5 พฤศจิกายน 2551 02:37 น.
ณ.คลองฉวาง
อัสดงแสงทองเริ่มเลือนหาย
จบวันเก่ายามนิทรามาอีกครั้ง
แสงสุรีย์คอยๆหมดพลัง
จันทราและดารามาทดแทน
มาร่วมกันล้อมวงอ่านกวี
ฟังดนตรีหริ่งเรไรกล่อมบรรเลง
ธรรมชาติประสานเป็นบทเพลง
ฟังคลื้นเคลงเสียงเพลงแห่งป่าไพร
จิบน้ำชา(ร่ำสุรา)ด้วยกันสหายเอ๋ย
เขามาเลยเรามารวมตัวกัน
มานั่งวิพากษ์ วิจารณ์
รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ประชุมกวี
เขาอ่านกวีชมธรรมชาติ
สะอาดและงดงามดี
ฉันอ่านบทชมวิถี
ชีวิตคนที่ห่างไกล
เธอเพ่งบทกวีบทนั้น
เธออ่านแล้วน้ำตาไหล
วิพากษ์ วิจารณ์กันไป
สุขใจคนคอเดียวกัน
ร่วมกันแลกเปลียนแนวคิด
ถูกผิดเราไม่ว่ากัน
เพราะการเป็นกวีนั้น
ต้องเป็นมาจากหัวใจ
ถึงบทกวีฉันไม่ไพเราะ
เสนาะจับจิตจับใจ
ถึงบทกวีเธอยังคงไม่
ดั่งใจที่เธอต้องการ
ถึงบทกวีเขารุนแรงไปบ้าง
แต่เขียนมาจากหัวใจ
ทางใครก็เขียนทางใคร
เปิดใจรับฟัง คำวิจารณ์
ไม่นานฉันนั้นเชื่อว่า
เราคงเป็นกวีที่ดีได้
ฝึกฝนฝึกจิตฝึกใจ
เขียนไป วิพากษ์ วิจารณ์
ดึกแล้วจิบน้ำชา(ร่ำสุรา)หมดแก้ว
ถึงเวลาแล้วถึงเวลาหลับไหล
โอกาสหน้ามีรวมตัวกันใหม่
กลับไป ฝึกฝน ปรับปรุง
5 พฤศจิกายน 2551 01:55 น.
ณ.คลองฉวาง
ตามตำนานเล่าขานในไตรภูมิ
ว่าเป็นพรหมห์นั้นนิพานไม่อาจได้
ถึงปิติติดอยู่อย่างนั้นไซร้
เป็นดวงไฟลูกฟักอยู่ทิพย์วิมาน
อยู่หลงไหลในปิติที่รู้นั้น
ก็มิอาจลุถึงวิมุติได้
มหาบุรุษหยั่งรู้ความเป็นไป
ท่านถึงได้เป็นผู้รู้พระนิพพาน
เปรียบกับมนุษย์ทั่วไปนั้น
หากล่วงรู้แล้วสุขหรือทุกข์ใด
ก็ไม่อาจรอดพ้นการเวียนวาย
อยู่ในวัฎสงสาร
หากล่วงรู้แล้วใจรู้ว่า
มันเป็นเช่นนั้นอย่างนั้น
นั้นแหละคือพระนิพพาน
ไม่สุข ไม่ทุกข์ นิรันด์
4 พฤศจิกายน 2551 11:46 น.
ณ.คลองฉวาง
ทนเอยทนทุกทรมาน คืนวันชั่งนานเหลือเกิน
สิ่งที่ตัวฉันต้องเผชิญ นานเนิ้นที่ต้องทนทุก
ทุกเอยทุกแสนสาหัส อำนาจแห่งชะตากรรม
กรรมใดเป็นผู้หนุนนำ กระทำให้พบสิ่งเลวร้าย
เจ็บเอยเจ็บทรมาน ยื้อคืนวันฉันไว้ทำไม
ฉันต้องการจะจากโลกไป ทนไม่ไหวกับความทุกข์ทน
โปรดเถิดพี่น้องและพ่อแม่ รั้งชีวิตฉันมีแต่ทรมาน
ทนทุกเนิ้นนานแสนนาน ให้ฉันจากไปเสียที
โปรดเถิดคุณหมอผู้อารีย์ ฉันมีแต่ร่างและลมหายใจ
ฉันขอเลือกสิทธิแห่งความตาย ฉันขอได้ใหมขอความการุณ
16 มิถุนายน 2551 16:29 น.
ณ.คลองฉวาง
นิ่มเอ๋ยเจ้าอยู่ในป่า มีคนมาจับเจ้าไป
เจ้าเคยอยู่สุขในพงไพร คนใจร้ายจับเจ้าไปไหน
จับเจ้าพาไปขาย คนใจร้ายเห็นแก่เงิน
ความดีเขาหมางเมิน พิฆาดฆ่าเพื่อสิ่งใด
นิ่มเอ๋ยกรรมใดของเจ้า ถูกเขากักขังร่างเอาไว้
น้ำตาเจ้ารินไหล จากป่าไพรเป็นอาหาร
เพียงเพื่อความต้องการ เพื่อการแห่งกามา
รู้ไหมชีวิตเจ้ามีค่า อยู่ในป่าในพงไพร
นิ่มเอ๋ยเขาจับเจ้า ยัดใส่เขากล่องเอาไว้
เดินทางจากแดนไกล จากป่าใหญ่ไปป่าเมือง
เจ้าเคยวิงเล่นอยู่ในป่า สุขหนักหนาในบ้านแห่งนั้น
มีเพียงแต่ความสุขสันต์ อยู่ทุกวันอยู่เรื่อยไป
ไม่เคยจะคิดว่า เจ้าจะมาพบสิ่งเลวร้าย
คนมาจับเจ้าไป พรากจากไพรแลกกับเงิน
นิ่มเอ๋ยเจ้าร้องไห้ เหตุไฉนคนใจร้าย
น้ำตาเจ้ารินไหล ขดร่างกายรอวันตาย
นิ่มเอ๋ยเจ้าหมดหวัง หมดกำลังหมดแรงใจ
คนเอยชั่งใจร้าย มากกว่าสัตว์เดรัฐฉาน
9 พฤษภาคม 2551 02:43 น.
ณ.คลองฉวาง
เช้าแล้วตะวันเคลื่อนจากขอบฟ้า
ความมืดจากมนตราราตรีเลือนจางหาย
เหล่าสรรพชีวิต สรรพสัตว์มากมาย
ตื่นจากการหลับไหลในค่ำคืน
เหล่านกกาบินไปหาอาหาร
ส่วนผู้คนออกไปหารายได้
ต่างชีวิตต่างหน้าที่ต่างกันไป
วิถีชีวิต วันใหม่ ใน โลกา