25 มีนาคม 2545 12:00 น.
ณธีร์
หมอกหรือควัน ฉันไม่รู้ ดูไม่ออก
เธออย่าหลอก บอกได้ใหม ฉันใจหาย
ขอครองคู่ ร่วมเรียง แนบเคียงกาย
ตราบชีพวาย มิคลายคลาด ไม่ขาดเกิน
เป็นพี่น้อง คล้องใจ ไว้ให้มั่น
จะรักกัน เรื่อยไป อย่าได้เขิน
เป็นบุพเพ สันนิวาส ไม่อาจเมิน
ขอเรียนเชิญ มาสร้างสรรค์ วรรณกวี
จะเชิญจริง หรือหลอก บอกกันหน่อย
ฉันไม่ค่อย มั่นใจ ใคร่ขอถาม
เท่าที่เขียน เพียรอยู่ ทุกครู่ยาม
สื่อใจความ จะแจ้ง หรือแกล้งชม
จะเป็นหมอก หรือควัน ฉันไม่รู้
ขอเคียงคู่ ไปด้วย จะช่วยถม
เส้นทางรัก น้องพี่ มิมีตรม
ด้วยคารม ร้อยรส บทกวี
พี่รักจริง มิได้หลอก ขอบอกเจ้า
อย่าหมองเศร้า งุนงง ทำสงสัย
ทุกถ้อยคำ ที่พร่ำสรร จงมั่นใจ
บอกความใน จะแจ้ง ใช่แกล้งชม
จะเป็นหมอก หรือเป็นควัน ฉันจะสู้
มีเธอคู่ เคียงข้าง ไม่ร้างล่ม
เส้นทางรัก สองเรา เร้าอารมณ์
ด้วยคำคม คารมรัก นักกวี
จะจดจำ คำบอก ไม่หลอกรัก
มากมายนัก คำชม คารมหวาน
เสียงอ่อนโยน ซึมซาบ อาบดวงมาลย์
ดั่งขับขาน คารม คำคมคาย
จะเป็นหมอก หรือควัน ไม่หวั่นไหว
เมื่อพร้อมใจ เคียงข้าง ไม่ห่างหาย
ลืมความเศร้า เหงาเปลี่ยว อยู่เดียวดาย
ขอเคียงกาย ผูกพัน มั่นกวี ฯ
25 มีนาคม 2545 08:38 น.
ณธีร์
คนเบียดเบียนป่าไม้ ........ ตลอดมา
ตัดโค่นเผาผลาญพร่า .... หมดสิ้น
ต้นน้ำเหือดแล้งล้า ......... แห้งขอด เพราะใคร
ไม้หมดวันใดดิ้น ........... เดือดร้อนทั่วแดน ฯ
คนเบียดเบียนป่าไม้
แล้งเพราะใครทำลายสิ้น
หมดคุ้มที่คลุมดิน
ทิ้งฐานถิ่นร้อนเป็นไฟ
สิ้นป่าสิ้นชีวิต
คนทุรจิตคิดอยากได้
คนซื้อจ่ายเงินไป
คนตัดไม้ก็ตัดมา
ตัดมาจนป่าหมด
พากันอดในวันหน้า
คนยากลำบากล้า
ไม่ตัดมาก็อดตาย
ไม่ใช้ก็ไม่ตัด
ไม่อัตคัตไม่ทำลาย
คนซื้อคือคนร้าย
คนตัดไม้คือคนจน ฯ
22 มีนาคม 2545 08:24 น.
ณธีร์
ณ นาที ที่ฉันยืน ใกล้ผืนฟ้า
มองลงมา พาใจสั่น ให้หวั่นไหว
อยากให้เธอ มาเคียงข้าง ไม่ห่างไกล
พลังใน หัวใจฉัน นั้นไม่พอ
นาทีที่ โลกพลันลับ สรรพเสียง
ได้ยินเพียง เสียงหัวใจ ของใครหนอ
เต้นตึกตัก หนักหน่วง ล่วงลำคอ
เหมือนจะขอ ออกจากปาก ไปจากตัว
เป็นนาที ที่โลกดับ อับแสงแดด
ที่เผาแผด ผิวกาย ไปถ้วนทั่ว
ไม่เห็นใคร ในสายตา จนน่ากลัว
ไม่เห็นตัว ไม่เห็นใจ ไม่เห็นเธอ
นาทีเช่น เย็นเฉียบ ยะเยียบยิ่ง
มือระวิง ตาระวัง จะพลั้งเผลอ
เหงื่อรินหยด รดใบหน้า ตาพร่าเบลอ
เกือบจะเผลอ หันกลับหลัง ล้มตั้งใจ
นาทีไหน ไม่เทียมเท่า นาทีนี้
เป็นนาที ที่สำคัญ อันยิ่งใหญ่
ขอเพียงเธอ มอบความหวัง พลังใจ
ฉันจะไป คว้าดาว มาเคียงดิน
ณ นาที ที่ฉันยืน ใกล้ผืนฟ้า
เป็นเวลา ที่ท้าทาย หมายโผผิน
ตะโกนก้อง ร้องให้ เธอได้ยิน
ฉันจะบิน... ไปโลด... กระโดดเลย... เย้!
21 มีนาคม 2545 11:31 น.
ณธีร์
โอ้ลำปราณบุรี
ลำน้ำนี้มีรัก
พี่ประจักษ์ใจเจ้า
แม่เร้าใจให้หลง
พิศวงในความงาม
สองเขตคามริมฝั่ง
แลสะพรั่งพรรณไม้
หอมชื่นใจรายทาง
ผีเสื้อกางปีกสวย
แมงปอช่วยเติมแต้ม
บุปผาแย้มเอียงอาย
ยั่วยิ้มพรายพราวป่า
ชื่นอุราคราล่อง
ชมสองฝั่งลำน้ำ
จิตชื่นฉ่ำเยือกเย็น
เมื่อได้เห็นธรรมชาติ
งามวิลาสจับตา
หากน้องมาคงชื่น
ยิ้มระรื่นตื่นใจ
ชี้ชมไพรผีเสื้อ
ช่างงามเหลือหลากพันธุ์
วิหคผันโผผิน
โบกโบยบินกู่ร้อง
ส่งเสียงก้องพงพนา
จวบถึงคราเย็นย่ำ
จึงจากจำใจพราก
พี่ขอฝากรักไว้
ว่าได้มาเยือนสถาน
ลำน้ำปราณบุรี
ไมตรีบ่แรมร้าง จางจาก
น้ำหลากฤาน้ำแล้ง บ่ลืม ฯ
20 มีนาคม 2545 10:33 น.
ณธีร์
จดหมายร่ายร้องทุกข์ ..... ถึงดาว
ถึงห่างไกลกันราว .......... สุดหล้า
ดวงจันทร์ไม่สุกสกาว .... พราวพร่าง เพ็ญโพยม
ดาวโปรดสาดแสงจ้า ...... แจ่มให้ใจเจริญ ฯ
จดหมายถึงดวงดาว
ที่พร่างพราวบนนภา
ดาวเอ๋ยรู้ใหมว่า
ดาวของข้าอยู่หนใด
ดาวเกิดแล้วดาวดับ
ดาวลาลับดาวไปไหน
ดาวตกดาวแตกไป
จะหาใครมาแทนดาว
ดาวอื่นอีกหมื่นแสน
ที่ลอยแขวนอยู่กลางหาว
ส่องสว่างแพรวพร่างพราว
ไม่เหมือนดาวเจ้าประจำ
ดาวดวงนั้นไปไหน
ดาวที่ให้ความชื่นฉ่ำ
ดาวที่ใจไม่เคยดำ
ดาวที่ทำแต่ความดี
ดาวเอ๋ยดาวดวงน้อย
ข้ายังคอยอยู่ที่นี่
จดหมายจากใจนี้
มอบคนดีแด่น้องดาว ฯ