27 พฤศจิกายน 2549 14:47 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
รอดอกรักบาน
ดอกคูณบานดอกจานหอมพยอมหวน
กลิ่นลำดวนชวนใจให้ใหลหลง
กลิ่นดอกรักดอกหญ้ากลางป่าดง
ยังมั่นคงบ่งย้ำในคำนึง
กุหลาบป่าเฟื่องฟ้าชบาสวย
พิกุลด้วยชั่งงามยามนึกถึง
มะลิซ้อนซ่อนรักปักใจตรึง
หอมกว่าหนึ่งไม้ใดในโลกา
มวลบุพผามาร้อยเป็นสร้อยสวย
สุคนธ์ช่วยหอมหวนชวนพร่ำหา
ความงามซึ้งตรึงใจในอุรา
ประหนึ่งว่าเย้ายวนมวลภมร
หมู่ไม้ใดในหล้านำมาเปรียบ
มิอาจเทียบความงามทรามสมร
ความงามซึ้งตรึงใจในบังอร
มอบบทกลอนแทนวาจา...มาฝากใจ ฯ
27 พฤศจิกายน 2549 14:46 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
หวั่น
หยาดน้ำค้างพรางชื่นคืนนี้เศร้า
เพลงรักเก่าแว่วมาน่าใจหาย
วอนเพ้อพร่ำลำนำคำบรรยาย
บทสุดท้ายจากกันเริ่มหวั่นทรวง
เพลงบอกว่าลาไกลใจคนเปลี่ยน
คือบทเรียนจากหญิงยิ่งเป็นห่วง
มองนภาฟ้าเหงาดาวล้านดวง
ที่หล่นร่วงเหมือนใจไม่แน่นอน
บนความห่างบางครั้งยังสับสน
ใจของคนผันผ่านโบราณสอน
เหมือนไม้หลักปักเลนเอนสั่นคลอน
ลางสังหรณ์มากล้นปนคำนึง
กลัววาจาว่าหวานนานเป็นขม
คำเชยชมจากใจไปไม่ถึง
ฝากดวงดาวพราวแสงแรงรำพึง
แทนหยดหนึ่งน้ำตาความอาวรณ์ ฯ
24 พฤศจิกายน 2549 20:26 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
หลบ
ห้วงคำนึงตรึงจิตคิดเรื่องเก่า
วันที่เจ้าเอ่ยลาน้ำตาร่วง
ความรู้สึกหนาวเหน็บเจ็บในทรวง
ไม่อาจหน่วงเหนี่ยวรั้งนางคืนมา
คนรักเก่าหลบหน้าคนมาใหม่
เหลือเพียงใจบอบช้ำเพ้อพร่ำหา
วันเจ้าห่างร้างไปไกลลับตา
รู้เถิดว่าคนเหงาเขาตรอมตรม
พึงรู้ว่าทรมานถึงปานนี้
เมื่อไม่มีเจ้าอยู่เคียงคู่สม
ฝากคิดถึงห่วงใยตามสายลม
หากขื่นขมจากเขาให้เจ้าคืน
ยังรอรับกลับนาค่าต้อยต่ำ
เจ็บไม่จำปวดร้าวยังเฝ้าฝืน
ด้วยหัวใจหมายปองน้องขวัญยืน
ไม่เป็นอื่นแม้ใจนางเปลี่ยนทางเดิน ฯ
24 พฤศจิกายน 2549 20:25 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
ปริญญาน้ำตาเรา
ถือกุหลาบหนึ่งช่อมารอรับ
เตรียมมอบกับบัณฑิตใหม่ด้วยใจหวัง
ยืนระทดหดหู่อยู่ลำพัง
รักจีรังต่อเจ้าเร้าให้มา
น้องจากถิ่นดอกจานเพื่อสานฝัน
แล้วถึงวันได้พบจบศึกษา
ข่าวโฉมตรูรู้ก้องท้องทุ่งนา
ประหนึ่งฟ้าคำรามยามฝนพรำ
สี่ปีกว่าเหินห่างรู้บ้างไหม
ว่ามีใครเฝ้าถามถึงงามขำ
เจ้าไม่ส่งวาจามาสักคำ
ทนเจ็บช้ำนอนหนาวร้าวทรวงใน
รอจากเช้าจนเย็นไม่เห็นหน้า
เที่ยวเดินหาโฉมตรูเจ้าอยู่ไหน
แล้วต้องพบภาพนั้นหั่นหัวใจ
หนุ่มร่างใหญ่โอบกอดเจ้าเราอาดูร
ช่อกุหลาบมากล้นเขาคนนั้น
คงสำคัญกว่าหนุ่มนาค่าเพียงศูนย์
เจ้าลืมแล้วเสียงพิณกลิ่นดอกคูณ
หลงเทิดทูนหนุ่มงามเหมือนหยามใจ
ถือกุหลาบหนึ่งช่อที่รอรับ
หลบมุมอับผู้คนทนไม่ไหว
ลาก่อนสาวบ้านนาจากฟ้าไกล
คืนสู่ไพรยอมรับกับความจริง ฯ
23 พฤศจิกายน 2549 14:05 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
เพื่อฝัน
ใจรัญจวนครวญแผ่วแว่วคืนนี้
เย็นราตรีจันทร์จางส่องกลางหาว
ร้อยห่วงใยไว้หนุนอุ่นแสงดาว
ฝากลมหนาวกล่าวย่ำความคำนึง
เหม่อมองฟ้าอาวรณ์นอนไม่หลับ
หลบนั่งนับดาวสวยด้วยคิดถึง
แม้ห่างไกลใบหน้ายังตราตรึง
ดาวดวงหนึ่งสว่างอยู่กลางใจ
มิเคยเลือนเคลื่อนคล้อยลดน้อยค่า
กาลเวลาผันผ่านนานแค่ไหน
ส่องสกาวพราวแสงแรงอุ่นไอ
ฝากห่วงใยส่งข่าวสาวภูธร ฯ
พี่เหนื่อยท้อต่อสู้อยู่เพื่อฝัน
เพ้อรำพันหนาวกายมิถ่ายถอน
รอกลับไปไล้ลูบจูบดินดอน
แล้วหลับนอนพิงพักซบตักนาง ฯ