28 พฤษภาคม 2548 22:30 น.
ซึง
.............................**วันวาน**..........................
ยามเช้า...........รู้สึกว่างเปล่า
ยามสาย...........รู้สึกเงียบเหงาจับใจ
ยามบ่าย...........ยอมรับกับความว่างเหงา
เพลาค่ำ.............ปล่อยใจให้กับวันคืนเก่าเก่า.......ที่ไม่อาจหวนคืน
................................**วันนี้**............................
ยามเช้า..............สูดอากาศที่บริสุทธิ์.....สดชื่อนยาวนาน.....
ยามสาย.............รู้สึกสงบนิ่ง........เงียบ......กระจ่างชัดในความรู้สึก
ยามบ่าย.............เก็บเรียบเรียงความทรงจำใส่ลิ้นชักของ......หัวใจ
พลบค่ำ..............ปิดใจพัก...เพื่อลืมตา....พบพานปัญหาด้วยรอยยิ้มของผู้เข้าใจ
21 พฤษภาคม 2548 18:38 น.
ซึง
หลังฝนหลั่ง ส่องฟ้า ฟ้าใสสด
มองทางลด ลัดเลาะ ขอบภูผา
เสียงน้ำไหล รินริน ดังแว่วมา
ก็ถึงครา หน้าฝน พ้นอับเฉา
สายลมเร้า เย็นชื่น ระรื่นจิต
หมอกทั่วทิศ ทาบบาง กลางหุบเขา
ดอกหญ้าแข่ง ออกดอก เหลืองอมเทา
สายลมแรง พัดเอา เจ้าโอนไกว
สนสามใบ ยืนอยู่ เป็นคู่สร้าง
ไม่อ้างว้าง ใบเขียว ปลิวไหวไหว
บ่งบอกถึง ฤดูกาล ผันผ่านไป
ดอกหล่นใต้ โคนต้น พ้นยอดเรียว
เศษไม้เกี่ยว เศษหิน ประดับวาง
ตามข้างทาง ขลุขละ ละเรื่อยเลี้ยว
สรรพสัตว์ วิ่งวุ่น หลายคู่เทียว
แม้นเดินเดียว มิอ้างว้าง ในแดนดิน
ก้าวข้ามหิน ย่ำพื้น ชุ่มเปียกน้ำ
นี่ใกล้ค่ำ สีทอง เริ่มเย็นยิน
วันนี้หมด เวลา ได้ผกผิน
พักกลางถิ่น กลิ่นทุ่ง รุ่งพบกัน
ไว้พบกันใหม่นะ///มีต่อเพลาหน้า//ส่วนวันนี้ลาไปก่อน//หวัดดี
20 พฤษภาคม 2548 16:39 น.
ซึง
ตะวันทาบทอแสงทองส่องอำพัน
ถึงรุ่งเช้าของอีกวันละหรือนี่
แม้จะผ่านนานเนิ่นมากี่ปี
ไม่เคยลืมคนดีที่ห่างกัน
รู้นะรู้ว่าเจ็บถ้าเก็บคิด
แต่มันผิดวิสัยของคนฝัน
ถึงมิได้ยืนอยู่เคียงคู่กัน
ขอมีเธอเคียงฉันในฝันพอ
20 พฤษภาคม 2548 15:25 น.
ซึง
ยามหยาดฝนหยดฉันไร้ไม้ใหญ่ให้ร่มเงา
ยามหยาดฝนหยุดฉันได้ไม้ใหญ่ให้ชื่นใจ
แต่มันจะได้อะไร....เมื่อฉันเปียกปอนทั้กาย-ใจ
ตะวันสาดแสงเนิ่นนานจนหยาดฝนแห้งเหือดไป......กับตัว