18 กรกฎาคม 2554 15:30 น.
ดวงจันทร์
แปรปรวนอยู่เสมอเผลอไม่ได้
เช้านิ่งใสดูสีไม่มีหมอง
พอบ่ายกลับมืดครึ้มกระหึ่มก้อง
เป็นทำนองทั่วท้องปัฐพี
เปรี้ยงปร้างปราดเปรียวแรงสำแดงเดช
ดั่งพระเวทดลดาลรัศมี
อัศนีบาตฟันฟาดขาดปรานี
เหมือนอสุรีมีตนดลบันดาล
ธรรมชาตินั้นปรวนแปรไม่แน่นิ่ง
ทั้งสี่สิ่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ สงสาร
ประกอบเป็นอัตตาโลกิยาการ
มิอาจทนหรือทานการเปลี่ยนแปลง
ธรรมชาติของใจก็ไหวสั่น
ช่างแปรผันเปลี่ยนกลับเกิดดับแฝง
สุขทุกข์ซ่านสานผสมตรมสำแดง
ไม่รู้แห่งเกิดและดับจึงอับจน
16 กรกฎาคม 2554 21:41 น.
ดวงจันทร์
น้ำเต้าหู้ราคาถูกปลูกแคลเซียม
แม้ไม่เทียมเทียบราคารังนกได้
แต่เพราะรู้คุณประโยชน์ขอโทษใจ
เงินพี่มีไม่เท่าไหร่แต่ใจมี
ไม่มีเงินซื้อรังนกมาฝากน้อง
ไม่มีทองมากองไว้ในวันนี้
มีเพียงรักมาฝากไว้ให้ฤดี
ขอน้องนี้รับพี่ไว้พิจารณา
โปรดรับพี่เข้าไปไว้ในใจก่อน
หากจะทอนหรือจะเพิ่มค่อยเริ่มว่า
ทีละเล็กละน้อยค่อยเจรจา
หากว่าไม่ควรค่าค่อยว่ากัน
เพราะไม่มีรักเฉลียวเกี้ยวผู้หญิง
มีแต่จริงใจจริงกับสิ่งฝัน
เพราะชอบจริงจึงบอกใช่หลอกกัน
พี่จะรอวันนั้นฉันมีเธอ
น้ำเต้าหู้ราคาถูกปลูกแคลเซียม
ประโยชน์เยี่ยมยอดเกินเมินเสนอ
จึงถือน้ำเต้าหู้เอาเข้าพบเจอ
รู้ไหมเธอกี่วันพี่นั้นรอ
จากวันศุกร์ลุวันเสาร์เข้าอาทิตย์
วันจันทร์ปิดหยุดงานสงสารหนอ
สงสารใจเจ้ากรรมนับวันรอ
เฝ้าวอนขอพบหน้ายุพาพาน
จึงมาขอพบหน้าในวันนี้
ขอคนดีมีจิตคิดสงสาร
ช่วยตอบถ้อยสักน้อยอย่าคอยกาล
เบอร์โทรขอเมื่อวันวานประการใด
อย่าให้ต้องทรมานการคิดถึง
(น้ำ)เต้าหู้ซึ่งราคาถูกผูกมาให้
เพราะเป็นห่วงสุขภาพซาบจากใจ
มิหวังใดเพราะห่วงใยจากใจจริง
16 กรกฎาคม 2554 21:14 น.
ดวงจันทร์
โอ้อาลัยให้หวงดวงสมร
นิราศร้างห่างไกลไปจากจร
ทิ้งภมรร่อนร้างกลางนภา
เจ้าจากรามคำแหงเหมือนแกล้งพี่
หรือไม่มีใจจิตขนิษฐา
สู้อุตส่าห์สร้างสัมพันธ์เกลียวกันมา
ทิ้งอุราพี่ตรอมริมคลองตรม
ไม่มีแล้วดาวเดือนเคยเกลื่อนฟ้า
ไม่มีแว่ววาจาสง่าสม
ไม่มีแล้วแววตาน่าภิรมย์
มีแต่ขมขื่นกลับจับหัวใจ
ไม่มีเสียงขานต่อล้อระริก
ไม่มีมือหยิกจับเคยรับได้
ไม่มีสัมผัสอุ่นละมุนละไม
ไม่มีเยื่อเหลือใยหรือไงนาง
จึงตั้งต้นด้นนิราศเพื่อวาดฝัน
สิ่งสำคัญคือน้องอย่าหมองหมาง
นิราศสู่หัวใจแม้ไกลทาง
จะค่อยย่างจนถึงกลางหว่างใจเธอ
3 กรกฎาคม 2554 15:45 น.
ดวงจันทร์
ครืน ครืน.............ครืน
ฟังเสียงเรือดังครืนลื่นไถล
บนลำคลองแห่งช้ำระกำใจ
แสนแสบใยสมชื่อเขาลือกัน
แสนแสบช้ำเพราะรักทำขวัญช้ำจิต
เรียมก็โดนพิษรักเข้าห้ำหั่น
เมื่อสองรักต่อปลูกผูกสัมพันธ์
ต่างมาถูกปิดกั้นสั่นสะท้าน
ฉันก็แสบแสนแสบช้ำลำนำรัก
เฝ้าทอถักอักษราภาษาหวาน
เพื่อต่อปลูกรักปลอบตอบสำราญ
แต่ขอทีผิดกาลไม่ผ่านใจ
ยุคสมัยไฮโซเทคโนโลยี
หรือจะรีรอลำนำถ้อยคำได้
ใช้วาจาสั้นกระชับจับหัวใจ
ก็เข้าถึงความในต้องใจกัน
แต่เราเป็นนักกลอนออดชะอ้อน
จะให้ทิ้งคำกลอนครูสอนสรร
คงยากเพราะเหมือนกระชากพรากชีวัน
ขอนับวันพบคนรักเป็นนักกลอน
หากไม่พบมิขอพานร้าวรานสู้
ยืนหยัดอยู่สร้างงานครูสานสอน
แม้พ่ายรักแพ้ใจไร้อมร
ขอต่อกลอนสอนชีวิตจนนิทรา
3 กรกฎาคม 2554 12:14 น.
ดวงจันทร์
สักหนึ่งบทก่อนนอนย้อนรำลึก
กว่ารู้สึกก็สายมลายฝัน
สายน้ำไม่ไหลกลับนับนิรันดร์
เวลานั้นผันไปไม่ไหลคืน
คิดสิ่งใดให้ทำก่อนอย่านอนนิ่ง
เวลาวิ่งลับลาใดหาฝืน
กระแสธารกระแสใจใช่ไกปืน
ไม่ไหลคืนมาใหม่เหมือนใจเธอ
อีกหนึ่งบทก่อนนอนสอนสำนึก
ที่ร้าวลึกรักช้ำนำเสนอ
เกินประมาณเกิดดับที่นับเจอ
ก็ยังเผลอเศร้าสลดกำสรดใจ
ว่าชินแล้วแก้วเอ๋ยเคยหวังผิด
ทุกครั้งจิตก็ร้าวรานพานหวั่นไหว
เกินจะตั้งสติตอบปลอบฤทัย
อีกครั้งใจไหวหวาดแทบขาดรอน