14 ตุลาคม 2546 17:39 น.
ดอกคิดถึง
กาลครั้งหนึ่ง One upon a time .... ยังมีหญิงสาวสวยรวยเสน่ห์ แต่ที่ในตามีแววของความทุกข์ระทมอยู่ผู้หนึ่ง เธออาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดนาดกระทัดรัดแห่งหนึ่งกลางกรุงมาเนินนาน อยู่มาวันหนึ่งเธอได้รับ email จากชายแปลกหน้ามีข้อความว่า
เมื่อสิบปีก่อนผมต้องสูญเสียขาซ้ายไปกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องใช้ขาเทียมเดินเหินไปมา ร่างกายและใบหน้าถูกไฟเผ่าไหม้ไม่มีชิ้นดี นับจากนั้นผมจึงได้รับสมญานามว่า ไอ้เป๋หน้าผี แทน บรรเจิด ชื่อที่พ่อแม่ผมตั้งให้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเห็นกระทู้ของคุณบนเว็บไซแห่งหนึ่ง มันทำให้ผมได้รู้ว่าคุณคงกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความเหงา โลกของคุณคงมัวหมอง อับแสง คล้ายๆกับโลกผม ผมจึงได้แต่คิดว่า จะเป็นการดีไหมหนอ หากคนสองคนจะมาร่วมกันแบ่งปันความทุกข์ความเหงาที่มีอยู่ร่วมกัน แล้วคุณเล่า...คิดอย่างไรกับเรื่องนี้
ผมขอจบจดหมายไว้เพียงเท่านี้
ด้วยหัวใจที่รอคอยคำตอบจากคุณ.....
BunJed@chaiyo.com
จะเป็นอะไรไปเล่าคะ ฉันจะรู้สึกรังเกียจรังงอนอะไรกับคุณได้มากมายนักหรือ กับผุ้หญิงที่หัวใจร้าวรานมาแล้วไม่รู้จักกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก
รัศมี
หญิงสาวพรมนิ้วมือลงบนแป้นคีบอร์ดแผ่วเบา ตัวอักษรสีดำค่อยๆผุดขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อ่านทวนซ้ำข้อความเบาๆในใจ ก่อนตัดสินใจคลิกไอคอนที่กรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ส่ง E mail ละเลียดจินตนาการของตนเองอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นึกถึงข้อความในกระทู้ที่โพสต์เข้าไปในเว็บบอร์ดของแวบไซต์แห่งหนึ่ง
ในวันที่หัวใจเพิ่งซอกช้ำจากชายคนรักคนล่าสุด
รัศมี เกิด 11 ก.ค 2522 ย่าง 24 ปี สูง 155 หนัก 50 พ่อแม่ลาจากไปนานแล้ว สถานภาพโสด แต่ไม่สด มีเรือพ่วงอีก 1 ลำ เป็นพนักงานข้อมูลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ไม่เดือดร้อนขัดสนเงินทอง แต่ที่ขัดสนคือ ความรักที่จริงใจ เพราะที่ผ่านมาชอกช้ำเพราะชายหน้าตาดีมาหลายรอบ แต่อดีตที่ขุ่นมัวไม่ได้ทำให้มองโลกในแง่ร้าย ยังคงศรักธาในความรักคงเดิม เปิดรับสมัครมิตรออนไลน์เอาไว้ปลอบโยนหัวใจเหงา ส่วนจะหล่อน้อย หล่อมาก ล่ำนิด รวยหน่อย สูง ต่ำ ดำ ขาว ไม่ว่ากัน Rusamee@hotamil.com
นึกแล้วก็ขำดี! หญิงสาวเผลออมยิ้มอยู่เพียงเดียวดายเธอทำอย่างนั้นลงไปได้อย่างไร แต่ก็ช่างแม่ง..งง..ประสาอะไร! ชีวิตของเธอผ่านเรื่องงี่เง่าไร้สติเสียยิ่งกว่านี้มาแล้วมากต่อมาก ปรายตาไปที่ลูกชายที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงในห้องเช่ารกร้างภาพฝังใจเมื่อหลายปีก่อนผุดพรายขึ้น
โทรมามีเรื่องอะไรหรือ น้ำเสียงหงุดหงิดชายหนุ่มคนรักนักศึกษาสถาบันเดียวกัน คนรักคนแรกของเธอ หน้าตาดี หล่อ รวย พรั่งพร้อมไปเสียทุกอย่างไหลตามสายโทรศัพท์มา
เออ ปอนเหรอ ฉันท้องได้สองเดือนแล้ว
อ้าว แล้วมันเกียวอะไรกับฉันด้วยละ
ถ้อยคำของชายหนุ่มสมบูรณ์แบบ ยุติความรัก 2 ปี กับ 4 เดือน 13 วัน เอาไว้แค่นั้น...ทิ้งลูกชายเอาไว้ให้เธอเลี้ยงตามยถากรรม
แสงไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์จับจ้องอยู่ที่วงหน้าสวยของหญิงสาว เรียวปากงามขมวดยิ้มนิดหนึ่งกับข้อความในอีกเมล์บับที่สองของเขาพึ่งเข้ามา
ผ่านโลกมาแล้ว 35 ฤดูฝน หนาว และร้อน น้ำหนักตัวแค่ 60 โล แต่น้ำหนักความหล่อ 99.99 กิโลขีด เลยเชียวนา
.... หนุ่มใหญ่วัย 30 แก่กว่าเธอเกือบครึ่งรอบทีเดียวเธอคิด
อาศัยบ้านหลังเล็กๆแถวชานเมืองที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้ ใช้ ความรุ้ระดัย ปวส.ที่ร่ำเรียนมาเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ มีรายได้พอกินไปวันๆ ไม่สูบบุหรี่ แต่ดื่มเหล้าบ้างนิดหน่อยตามประสาคนเหงา
หญิงสาวจ้องภาพตรงหน้าท่าเชยคางของเขาบนจอคอมพิวเตอร์ที่ส่งมาพร้อมกับEmail ฉบับที่สอง นิ้วชี้เรียวงามคลิกคำสั่งขยายภาพเต็มจอ ร่างงามสะดุ้งโหยงตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเขาถนัดๆ เนื้อที่บนใบหน้ามากว่าครึ่งหนึ่งเป็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้ ลักษณะเป็นเนื้อนูนสีน้ำตาลแดง หัวอกหญิงสาวสะท้อนขึ้นด้วยความเวทนา และที่ใต้ภาพถ่ายของเค้ามีภาพการ์ตูนนางฟ้าตัวน้อยกำลังอยู่ในท่าโบยบินไปในอากาศ มีคทาเพชรส่งแสงแวววาวอยู่ในมือ หญิงสาวจ้องมองนางฟ้าตัวน้อยสลับไปมากับนัยน์ตาใสซื่อเจียมตัวของเขา รู้สึกเหมือนว้าวุ่นสับสน
แต่แล้ว...ในที่สุดจึงตัดสินใจยอมรับนัดครั้งแรกกับชายพิการเจ้าของEmail
ภายในร้านไอศกรีมฝรั่ง-สถานที่นัดพบครั้งแรกภายในห้างสรรพสินค้าแห่งใหญ่-คลาดคล่ำไปด้วยผู้คนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นกลางเดือนเมษยน แอร์เย็นฉ่ำชวนเอให้นึกถึงความผ่าวร้อนของเปลวแดดที่เต้นระริกบนเรือนกายที่นอกถนนใหญ่เมื่อครู่ พลางเอื้มมือไปยีหัวเหนอะหนะเต็มไปด้วยเหงื่อของลูกชายขณะนั่งหน้าตาแป๊ว...ด้วยความรัก ผินหน้ามองผ่านกระจกใสบานใหญ๋ที่หน้าร้าน แลเห็นร่างผอมในชุดสบายๆ เสื้อสีส้มกับกางเกงยีนโดดเด่นท่ามกลางผู้คนเดินผ่านไปมา ชายชื่อ
บรรเจิด โขยกเขยกโยนตัวขึ้นๆลงๆจากพื้นมาแต่ไกล
ผมจะใส่เสื้อสีส้มเพื่อคุณจะได้เห็นผมชัดเจน
ข้อความในEmailฉบับล่าสุดของเขาผุดขึ้นมาในห้วงความคิดเธอ เธอคิดว่าไม่เห็นต้องใช้สัญลักษณ์อะไรให้ยุ่งยากยังไงเธอก็จำเค้าได้แน่นอน
ส่วนเธอนัดหมายไว้ว่าเธอจะสวมเสื้อสีม่วง สีของแม่ม่ายและการรอคอย
วินาทีแรกที่พบเธอ ชายหนุ่มรู้สึกเคอะเขิน มือไม้ดูเกะกะรุงรัง ไม่รู้จะเอาไว้ไหน เผลอยกมือไหว้เธออย่างไม่มีปรี่มีขลุ่ย หญิงส่วอมยิ้มน้อยๆขบขันยกมือรับไหว้ นึกในใจ สงสัยเธอจะอายุสั่นอน่ๆ ให้คนแก่มายกมือไหว้
บรรเจิดรำพึงกับตัวเอง เธอช่างงดงามอะไรอย่างนี้หนอ ชายหนุ่มรู้สึกต่ำต้อยลงไปยิ่งกว่าเดิมอีกหลายร้อยเท่า นัยน์ตาซื่อบนใบหน้าเหลอหลารีบส่ายตาหาที่หลบด้วยความเขิลอาย เหลียวซ้ายแลขวาจนไปเจอหนุ่มน้อยดวงตาใสซื่อ ลูกชายวัย 2 ขวบของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆผู้เป็นแม่ ประกายตาของชายหนุ่มฉายแววเอื้ออารีขึ้น แต่เด้กน่อยร้องให้ตกใจด้วยความกลัว อุทานเบาๆว่า แม่จ๋า ผีหลอกหนู หญิงสาวปลอบโยนสักพัก เด็กน่อยจึงหายกลัว พร้อมกับจ้องมองมองใบหน้าของบรรเจิดที่เคลือบอยู่ด้วยรอยยิ้ม
เออ..อา นี่คงเป็นลูกชายของคุณใช่ไหมครับ พูดจบขยับตัวไปอุ้มเด็กชายที่หายกลัวแล้วมาอุ้มไว้ พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งพร้อมกันบนเก้าอี้บุนนวมตรงข้ามเธอ สักพักเสียงหัวเราะร่าของเขากับเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุขของเด็กน้อยจึงดังเป็นระยะๆ
เสียหัวเราะและภาพตรงหน้าทำเอาหัวใจเธอผู้เป็นแม่แทบร่ำไห้ นึกไปถึงชายคนรักคนก่อนที่เพิ่งเลิกร้างราจากเธอไปเมื่อไม่กี่วัน คนรักล่าสุด ฐานะดี สมบุรณ์แบบ
ผู้นำพาความเปลี่ยวเหงามาสู่เธอนั่นเอง ผมว่าคุณย้ายมาอยู่กับผมที่นี่ เอาลูกชายคุณให้คุณแม่คุณเลี้ยงก่อนแล้วกันนะ ไม่ต้องเอามาอยู่ด้วยหรอกเราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ร่างเปลือยเปล่าของเธอที่เกลือกกลิ้งอยู่ในอ้อมกอดของเขาผลุดขึ้นผละหนีออกจากอ้อมกอดทันที ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าที่ถอดกองอยู่ปลายเตียงยุติความสัมพันธ์ที่กินเวลาได้เพียง 9 วันไว้เท่านั้น
หญิงสาวฮำเพลง Love Me Love MY Dogขณะเดินลอยชายออกจากคอนโดหรูของเขา
โฉมงานกับอสูรย์ เสียงชายปากเสียงโต๊ะข้างๆแซวสิ้นเสียงพากันหัวเราะรับอย่างขบขันระคนสมเพชของเพื่อนร่วมก๊วนอีกสองสามคน ดึงความคิดของเธอกลับมาที่ร้านไอศกรีมอีกครั้ง
เธอเห็นชายพิการก้มหน้ามองพื้นด้วยความเสียใจและอับอาย
อนิจจา! หัวใจของเธอหลุ่นวูบ..........
หญิงสาวหันไปมองชายปากเสียคนนั้นทันทีพร้อมโต้ถียงขึ้นภายใน
จะทำไมหรือ ชายพิการคนนี้ต่ำต้อยอะไรหนักหนาฉันเองก้ไม่ได้สูงส่งอะไรเลย เพราะในความเป้นจริงภายใต้ใบหน้าที่สวยงามขอฉัน ฉันเองก็พิการไม่ต่างกันเลย ไม่แปลกหรอกหากคนพิการสองคนที่ขาดแคลนความรักอย่างแรงมาพบกัน!!
สักพักเมื่อคิดเงินเสร็จ เธอเดิมดุ่มๆ ตามหลังเขาที่อุ้มลูกชายของเธอเดินหน้าหงอยๆออกจากร้าน พลางคิดในใจ ....น่าสางสารเขาเสียจริงๆ กี่คำกันที่เขาพุดกับฉัน เขาพูดน้อยเหลือเกินไม่เหมือนในจดหมายเลยซักนิด แต่กเดีแล้วละ บางครั้งความงียบก่อให้เกิดจินตนาการดีๆยิ่งกว่าถ้อยคำมากมายเสียอีกฉันสังเกตเห็นไอศกรีมเขาพร่องไกปนิดเดียวเอง เพราะมัวแต่ป้อนให้เจ้าหนูของฉันเอง
ที่หน้าบ้านเช่า ชายพิการกล่าวคำล่ำลาเธอและลูกชายก่อนตัดสินใจเดินจากลาไปด้วยความเศร้าสร้อย แต่แล้วก็ผลุนผลันหมุนตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ละล่ำละลักบอกด้วยคำพูดเชยๆที่จำมาจากนิยายรักที่เค้าใช้เวลาตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาท่องมัน
เออ... ไม่ว่าจากนี้แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างไร ผมเข้าใจและขอให้คุณรับรู้ด้วยหัวใจว่า แม้จะไม่มีคทาวิเศษอยู่ในมือแต่คุณจะคือนางฟ้าของผมตลอดไปครับ
หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกนี้ทั้งใบสว่างไสวขึ้นมาในบัดดาลคล้ายๆกับว่าภาพการ์ตูนนางฟ้าที่เขาส่งมาในEmailก่อนหน้านั้นเคลื่นไหวได้ มันลอยเวียนอยู่รอบกาย รำพึงกับตัวเอง เออ..ผู้หญิงมีตำหนิอย่างฉันนี่หนา ยังมีคนให้ค่าให้เกียรติมากมายจนถึงปานนี้อีกเชียวหรือคล้ายๆกับว่าร่างกายแผ่วเบาหวิว ไรน้ำหนัก และค่อยๆลอยสูงขึ้น สูงขึ้น ราวกับนางฟ้าบนสวรรค์
แต่มาวันนี้ดูซิ .... ชายพิการ ไม่สมบูรณ์แบบ เหมือนดังใครๆได้ให้อะไรกับเธอมากมายกับหัวใจอันแสนอาภัพของเธอ ทั้งความรัก-กำลังใจ และความสุขสมบูรณ์แบบแก่ชีวิตเธอ อย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รับในชีวิต เขาช่วยฟื้นหัวใจอันบอบช้ำกลับมาชุ่มฉ่ำอีกครัง และตลอดระยะเวลา30ปีที่ผ่านมา หญิงสาวได้เรียนรู้ความจริงอย่างหนึ่งว่า
เมื่อเราได้รักใครจริงๆสักคน เราจะมองเห็นความ มหศจรรย์ซุกซ่อนอยู่ในกายของคน คนนั้น ไม่ว่าเขาจะขี้เหร่เพียงใดก็ตาม หญิงชราเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นของชายชรามาแนบกับแก้ม... นิ่งเนินนาน....พลันนัยน์ตาฝ้าฟางกับที่มีหยดน้ำตาเอ่อท้นปนอยู่ก็คลับคล้ายว่าแลเห็นร่างของเจ้าชายรูปงามผิวกายละเอียดเรืองดุจทองคำปรากฎขึ้นแทนร่างกายของชายพิการที่กำลังจะจากเธอไปด้วยความรักที่ไม่อาจรั้งไว้ได้ หลังจากที่ลมหายใจของชายชราค่อยๆขาดห้วงลงด้วยหยาดน้ำตาแห่งความสุขล้นตลอด30กว่าปี....