14 มิถุนายน 2546 04:40 น.
ณรังษี
วิถีดาวสาวใจให้ใฝ่ฝัน
และผูกพันใกล้ชิดสนิทสนม
วิถีเคลื่อนคืบใกล้ให้ชื่นชม
แสงดาวข่มหัวใจให้คล้อยดาว
วิถีเปลี่ยนเวียนองศาครารุ่งสาง
ใจบอบบางก็หวั่นไหวให้เหน็บหนาว
ดาวคล้อยไกลใจเคลื่อนร้องเตือนดาว
อย่าลืมรักเมื่อคราวที่ดาวเคียง
30 พฤษภาคม 2546 13:35 น.
ณรังษี
พระพายไหวไกวกวัดพัดเปลวไหว
ประกายไฟเอนลิ่วพลิ้วลมหวน
ไร้แก่นสารซ่านไปใจรัญจวน
กิเลสยวนยั่วเย้าเข้าคลุกใจ
เคยแน่วแน่แผ่ไฟให้สว่าง
เพียงพริบตาแสงพรางเพราะหวั่นไหว
แทบวูบวับดับสิ้นชวาลไวย
สะท้อนสะท้านซ่านไปในแรงลม
สะกดนิ่งทิ้งสิ่งกระทบกระแทก
สัมผัสแปลกเพียงแผ่วเบาเคล้าผสม
ดุจระลอกกลอกซ้ำย้ำแรงลม
ความเคลื่อนไหวไล่ระงมในเปลวเพลิง
เพียงรับรู้ผู้มาเยือนถึงเรือนเหย้า
เพียงแผ่วเบาที่กระทบให้ภพเหลิง
เพียงขาดความเหนี่ยวรั้งยั้งเปลวเริง
เพียงใจไหวไปในเพลิงก็ไหม้พลัน
22 พฤษภาคม 2546 20:52 น.
ณรังษี
อัสดงลงลับกับทิวไม้
ตะวันฉายบอกลาฟ้าใกล้ค่ำ
ฟากฟ้านี้หมดหน้าที่ที่ควรทำ
สาดแสงจนเย็นย่ำหมดเวลา
.......ยามราตรีคลี่ม่านผ่านพื้นโลก
ยังความลับอับโชคไปทั้งหล้า
หวาดกลัวนักเมื่อสิ้นศักดิ์สุริยา
ดั่งดวงตามืดมิดสนิทพลัน...
22 พฤษภาคม 2546 20:45 น.
ณรังษี
แบกทุกข์....ที่รุกโรมโหมจิต
มาตลอดชีวิต....เหนื่อยหนักหนา
แบกอารมณ์....ขมข้นบนชีวา
จนกายาคู้ค้อมน้อมสู่ดิน
ไม่มีโอกาสมองท้องฟ้า
แม้เพียงชายตาผันผิน
ไปยังเงื้อมยอดศิขริน
เพราะทุกข์ทั้งสิ้นโอบล้อมกาย
อยากพักในถิ่นเสรี
มากมีสุขล้นเหลือหลาย
เป็นเพียงความฝันเพ้อพราย
เป้าหมายห่างไกลเหลือเกิน
เห็นเพียงแผ่นดินเป็นครู
ให้รู้ยืนหยัดไม่ขัดเขิน
รองรับปฏิกูลทูนเทิน
ใครย่ำใครเมินไม่ท้อใจ
แผ่นดินยังเป็นแผ่นดิน
รองรับศิขรินกว้างใหญ่
รองรับผืนน้ำฉ่ำใจ
อยู่คู่ทุกสมัยกับอัมพร
22 พฤษภาคม 2546 20:38 น.
ณรังษี
หากหัวใจยังมีรัก..ก็พักเถิด
อย่าเตลิดเพราะความเศร้าเรื่องร้าวฉาน
กลีบดอกรักจะซูบซีดไม่เบ่งบาน
สายสัมพันธ์อาจแหลกราญเพราะร้อนใจ
ค่าของใจอยู่ตรงใจ.ที่ได้รัก
ค่าของรักจะแน่นหนัก....แม้นผลักไส
ค่าของคนอยู่ที่ให้.ด้วยจริงใจ
ค่าของรักมิเสื่อมไปเพราะใครเลย
พักหัวใจสีทองประคองขวัญ
พักความโศกสักวันเถิดใจเอ๋ย
พักความเศร้าเพื่อนเก่าที่คุ้นเคย
พักดวงใจเถิดเอย..อย่าช้ำไป
วันนี้เขาอาจสิ้นไร้ใจเมตตา
รอวันหน้า..เขาอาจสำนึกได้
อย่าเศร้าสร้อยโศกศัลย์เลยนะใจ
รอเวลาให้อภัย.กับใจลวง