23 มิถุนายน 2546 16:09 น.

หยาดน้ำตา

ณรังษี

หยาดน้ำตา.เปรียบเสมือนกล้องส่องทางไกล 


บทชีวิตที่ลิขิตให้แตกต่าง 
เดินบนทางเส้นเดียวกันแต่หันเห 
บ้างเดินหน้าบ้างเดินข้างบ้างรวนเร 
บ้างกลับหลังยั้งเปลย้อนเส้นทาง 

มีหลุมพรางขวางกั้นให้หวั่นหวาด 
บ้างองอาจฝ่าไปไม่กีดขวาง 
บ้างทดท้อรอรั้งยังหลุมพราง 
บ้างโหยหวนครวญครางกับผองภัย 

หลายคนพ้อต่อแผลกายลายหนามเกี่ยว 
รำพันอย่างโกรธเกรี้ยวและโหยไห้ 
ถามเรียวหนามว่าตามเกี่ยวทำไม 
เลือนลืมไปว่าเลือกทางอย่างนั้นเอง 

บางคนล้มลงกลางทางอย่างเสียขวัญ 
คนเย้ยหยันถางถากอยากข่มเหง 
หัวเราะเยาะยิ้มหยามไม่ขามเกรง 
ดุจบทเพลงมนต์มารสะท้านใจ 

มีเพียงหยาดน้ำตาคราทุกข์ยาก 
ที่ไหลหลากท่วมท้นหม่นหมองไหม้ 
สะท้อนความไถ่ถามตนเพื่อค้นใจ 
น้ำตาไหลชะล้างสร้างปัญญา 

เห็นรอยทางสร้างสรรค์สวรรค์สาย 
ให้กลับกลายหมองหม่นพ้นปัญหา 
ด้วยใจสู้รู้หยัดยืนฝืนชะตา 
เพิ่มคุณค่าด้วยแรงตนเพื่อพ้นภัย 

หยาดน้ำตาพาใจให้ลึกซึ้ง 
หวนคำนึงถึงเหตุเภทนิสัย 
ที่ประสบเคราะห์ร้ายทลายใจ 
เพราะเคยได้กระทำกรรมไม่ดี 

หากยังมีชีวิตที่ผิดพลาด 
กี่ภพชาติก็ร้องไห้อยู่อย่างนี้ 
หากทำให้ชีวิตไม่ต้องมี 
น้ำตาจึงไม่ปรี่ล้นเบ้าตา

จึงทะนงคงมั่นไม่หวั่นท้อ 
หรือรั้งรอความช่วยเหลือเกื้อปัญหา 
เพราะมีกล้องส่องทางไกลคือน้ำตา 
ช่วยส่องหาเล็งทิศลิขิตทาง 

บนเส้นทางยังมีที่งามงด 
ทั้งสวยสดบุปผชาติผาดสล้าง 
รอผู้มีดวงตาไม่พร่าพราง 
ไปเดินบนเส้นทางอย่างสุขใจ				
19 มิถุนายน 2546 20:41 น.

รัก รัก รักจริงๆ

ณรังษี

ยังคงหลงทางอยู่อย่างนี้ 
กี่เดือนปียังมุ่งมั่น 
หมายปองครองใจสัมพันธ์ 
รวมกันเป็นใจดวงเดียว 

รอแล้วรอเล่าเขาลวง 
ตกบ่วงวจีลดเลี้ยว 
ต้องมนต์ดลเล่ห์แท้เทียว 
มัดใจแน่นเหนียวไม่คลาย 

รู้ว่าเขาหลอกหยอกเล่น 
ยังเห็นว่ามีความหมาย 
รู้ว่าเขาแกล้งทักทาย 
ยังกลายให้ชื่นรื่นใจ 

รู้ว่าเขาเห็นเช่นข้า 
ยังกล้ายินยอมรับใช้ 
รู้ว่าเขาลวงดวงใจ 
ยังให้เพราะรักจริงจริง				
18 มิถุนายน 2546 15:26 น.

ขอเดินเคียงด้วยนะ!!

ณรังษี

ฝ่าแดนดงพงไพรไร้คนข้าง 
เดินร่วมทางพยุงกายให้คลายเหงา 
ฟังซิฟัง..เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบา 
เดินตามมาแบ่งความเหงาให้เบาคลาย 

อาจมิใช่คนนั้นที่ฝันใฝ่ 
อาจมิใช่คนนี้ที่มุ่งหมาย 
อาจเป็นเพียงคนรู้จักที่ทักทาย 
อาจเป็นเพียงคนปลายท้ายขบวน 

แต่สมัครเดินเคียงไม่เบี่ยงหน้า 
ผ่านแดดจ้า ฝนจัด ลมพัดหวน 
ผ่านเรียวหนาม ข้ามเหวใหญ่ ไม่โอดครวญ 
ใช้ชีวิตร่วมขบวนนักเดินทาง 

				
18 มิถุนายน 2546 15:21 น.

จิตเดิม?

ณรังษี

ดั่งระลอกพลิ้วคลื่นที่ครืนไล่ 
ตามติดไปกระทบแทกแตกซัดซ่า 
มิคงเหลือคลื่นเก่าในธารา 
เกิดแล้วดับตามมาสืบต่อกัน 

ดุจเป็นภาพมายาว่าคงอยู่ 
ผู้ไม่รู้จึงหลงใหลในภาพนั้น 
ไม่ล่วงรู้ถึงอารมณ์ปัจจุบัน 
จึงมุ่งมั่นสรรหาภาพมาอาบพราง 

ยังยึดผิดมีจิตเดิมที่เสริมใส 
เปล่งประกายไสวไม่หมองหมาง 
จึงดิ้นรนสืบค้นหาเส้นทาง 
สู่จิตเดิมที่พรายพร่างปภัสสรา 

ทำลายพระพุทธพจน์ที่โปรดสัตว์ 
ที่ชี้ชัดกฎสามัญอันสูงค่า 
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา 
ครอบคลุมทุกธรรมาเว้นนิพพาน ....(และบัญญัติ) 

หากหมายใจจะปองครองความสุข 
ต้องหมั่นปลุกปัญญาพาสืบสาน 
และพรั่งพร้อมสติติดตามการณ์ 
เพื่อประหาร(กิเลส)ที่ตรงปัจจุบัน...
				
14 มิถุนายน 2546 04:50 น.

ขอนะ..รักนี้

ณรังษี

ขอมองฟ้าที่แขวนใจไว้ทั่วฟ้า 
ขออ่านพื้นพสุธาภาษาสาส์น 
ขอดมดอมหอมหมู่มาลีมาลย์ 
ขอลิ้มรสความหวานให้ซ่านใจ 

ขอเคลิ้มฝันกับตะวันที่ส่องหล้า 
ไม่เหว่ว้าแม้นอยู่ห่างเพียงไหน 
ขอฝากลมพรมพริ้วรักคนไกล 
ไปเคลียคลอพนอไล้ใจของเธอ 

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงณรังษี