5 เมษายน 2549 19:50 น.
ดอกบัว
หนึ่งชีวิต คิดดูให้รู้แน่
หนึ่งชีวิต อย่าผันแปรเปลี่ยนความฝัน
หนึ่งชีวิต คิดดูให้รู้วัน
ความแปรผัน เปลี่ยนไปทุกนาที
อันชีวิต มนุษย์ ดุจความฝัน
สารพัน ศฤงคาร เงินมากมี
รูปรสกลิ่น ทอนสติ สมปดี
จะอัปปรีย์ เพราะโลภหลง จงละเลย
3 เมษายน 2549 18:15 น.
ดอกบัว
ต้น...ไม่รู้-ไม่ชี้ นี่เอาเปลือก
ต้น.ชั่งหัวมัน นั้นเลือก เอาแก่นแข็ง
อย่างนั้นเอง เอาแต่ราก ฤทธิ์มันแรง
ไม่มีเรา ของเรา แสวง เอาแต่ใบ
ไม่น่าเอา น่าเป็น เฟ้นเอาดอก
ตายก่อนตาย เลือกออก ลูกใหญ่ๆ
หกอย่างนี้ อย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้
ดับไม่เหลือ สิ่งสุดท้าย ใช้เมล็ดมัน
หนักหกชั่ง เท่ากับ ยาทั้งหลาย
เคล้ากันไป เสกคาถา ที่อาถรรพ์
"สพุเพ ธมุมา นาลํ อภินิเวสาย" อัน
เป็นธรรมชั้น หฤทัย ในพุทธนาม
จัดลงหม้อ ใส่น้ำ พอท่วมยา
เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้ หนึ่งในสาม
หนึ่งช้อนชา สามเวลา พยายาม
กินเพื่อความ หมดสรรพโรค เป็นโลกอุดรฯ
27 มีนาคม 2549 19:43 น.
ดอกบัว
ม่านราตรีคลี่ตัวคลุมทั่วฟ้า
ดาวหรี่ตาไปตามความขื่มขม
โลกน้อยน้อยลอยคว้างอย่างเศร้าซม
ฉันหกล้มระหว่างทางชีวิต
เคยทะนงหลงเหลิงระเริงโลก
หวังคว้าโชคและชัยไว้เป็นสิทธิ์
แต่อนาถพลาดรอยด้อยความคิด
จึงอยากปิดเปลือกตาอย่างอาดูร
25 มีนาคม 2549 23:03 น.
ดอกบัว
อันมารดาเป็นครูผู้สอนแต่ตอนต้น
แม่ทุกคนอุดมพรหมวิหาร
แม่มีเมตตากรุณามุทิตาการ
แม่มีญาณอุเบกขาเป็นอารมณ์
แม่หวังบุตรธิดาอย่าขื่นขม
แม่กับลูกผูกมิตรจิตชื่นชม
แม่จึงสมภาษิตมิตรในเรือน
24 มีนาคม 2549 16:45 น.
ดอกบัว
กิเลสหนา พาชีวิต จิตมืดมนต์
ก้องสกล เกริกเกรียรติ ดีแต่ชื่อ
ไพรพฤกษ์ เหมาะแสวง ธรรมยึดถือ
สวรรค์คือ ถิ่นพำนัก นักบุญจริง
เมื่อเจ็บไข้ ความตาย จะมาถึง
อย่าพรั่นพรึง หวาดไหว ให้หม่นหมอง
ระวังให้ ดี ดี นาทีทอง
คอยจดจ้อง ให้ตรงจุด หลุดให้ทัน
ถึงนาที สุดท้าย อย่าให้พลาด
ตั้งสติ ไม่ประมาท เพื่อดับขันธ์
ด้วยจิตว่าง ปล่อยวาง ทุกสิ่งอัน
สารพัน ไม่ยึดครอง เป็นของเรา