18 เมษายน 2552 10:58 น.
ดอกบัว
ตะวันสาดแสงสีฝ่ากลุ่มหมอก
สีเทาออกแรกแรกทึบแน่นหนา
แสงสว่างไล้โรมหมอกจางตา
น้ำค้างเกราะยอดหญ้าคลายหายไป
แสงประกายวาวงามวาบหวามจิต
ยิ่งเพ่งพิศยิ่งงามความเคลื่อนไหว
แสงรุ่งสางสาดส่องทั่วแดนไกล
ธรรมชาติวาวใสให้มวลชน
ธรรมชาติกรุณามวลมนุษย์
ใสพิสุทธิ์สะอาดทั่วทุกหน
วาวแววดุจมณีทั้งมณฑล
ท่ามสับสนส่องแพรวพราวนภา
หนาวชีวิตคิดตรมระทมเศร้า
หนาวโลกเราร้าวซมตรมหนักหนา
ต่างความคิดต่างจิตต่างนำพา
โลกกว้างใหญ่อ่อนล้าคราลำเค็ญ
มีวิกฤติมากมายหลายสาเหตุ
ทั้งอาเภทเหตุร้ายภัยทุกข์เข็ญ
ทั้งภัยแล้งภัยร้อนภัยกรรมเวร
ภัยยากเข็ญตัวแปรความเปลี่ยนแปลง
โปรดสักนิดเพ่งพิศให้ถ้วนถี่
อย่าคิดมีอคติเข้าเคลื่อบแฝง
หรือมุ่งร้ายหมายหักจัดแสดง
โลกร้อนแรงโรมรันกันทั้งเมือง
คนล่ะนามมุ่งผลาญการณ์กำหนด
ให้สั่นไหวเกินกฏจะฟูเฟื้อง
โลกร้าวรอนเพราะคนดลขัดเคือง
ความประเทืองทดท้อต่อมือคน
หนาวลมหนาวเพียงใดใจยังสู้
หนาวเภทภัยใจรู้ทุกข์ขัดสน
หนาวมนุษย์สุดหยั่งอัตตาตน
หนาวเพราะเป็นมือคนดลเดียวดาย
วาดโลกสวยสดใสด้วยใจฝัน
วาดกำหนดจรดจารมิสมหมาย
วาดรวมภักดิ์รักษ์พลีหวังคลี่คลาย
ฝันสุดท้ายจบพลันวันสวยงาม
ตะวันส่องสาดแสงแจ้งอุษา
ท้องนภารังรองพรั่งเขตขาม
อุษาส่องอำนวยพยายาม
ทั่วเขตขามจรุงงามแสงรุ่ง
10 เมษายน 2552 06:54 น.
ดอกบัว
ส่อง แสงฉายพรายรุ้งที่พุ่งพาด
ปราศรอยหม่นเศร้าหมองเคล้าครองจิต
แสงฉายฉานพวยพุ่งนิรมิตร
เพาะบ่มจิตให้งามอร่ามตา
คือแสงฉายธรรมชาติสะอาดล้ำ
มาพรมพร่ำฉุดกิเลสฝังแน่นหนา
ออกจากจิตภายในกระจ่างตา
บรรเจิดจ้าไร้ทุกข์สุขเข้าครอง
ค่อยค่อยเคาะแกะเกาหลาวดวงจิต
ให้คมชัดไววิบผุดงามผ่อง
ด้วยธรรมาธรรมชาติตามครรลอง
ดั่งแสงทองอาบหล้านภาลัย
อย่าเกราะกุมตัณหามาสุมอก
มัวหยิบยกความเขลาเฝ้าสงสัย
โสตสัมผัสเพรงพรหมกังวานไพร
กล่อมกายในสงบสยบมาร
จะทำการสิ่งใดใคร่ครวญคิด
หนาวร้อนจิตพินิจให้ตระหง่าน
อย่าหลงลมบ่มเพาะอันธพาล
อารมณ์มารสยบสพธรรมา
ยกเวทนายิ่งใหญ่เกิดในจิต
ศูนย์กลางทิศอารมณ์สู่สมหา
เป็นนายกองสำคัญคอยบัญชา
จะชั่วช้าหรือดีอยู่ที่ใจ
30 มีนาคม 2552 07:23 น.
ดอกบัว
เสี้ยวหนึ่งแห่งอารมณ์จุดไฟฝัน
ท่ามคืนวันวุ่นวายในโลกกว้าง
สงบเงียบเยี่ยบเย็นบนเส้นทาง
ทุกก้าวย่างฟันฝ่าท้ารอยกรรม
จะมีพรหมองค์ใดลิขิตได้
มาเติมไฟใส่เชื้อเมื่อถลำ
มาซับรอยระทมยามระกำ
ยามเพลี่ยงพล้ำชะตาล้าโรยแรง
คงเปล่าดายมิได้ในลิขิต
ธรรมชาติลิลิตจิตโชนแสง
ปฏิสนธิกาลตามแสดง
ผลวิบากจำแลงจึงแปลงมา
ธรรมชาติรูปจิตและเจตสิก
ผู้ลิขิตรูปนามสืบพรรษา
ทวารทั้งหกหยิบยกจิตวิญญาญ์
จึงเกิดมาเวียนว่ายในบ่วงกรรม
จึงร่ายเสกอักษรเป็นกลอนกานท์
ตามชีวิตที่ผ่านทุกเช้าค่ำ
ผ่อนระกำลำบากความชอกช้ำ
เพื่อลำนำบทกานท์จารบรรเทา
ด้วยน้ำทิพย์รินไหลได้ผ่อนเย็น
ใจที่เร้นร้อนรุ่มคลุมแผดเผา
มีสรณะกำบังเป็นร่มเงา
คอยขัดเกลาเงาดำกล่ำครอบคุ้ม
อันเรื่องราวเร้าจิตให้คิดร้อน
ดั่งมีฟอนกองไฟความร้อนสุม
ดวงจิตกุมกิเลสเฝ้ากลุ้มรุม
ดังเหมือนเราซ่องสุมทุกข์ภายใน
ชีวิตนี้ไม่มีเครื่องต้านทาน
คงไม่ผ่านกองทุกข์พ้นไปได้
ล้วนตกในอำนาจอันตราย
ธรรมสัมมารัตนตรัยคุ้มครองตน
เราทุกคนสะสมตัวกิเลส
อันเป็นเหตุแห่งทุกข์จิตสับสน
ขันธ์ทั้งห้ารวมกลุ่มเกราะกมล
นาฬิกาเจตสิกดลเป็นตัวเฟือง
อาศัยกรรมก่อเกิดเป็นชีวิต
จักขุพิศมองเห็นทิศต่อเนือง
โสตวิญญาณการฟังอยู่ทุกเรื่อง
ฆานวิญญาญ์ประเทืองกลิ่นโชยมา
ทั้งชิวหาลองลิ้มชิมสัมผัส
จิตวิญญาณเร่งรัดมโนทั้งห้า
จิตอารมณ์เร่งเร้าในกามา
ขันธ์ทั้งห้ารวมหมู่ขึ้นเป็นกอง
กุศลจิตฝ่ายดีอำอาจเหนือ
จึงก่อเกื้อโลภะมาสนอง
เข้ายึดติดรูปสวยเย้าเรืองรอง
ตามสนองไพเราะเสนาะใจ
ฝ่ายโมหะรากเหง้าอกุศล
ชวนชี้ยลโทสะให้หลงไหล
ให้หลงผิดแตกต่างมรรคาไป
จึงก่อให้เกิดกรรมตามก่อกวน
27 มีนาคม 2552 15:02 น.
ดอกบัว
คลื่นหัวใจ
ดุจกระแสภายในที่เชื่อมต่อ
ระหว่างสองหัวใจได้ถักทอ
เชื่อมรอยต่อผสานเป็นหนึ่งเดียว
คลื่นคิดถึง
ทุกห้องห้วงคำนึงความแน่นเหนียว
รู้สึกตรงส่งต่อเธอผู้เดียว
มิรัดเหลียวผู้ใดให้ระคาย
คลื่นแววตา
ทุกห้วงแห่งเวลามิแหนงหน่าย
ยังสบซึ้งแววหวานที่พราวพราย
คลื่นภายนัยไหลผ่านม่านแววตา
ในความรัก
จึ่งสลักตรึงจิตเสน่หา
กระแสคลื่นซึมซับจับอุรา
จากแววตาคิดถึงซึ่งความรัก
26 มีนาคม 2552 17:01 น.
ดอกบัว
เมื่อตะแบกมาเยือนถึงเรือนชาน
มาผลิแย้มเบ่งบานทุกหย่อมหญ้า
ดอกไม้ต่างฤดูละไมตา
เดือนเมษาหน้าร้อนทองกวาวบาน
บานทายทักสงสรานต์ผสานคู่
ดอกคูนรู้เคลียคลอมาขับขาน
แย้มเยือนเนามหาวันสงกรานต์
ร่วมสืบสานประเพณีของไทย
วันสงกรานต์งามงดจรดทุกภาค
ปราศจากเคลือบแคลงจะแจ้งไข
งานบุญปีฤกษ์ดีวัฒนธรรมไทย
เราพร้อมใจร่วมสานประเพณี
ลูกหลานอยู่ต่างถิ่นทั่วแดนไกล
พร้อมรวมใจกลับทุ่งต่างวิถี
อยู่ภาคเหนือปิ๊กกลางอย่างเสรี
ต่างพื้นที่ฮอตบ้านลานเถียงนา
ประเพณีบ้านเราเขาก็จัด
สิบสามนัดหมู่เฮาร่วมหรรษา
ทั้งลูกหลานผู้เฒ่าต่างเข้ามา
ปฏิบัติกิจศาสนาแต่โบราณ
เช้าตักบาตรถวายภัตตาหาร
สังฆทานพร้อมสรรพทั้งคาวหวาน
ทั้งจีวรสบงวางใส่พาน
อุทิศการกุศลให้ญาติเรา
บ่ายสรงน้ำพระพุทธและพระสงฆ์
ทั้งขอพรยืนยงกับผู้เฒ่า
รดน้ำญาติผู้ใหญ่ให้นำเนา
ขอให้ท่านอยู่เหย้าสถาพร
การละเล่นพื้นบ้านแต่นานเนา
รวมหนุ่มสาวเกราะกลุ่มสโมสร
มอญซ่อนผ้าวิ่งรอบเพื่อนเว้าวอน
เธออย่าซ่อนหลังฉันหวั่นห่างไกล
ลำนำเพลงพื้นบ้านสนานสนุก
ทั้งร่วมปลูกสำนึกลูกหลานให้
รักษาวัฒนธรรมแบบไทยไทย
พร้อมเพียงใจสืบสานประเพณี