29 เมษายน 2546 17:05 น.
ณรังษี
ไขแสงแห่งรัศมิกร
ภมรร่อนเริงเชิงชายฝัน
โฉบมวลแมกไม้นานาพันธุ์
คลอเคล้าเคลียกันเมื่ออรุณ
กลีบบางกางแผ่วแล้วโอบพลิ้ว
เชยชมดอกริ้วกลิ่นหอมกรุ่น
แผ่กายรับแสงแห่งอรุณ
ธรรมชาติงามละมุนทุกโมงยาม
29 เมษายน 2546 17:00 น.
ณรังษี
ในปลายศรซ่อนความหมายให้ค้นหา
จักดีร้ายหมายฆ่าน่าลองลิ้ม
อยากรู้จักตามติดสนิทพิมพ์
ใจกรุ้มกริ่มอยากทายทักกับรักคม
ซ่อนชำแรกแทรกใจให้เป็นเสี่ยง
บางส่วนเลี้ยงหล่อไว้ให้สุขสม
บางเสี้ยวอยู่กับความเศร้าร้าวระทม
เพราะระบมพิษศรที่ซอนใจ
กี่รอยแผลกี่รอยพร่าครารักเร้น
ใจก็ลืมความลำเค็ญที่หวนไห้
ยืดอกรับคมศรอยู่เรื่อยไป
องศาใจเปิดกว้างอย่างทรนง
29 เมษายน 2546 16:55 น.
ณรังษี
พราวพร่างฟ้าพาคืนค่ำไม่ล้ำร้าง
ความฝันคว้างกลางนภาท้าลมหนาว
ยังโชนแสงแห่งไฟสู้อยู่คู่ดาว
ศรัทธายังพร่างพราวรัตติกาล
หนาวน้ำค้างห่างมิตรสนิทใกล้
ดาวร้างไปเพราะสุรีย์ที่ฉายฉาน
เปิดห้วงใจที่ลึกล้ำถ้ำวิญญาณ
ซ่อนแสงดาวให้ส่องซ่านอยู่ในใจ
ในคืนที่ไร้ดาวในคราวอื่น
ดวงใจยังสดชื่นไม่หวั่นไหว
ชาตินักสู้ยังทะนงคงสู้ไป
สร้างความฝันอันพิไลเพื่อมวลชน
29 เมษายน 2546 11:02 น.
ณรังษี
ม่านราตรีมีแสงจันทร์อันพิลาศ
พรมละอองผ่องผาดวาดเวหา
เกลื่อนรอยดาวให้ไร้แสงแข่งจันทรา
ทัศนาศศิมณฑลจนเคลิ้มใจ
คืนนี้มีเพียงเดือนเป็นเพื่อนฝัน
ดาริกาทุกช่วงชั้นพลันหลับไหล
หริ่งระงมพรมพร่างที่กลางไพร
ร่ายเพลงมนต์ดลใจให้คะนึง
ว่าคนไกลจะรู้ไหม..ใครเฝ้าฝัน
และคงมั่นมอบหัวใจฝากไปถึง
พร้อมรักแย้มแต้มแต่งใจ..ให้ตราตรึง
แม้นเนานานหวานลึกซึ้งสลักใจ
คืนบุหลันเลื่อนลอยคอยความรัก
เมื่อใดจักพบคู่อยู่เคียงใกล้
ฝากลมพลิ้วแผ่วผ่านม่านหัวใจ
กระซิบบอกความนัยให้รู้ความ
ฟ้ายังรอดวงดาวมาพราวฟ้า
ฟ้ายังรอจันทรามาไถ่ถาม
ฟ้ายังรอสุรีย์มาคลี่ยาม
ฟ้ายังรอเมฆงามเสมอมา
จะกี่ดาวกี่เดือนที่เคลื่อนพ้น
กี่ทิวาราตรีหนที่เยือนหล้า
ฟ้ายังคงยืนอยู่คู่เวลา
รักของฟ้า.ดุจดังฉันมั่นรักเธอ
29 เมษายน 2546 10:52 น.
ณรังษี
ฟังเพลงลมพรมใบไม้ไล่เสียงหวาน
บอกตำนานกาลเวลามาให้รู้
สิ้นเสียงฝนพร่างพรายปลายฤดู
ลมเกรียวกรูบอกข่าวให้หนาวทรวง
ความสดเขียวเรียวใบไม้กลายสีส้ม
กาลเวลาย้อมบ่มลมพัดร่วง
ทิ้งร่มเงาให้หม่นเศร้าคราวรักลวง
เห็นลมควงปลิดใบไม้คล้ายใจเรา
หนาวเหลือเกินเดินเดียวดายในเส้นทาง
หัวใจคว้างร้างใยรักจากเรือนเหย้า
มีเพียงฝันที่เพริศพรายในม่านเงา
มาเป็นเพื่อนเตือนใจเหงาให้ก้าวไป