20 กุมภาพันธ์ 2546 20:25 น.
ดวงดาวแห่งคนช่างฝัน
ครานั้นพลันใจเขาสลาย ลมแรงทุกข์ร้ายเหน็บหนาว
ดวงใจเขากลายเป็นดาว ประดับ ณ ราวฟ้าไกล
คืนนี้เขาอยู่บนฟ้า ดูซิดวงตาสุขใส
ข้าจ้องมองตอบเขาไป สื่อสารอ่านใจแห่งกัน
เพื่อนเอยอย่าเหนื่อยเหน็บหนาว ดวงดาวของคนช่างฝัน
โปรดขานขับเพลงรำพัน เบิกแสงแบ่งปันผู้คน
ยามข้าว้าเหว่เร่ร่อน สัญจรไปทุกแห่งหน
หวังวาวเนตรมิตรเบื้องบน แลลแดเมฆหม่นลงมา
รวดร้าวเรียนรู้รื่นรมย์ หากล้มหาญลุกปลุกกล้า
ร่องรอยชีวิตวิญญาณ์ กรีดวัยเวลาสร้างงาน........
19 กุมภาพันธ์ 2546 22:08 น.
ดวงดาวแห่งคนช่างฝัน
คราหนึ่งเพื่อนข้าอธิษฐาน ยามจิตวิญญาณงันเหงา
ดึกลงพรมพัดแผ่วเบา หอมกลิ่งดาวเจ้าโชยไกล
แม้นว่าใจเขาต้องสลาย ขอกลายเป็นดาวสกราวใส
ฝันร่วมฟ้าฟากฝากไฟ เปล่งดวงหัวใจฉายดวง
เป็นมิตรของคนช่างฝัน ด้วยแรงจิตอันใหญ่หลวง
เป็นดาวเฉกดาวทั้งปวง รุ่งโรจน์โชติช่วงรางชาง
เป็นคมเนตรจ้องเจิดจ้า แต่ค่ำจนฟ้ารุ่งสาง
เป็นขวัญของนักเดินทาง ผู้ยังก้าวย่างหยัดยืน
เป็นดาวกล่อมธรรมชาติ ยามโลกเกรี้ยวกราดฝาดฝืน
เป็นนวลแสงทองส่องพื้น แผ่นดินได้ชื่นแสงพราว...............
19 กุมภาพันธ์ 2546 21:53 น.
ดวงดาวแห่งคนช่างฝัน
จะทอฝันใหม่ใหม่ไม่รู้จบ
จะยังหวังคอยพบพรุ่งวิถี
จะไม่เคยท้อแท้ในชีวี
เหมือนกับที่ชีวาให้หมุนเวียน
ทั้งใบไม้ใบหญ้ายังระยับ
ผลิใบใหม่คอยรับฤดูเปลี่ยน
เคยผ่านสิ่งต่างที่บ่อนเบียน
ยังคงเขียนขีดวาดฤดูกาล
จะเป็นสีสวยสดในโลกใหม่
จะไม่ท้อหวั่นใจให้ใครขาม
จะแต่งแต้มโลกมืดให้งดงาม
ไม่ไล่ตามแต่ฝันดั่งที่เคย..................