25 มีนาคม 2552 11:45 น.
ด.ช. ปรัชญา
แม้ความคิดถึงไม่มีขา.....
และไม่อาจเดินไปมาได้หลายหน
แต่ความคิดถึงอาจเวียนวน
เพื่อคิดถึงใครบางคนอยู่ในใจ
แม้ความคิดถึงไม่มีขา.....
แต่ก็อาจบินไปมาถึงกันได้
เช้าช้าเย็นค่ำเท่าไรไร
ความคิดถึงโบยบินไปทุกนาที
หากเธอคิดถึงฉัน.....
ทุกเชื่อวันจงอย่าได้หมองศรี
ลืมเสียสิความทุกข์ที่เธอมี
รักษาไว้แต่ความดีในหัวใจ
หากเธอคิดถึงฉัน......
ทุกเชื่อวันให้เธอจงฝันใฝ่
จงเชื่อมั่นและจงได้ก้าวไป
ด้วยหัวจิตหัวใจไร้มลทิน
ฉันจะรอเธออยู่ที่ฟากนี้.....
ฟากแห่งฟ้าที่ความดีไม่สูญสิ้น
ฟากแห่งฝันที่ใจเธอจะได้ยิน
ที่ความหวังทั้งสิ้นจะเรืองรอง
ขอเธอจงได้ก้าวมา.....
ผ่านภูผาและเมฆาทุกห้วงห้อง
มีความรักและศรัทธาเป็นครรลอง
ขอเธอจงได้ลองโบกโบยบิน
แม้ว่าความคิดถึงไม่มีขา
แต่ความกล้านั้นไม่เคยจะสูญสิ้น
คิดถึงฉันขอให้หวังตั้งใจจินต์
ก้าวสู่ฝันสู่แดนดินที่แดนทอง
25 มีนาคม 2552 08:34 น.
ด.ช. ปรัชญา
ใบไม้น้อย
ลิ่วปลิวลอยตามลมให้ไหวหวั่น
ฉุดกระชากสาดซัดสารพัน
ใบไม้ก็พลันกระจัดกระจาย
ใบไม้น้อย
เจ้าอาจต้องล่องลอยวาบไหวหวาย
ลมระดมโจมจู่มิรู้วาย
ใบไม้น้อยปลิวปลายไม่เว้นวัน
แต่เมื่อลมสงบ
ใบไม้ย่อมซบดินไม่ไหวหวั่น
ชำแรกแทรกเดียวกับดินทุกวี่วัน
เป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป
ชีวิตก็เป็นเหมือนเช่นนี้
ที่จะมีวันต้องไม่ผ่องใส
แต่วันหนึ่งก็จะถึงซึ่งเส้นชัย
ยืนหยัดอยู่ได้ไม่เปลี่ยนแปลง
เช่นกับใบไม้ใบน้อย
อยู่กับดินเพื่อคอยสุรีย์แสง
ผสานกลืนกลายเป็นอาหารพลังแรง
เป็นต้นแหล่งแห่งต้นไม้ต่อต่อไป
ต้นไม้อีกหมื่นอีกแสน
ที่โลดแล่นผลิโตจนเติบใหญ่
ล้วนลูกหลานใบไม้น้อยนั้นอย่างไร
สละตนเพื่อให้เป็นกำลัง
เราต้องเป็นใบไม้น้อย
หวังสร้างโลกอย่างคอยถวิลหวัง
แม้ต้องตายเจ็บตกอกแทบพัง
จงอย่ายั้งปณิธานทุกการใด
วันหนึ่งเมื่อลมสงบ
สลายร่างซบกับดิน ณ วันไหน
เมื่อนั้นผลิพันธุ์ไม้อันอำไพ
ก็จะเกิดใหม่มาแทนเรา
25 มีนาคม 2552 08:11 น.
ด.ช. ปรัชญา
สาธุด้วยจิตอันผ่องแผ้ว
งามเพริศแพร้วพรรณรายสายสวรรค์
หลับตาน้อมจิตลงโดยพลัน
อธิษฐานกับจันทร์อันอำไพ
น้อมใจถึงจันทร์แทนนิมิต
ลิขิตเขียนไว้กลางมโนหมาย
สอดสำนึกตรึกแน่นทุกแก่นกาย
มาดหมายด้วยจิตที่คิดดี
ธรรมขาวประคองใจหมดจด
ปรากฏเป็นกุศลทุกท่วงที่
องอาจอ่าเอกะสมาธิมี
อธิษฐานชี้ให้เห็นทุกถ้อยคำ
สาธุเอ่ยขอบารมีที่สะอาด
จากพระนฤพานอันคมขำ
อีกแสนโกฏิพระพุทธเจ้าประจำ
โปรดประทานลำนำคำพร
ให้มนุษย์โลกนี้ไร้ความชั่ว
ไม่เกลือกกลั้วอบายมุขสโมสร
ให้มนุษย์เกลียดเสนียดจัญไรสถาวร
ให้กิเลสเลศร้อนถล่มทลาย
ให้มนุษย์สับประยุทธ์ความชั่ว
ชนะความเมามัวหมดหาย
ชำระจิตสงบสว่างสบาย
สมมุ่งหมายเป็นได้เห็นธรรม
ให้พุทธศาสน์ซึมซาบทุกดวงจิต
ทุกประเทศตั้งจิตต์ทุกเช้าค่ำ
ทำดี-ละชั่ว-กลัวกรรม
ใจสว่างมานำเป็นนิตย์ไป
ให้หิริ-โอตตัปปะยอดฮิต
พุทธธรรมครองจิตยิ่งใหญ่
โพธิปักขิยธรรม สามสิบเจ็ดชูไชย
ทุกถิ่นทั่วไปได้กระทำ
ขอจิตมนุษย์นี้ราวเทพ
นิยมเสพความดีทุกปีค่ำ
ขอนรกอวีจีชั่วช้าระยำ
จงต้อยต่ำแห้งหายทลายไป
ขอมนุษย์จงเป็นทางมา
แห่งความงามสง่าผ่องใส
ให้บรมวิชชาพุทธเจ้ากู้ดวงใจ
ประคองให้ทุกมนุษย์นี้สุดดี
ขอมนุษย์จงละโลกียะ
ปลดสิ่งกักขฬะอันหมองศรี
ปวงกิเลสสามตระกูลทุกราคี
ละเลิกวิถีเช่นนี้ไป
กรวดน้ำคว่ำขันกับความชั่ว
ความเมามัวอันมีแต่ปางไหน
ให้ตัดขาดเหินห่างจืดจางไป
ไม่เหลือเยื่อใยกันเสียที
เพื่อจะได้สู่ความบริสุทธิ์
ทุกมนุษย์ถึงธรรมกันอึงมี่
เชื่อมสายนิพพานทุกชีวี
หมดทุกข์กันทีเถอะเทอญ
25 มีนาคม 2552 08:02 น.
ด.ช. ปรัชญา
ฉันถวายมะลิมาลัยแก้ว
อันเพริศแพร้วแล้วล้วนด้วยใจใส
แด่พระบรมศาสดาดำรงใน
อันสถิตย์สถานสมัยนฤพาน
ร้อยมะลิมาลัยด้วยใจ
ใช้ดอกศีลสว่างใสสีหวาน
กลิ่นจรุงแห่งศีลชีวาบาน
ฟุ้งฟ้าไกลนานกาลเวลา
มีใบปัญญาประดาประดับ
ระยิบระยับดุจดาวพราวหนักหนา
บรรจงร้อยกระจิดริดแห่งปัญญา
ถวายเป็นพุทธบูชาด้วยกัน
ที่กลางช่อมาลัยแก้วนั้นเล่า
ถนอมน้อมนำเอาสมาธิอันเฉิดฉันท์
ระดะดอกสมาธิงามอนันต์
กี่ชั้นฟ้าทั้งนั้นก็บูชา
รวมเอามะลิมาลัยงาม
ร้อยบรรจงทั้งสิ่งสามสังขยา
เป็นมาลัยแก้วแห่งศีลสมาธิปัญญา
เป็นเครื่องน้อมบูชาพระเทอญ
ขอบุญใดที่ได้ถวายนี้
จงได้มีแก่พุทธบริษัทสรรเสริญ
ให้รักสามัคคีกันไว้ให้เพลิดเพลิน
ดำริดำเนินตามพระพุทธองค์
ขอให้พุทธศาสนาจงจำรูญ
เพิ่มพูนความสว่างและสูงส่ง
ให้อวิชชาจงมลายแห้งหายลง
จุ่งจงความสิริพิบูลย์เอย ฯ
24 มีนาคม 2552 10:56 น.
ด.ช. ปรัชญา
หากใครจะคิดว่าฤทธิ์ใด
จะยิ่งใหญ่เท่าฟ้ามหาศาล
มีกำลังหักโค่นยอดภูพาน
ฟาดท้องฟ้าให้แหลกลาญเป็นจุลไป
ฤทธิ์นั้นมิใช่ฤทธิ์ยักษ์
หรือบรมประลัยจักรไม่ถ้วนได้
ฤทธิ์นั้นหาใช่เทพสุราลัย
อันอยู่ไกลกว่าฟ้ามหาบดี
แต่ฤทธิ์นั้นคือตรีกิเลส
อันเป็นต้นแห่งเหตุทุกวิถี
โลภะ โทสะ โมหะมี
อยู่ ณ ที่แห่งใดบรรลัยพลัน
ยังไม่รวมกิเลสชื่อราคะ
ซึ่งชำนะผู้คนไม่พรึงพรั่น
ทำลายหมายมนุษย์สารพัน
ให้ทั้งนั้นเป็นทาสดาษดา
อิทธิฤทธิ์ของตรีกิเลส
จึงยิ่งกว่าทุกมูลเหตุนักหนา
นับตั้งแต่ไส้เดือนกิ้งกือมา
ไปจนกว่าพรหมาสุทธาใด
กิเลสล้วนแทรกอยู่ทุกอณู
มากน้อยอาจดูไม่รู้ได้
ทุกทิพย์-พรหมฌาณประการใด
ก็จักไม่รู้เหตุกิเลสเลย
แต่กิเลสนั้นต่างก็มีตน
แฝงอยู่ในทุกผู้คนดังเฉลย
ซ้อนในซ้อนแฝงในแฝงไม่น้อยเลย
จักเปรียบเปรยเป็นมากกว่าโกฏิปี
กิเลสซึ่งแทรกในมนุษย์
ทำความบริสุทธิ์ให้หมองศรี
ทำลายดวงจิตที่คิดดี
ให้ชั่วช้าเต็มทีระยำไป
ให้ปั่นป่วนทั้งหมื่นโลกธาตุ
ให้มีมหาวินาศหวั่นไหว
สรรพสัตว์มากน้อยเท่าไรไร
ไม่เว้นไว้สักนิดกระจิดเดียว
มดน้อยทึ้งถึงกับทุกแมลง
อันแฝงอยู่กับไม้สีเขียว
ฉีกฆ่าทุกวี่วันอย่างนั้นเจียว
ด้วยเหตุประการเดียวแห่งชีวา
ปลาใหญ่ฮุบเจ้าปลาน้อย
เจ้านกจ้อยหลีกหลบจ้าวเวหา
สิงสาราสัตว์ทุกอัตรา
และมนุษย์ทุกใบหน้าเสมอกันฯ
ดังนี้เพราะตรีกิเลส
อันมีอาเขตกว้างมหันต์
จากราวป่าถึงสุดจักรวาลพลัน
ถึงทุกชั้นโคตรฟ้านภาลัย
หากจะโค่นฤทธิ์ตรีกิเลส
จุ่งสั่งสมคุณวิเศษทุกสมัย
ทุกเช้าทุกค่ำประจำไป
รักษาไว้เพื่อดวงจิตประดิษฐ์ดี
รักษาศีลพรหมจรรย์อย่าชักช้า
โอยทานทุกทิวาราตรีศรี
หยุดในหยุดจนได้ที่พอดี
จนถึงที่สงบบรรจบใจ
ระวังตนอย่าให้เสพคุ้น
กับกิเลสเจือจุนไปใหญ่
รู้ควร-ไม่ควรเสมอไป
จรดใจสมาธิทิวาวาร
มีมงคลสามสิบแปดเป็นชีวิต
ธรรมะช่วยลิขิตเป็นแก่นสาร
สละละกิเลสรอนราญ
ละเลิกให้พญามารมาเข้าครอง
รบกับมันด้วยจิตอันผ่องแผ้ว
ดุจดั่งแก้วมณีไม่มีสอง
ระลึกถึงนฤพานมาครอง
ดวงใจอาจปองให้จงดี
ธรรมะนั้นจะช่วยฆ่ากิเลส
ตัดปฐมมูลเหตุทุกวิถี
โปรดดับฤทธิ์ตรีกิเลสราคี
อย่าเมตตาปรานีกันต่อไป
จุ่งให้ตรีกิเลสดับสนิท
สงบแหล่งอิทธิฤทธิ์แผ้วผ่องใส
เริ่มจากหลับตาจรดดวงใจ
แล้วจะได้ผลชำนะสถาวร