17 กรกฎาคม 2546 16:19 น.
ณรังษี
บนเส้นทางสายใหญ่ในชีวิต
ต่างมีสิทธิ์ก้าวไปตามใจฝัน
วาดความหวังตั้งเป้าหมายไว้ต่างกัน
ล้วนมุ่งมั่นเพื่อสุขสมภิรมย์ใจ
จึงดำเนินเดินรอยคอยขีดวาด
เลือกโอกาสงดงามตามที่ใฝ่
เตรียมเสบียงเดินทางที่แสนไกล
จัดอาวุธยุทธ์ไล่ดัสกร
ตั้งแต่เด็กเล็กเยาว์เขลาความรู้
ถูกอุ้มชูให้...สำเร็จ....ในคำสอน
หัดเรียกแม่เรียกพ่อต่อสุนทร
ต้องเรียกให้ได้ก่อนจึงจะดี
หัดให้เขียนหนังสือรื้อความโง่
เพื่อเติบโตมีความรู้คู่ศักดิ์ศรี
ต้องสอบได้เรียนผ่านทุกชั้นปี
จึงจะชื่อว่ามีภูมิปัญญา
เรียนจนจบพบ...สำเร็จ...เสร็จหนึ่งขั้น
ต่อจากนั้นเดินไปในเบื้องหน้า
หาอาชีพที่เหมาะสมกับราคา
ปริญญาที่ได้รับประดับตน
บ้างก็สมปรารถนาในคราเดียว
บ้างก็เที่ยวสมัครไปทุกหน
แย่งกันหนึ่งตำแหน่งต่อร้อยคน
ใครที่ได้คือผล ...สำเร็จ...การ
ก้าวต่อไปสร้างสายใยชีวิตรัก
แล้วทอถักโซ่ทองคล้องสืบสาน
สายโลหิตเติบต่อก่อสันดาน
ถือว่า...สำเร็จ..งานสร้างครอบครัว
ต่อจากนั้น..มุ่งมั่นรับผิดชอบ
และเก็บกอบทรัพย์ไว้ให้ถ้วนทั่ว
เป็นทุนรอนค่าใช้จ่ายรายตัว
ความเครียดเริ่มล้อมรั้วกักขังใจ
ความสำเร็จครั้งเก่าคราวก่อนนั้น
หมดความหมายไร้ฝันอันสดใส
มีแต่ความหม่นหมองครองทรวงใน
แบกภาระยิ่งใหญ่ให้ล้าแรง
นี่น่ะหรือคือเป้าหมายในชีวิต
ที่ลิขิตแต่น้อยครั้งด้อยแสง
หวังเจิดจ้าเติบใหญ่ได้แสดง
กำลังแกร่งแห่งนักสู้ผู้ฝันไกล
มีอะไรให้เหนี่ยวรั้งครั้งชรา
แม้นกายาก็ไม่อาจจะยึดได้
ลูกและหลานเติบโตแล้วจากไป
ค้นหาฝันยิ่งใหญ่แต่ละคน
เป็นวงจรสอนให้ใช้ชีวิต
ได้มีสิทธิ์สร้างใจไม่สับสน
ใช้เวลาเพิ่มค่าให้แก่ตน
ไม่หวังผลสำเร็จใดนอกสายธรรม
5 กรกฎาคม 2546 04:31 น.
ณรังษี
กระแสธารรินไหล
ดูวับไหวประกายแสง
สายชลเริ่มเชี่ยวแรง
สะท้อนพรายพื้นนภา
เมฆงามยามลอยเลื่อน
สร้างภาพเหมือนให้หวนหา
เดิมกาลที่ผ่านมา
ก็ผุดภาพ..ให้พร่างพราว
มองใจ...มองสายน้ำ
มองฟ้าครามที่เหินหาว
ลำดับรอยเรื่องราว
คราวบากบั่นไม่พรั่นความ
เหงื่อไหลไคลหยดย้อย
เม็ดใหญ่น้อยไม่เข็ดขาม
บุกฝ่าไปทั่วคาม
กระทบแสงแห่งราวไพร
ผ่านพบอุปสรรค
ต่างมิพักช่วยผลักไส
เคียงคู่สู้เรื่อยไป
จนเหงื่อพราวราวพิรุณ
รอยยิ้มยามเหนื่อยล้า
ส่งรอยมาเพื่ออุดหนุน
อึดแรงไว้เป็นทุน
โหมฮึกสู้กู้เสรี