26 กันยายน 2549 16:03 น.
ดอกบัว
เราเกิดมาแต่ตัวไม่มัวหมอง
ตามคันลองของชีวิตลิขิตฝัน
ทุกทุกอย่างเป็นไปตามกรรมกัน
ทั้งบุกบั่นสร้างสมเพิ่มคะแนน
เมื่อเราได้เกิดมาในอาโลก
ได้พ้นโศกพ้นภัยสบายแสน
จึงควรสร้างสิ่งชอบไว้ตอบแทน
ให้เป็นแดนดื่มสุขขึ้นทุกกาล
ตอบแทนโลกด้วยสร้างคุณความดี
เปลี่ยนวิถีอนารยะให้เป็นฐาน
สร้างสิ่งดีให้เกิดเป็นตำนาน
ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ชื่นชม
20 กันยายน 2549 07:17 น.
ดอกบัว
อยู่เรือนพังยังดีไม่มีทุกข์
ดีกว่าคุกหลายเท่าไม่เศร้าหมอง
จนยังดีมีธรรมค้ำประคอง
ดีกว่าปองทุจริตติดเกรียงไกร
อันบ้านเรือนใหญ่โตระโหฐาน
มีเสาทานหลายต้นจึงทนไหว
เกิดเป็นคนอยู่เดียวก็เปลี่ยวใจ
ต้องอาศัยพวกพ้องพี่น้องนา
จะหาใครเหมาะใจที่ไหนเล่า
ตัวของเรายังไม่เหมาะใจหนา
อนิจจังทุกขังอนัตตา
รู้ล่วงหน้าเสียก่อนไม่ร้อนใจ
19 กันยายน 2549 16:06 น.
ดอกบัว
มีปากกาอยู่ในมือไยถือนิ่ง
จงสร้างสิ่งสุนทรอันอ่อนหวาน
มโนน้อมแทนบุปผาสุมามาลย์
สอดผสานธารธรรมเป็นกำนัล
มิใช่เรื่องชวนเพลินเจริญจิต
แต่ที่คิดปรับปรุงเพราะมุ่งหวัง
เพื่อจะให้เรื่องนี้อยู่จีรัง
ให้ผู้อ่านตรึกตรองครองจิตตาม
หมั่นเตือนตนให้พ้นชั่ว
หมั่นเตือนตัวให้พ้นพาล
หมั่นฝึกสันดานให้พ้นผิด
หมั่นฝึกฝนจิตให้พ้นทุกข์
จึงต้องเรียนเพียรดูให้รู้ชัด
เร่งกำจัดมานะตนค้นสร้างสุข
รู้ให้เท่าเข้าให้ถึงกิเลสทุกข์
กำจัดมันอย่าให้เข้ารุมเร้ากาม
13 กันยายน 2549 12:55 น.
ดอกบัว
ฉันก็คน...มีหัวใจ
ไม่ใช่หลัก...ไม่ใช่ไม้
ไม่อ่อนแอ..แต่ไม่แข็งแกร่งเกินไป
ที่จะยืนได้...ตลอดเวลา
เวลาเจ็บก็เจ็บเป็น
บางทีก็เย็น...บางทีก็ชา
มีความรู้สึก....ขมขื่นดังว่า
ก็คนนี่นา...จะให้เป็นยังไง
ร้องให้ก็บ่อยบ่อย
แค่รอคอย...ก็เหงาได้
เพราะเป็นคน...มีหัวใจ
เจ็บ..เจ็บ..ไหว...ไหว
ก็เท่านั้น
5 กันยายน 2549 13:30 น.
ดอกบัว
เสียงระฆังดังกังวาลไปทั่วหล้า
เราทั่วหน้าต่างลุกจากหลับไหล
ต่างเกษมปรีเปรมเอมฤทัย
ที่ระฆังนั้นไซร้ช่วยปลุกเตือน
ยามใกล้รุ่งอรุณของวันใหม่
เรานี้แสนดีใจใครจะเหมือน
ที่ระฆังยังหวังดีช่วยปลุกเตือน
ไม่แชเชือนรีบเร่งมาปฏิบัติธรรม
พอดีวันหยุดกลับไปบ้านที่บ้านนอกมาค่ะ
ตั้งใจไว้ว่าจะตื่นมาหุงข้าวใส่บาตรแล้วลืมตั้งนาฬิกาปลุก
ได้ยินเสียงระฆังที่วัดเลยตื่นทันไม่งั้นคงไม่ได้ใส่บาตรแน่เลย
เพราะไม่ตื่นค่ะ ขอบคุณค่ะ ระฆังผู้หวังดี