหมึกก้อนละลายในธารา
แทนคุณค่ามิเปรียบมาแทบคุณ
พระคุณแม่นั้นยังมีอยู่มาก
ลูกขอฝากท้องฟ้าได้เกื้อหนุน
ลูกจะสร้างความดีให้การุณ
เพื่อเกื้อหนุนแม่สุขทุกภูมิไป
วาสนาลูกน้อยแสนด้อยค่า
กำเนิดมาหมดสิ้นแทนคุณได้
แม่จากลูกก่อนควรจะลาไกล
ลูกมิได้แทนคุณแม่หนุนมา
ขอฝากฟ้าฝากดินมหาสมุทร
กุศลลูกช่วยฉุดแม่เลิศหล้า
ขอแม่อยู่ภพภูมิเฉิดนภา
ให้แม่มีบุญญาพาร่มเย็น
14 กุมภาพันธ์ 2552 08:44 น.
ดอกบัว
ไม่คิดจะรัก
แต่ทึกทักฝากใจให้
ไม่คิดจะห่วงใย
แต่เพราะอะไรจึงอาวรณ์
มิคิดจะใส่ใจ
ความรู้สึกข้างในกับออดอ้อน
มิฝันจะเอื้ออาทร
หัวใจกับรอนรอนอยู่อย่างนั้น
สลักคำรักทั้งท้องฟ้า
มีค่า ฤา เท่านั่น
เขียนคำรักด้วยน้ำทะเลชั่วกัปกัลป์
ยังมิสรรค์ค่าได้ในใจนี้
เธอสูงสุดนะที่รัก
จะสลักให้หมดก็ใช่ที่
แม่ของฉันนั้นเลิศปฐพี
ค่ารักของแม่นี้มี ฤา ใครเทียบเทียม