16 พฤษภาคม 2546 07:48 น.
ซินดี้
ในห้องแชทห้องเดิมกับวันใหม่ที่ดิฉันเข้าไปเกือบจะทุกวัน วันนี้ดิฉันได้แชทกะคนๆหนึ่งเป็นรุ่นพี่ของดิฉันสักประมาณ 4-5ปีได้ค่ะเธออยู่ที่ญี่ปุ่นจากการที่คุยกันเพียงน้อยนิดก็ทำให้ฉันรู้ว่าเธอค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ดี ฉลาดใจดี ดิฉันได้มีโอกาสคุยกับเธอแบบส่วนตัวทางเมลล์ เราปลีกตัวออกมาจากห้องแชท มาอยู่ในที่ค่อนข้าง
ส่วนตัวนิดนึง เราแนะนำตัวเองกันเรียบร้อยเราก็เริ่มบทสนทานาที่สนุกสนานพูดคุยหยอกล้อกันโดยที่เราได้นำเพื่อนอีก2-3คนมาร่วมในบทสนทนาของเราด้วย และไม่รู้อะไรที่ทำให้ดิฉันขอเรียกเธอว่า แม่ เธอก็น้อมรับตำแหน่งนั้นด้วยดี และเธอก็กลายเป็นคนมีลูกไปในพริบตา อิๆๆๆ
จากที่ได้คุยกับเธอหลายๆครั้งหลายๆวันเข้า ดิฉันรู้ว่าเธอเป็คนที่ฉลาด มีความจริงใจ น่ารัก สุขุมรอบคอบและเป็นมิตรกับทุกๆคนค่ะ เราคุยกันเกือบจะทุกวันเมื่อมีเวลาเอื้ออำนวย ทุกครั้งที่เจอกันเรามีเรื่องฮาๆมาเล่าให้กันฟังเสมอ จนกลายเป็นความชิน จนบางครั้งเราต่างมีปัญหาอะไรมาจะมาปรึกษากันเสมอ เราเรียนรู้กันมาเรื่อยๆจนกลายเป็นความไว้ใจที่ดิฉันไม่เคยมีให้ใครมานานโดยเฉพาะเพื่อนทางอินเตอร์เน็ทเราไว้ใจกัน เราไม่ปิดปังกัน เราพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเสมอ วันไหนไม่ได้คุยกันจะรู้สึกห่วงใยเค้า พะวงว่าจะเป็นอะไรไปหรือเปล่าน้าาาา ดิฉันก็ยังคงเรียกเธอว่าแม่ เธอก็ยังเรียกดิฉันว่าลูกสาวจอมซนเสมอ
ความรัก ความห่วงใยระหว่างแม่และลูกทางอินเตอร์เน็ทได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจากที่รู้จักกันในห้องแชทเล็กๆมาเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจริงๆ เรามีจอสี่เหลี่ยมเล็กๆเป็นบ้านแต่มีความรู้สึกที่อบอุ่นเราไม่เคยเห็นหน้าค่าตา เราเห็นกันแค่ในรูปถ่าย แต่เราก็อุ่นใจที่เราเข้าใจกัน ดิฉันและเธอมีอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันดังเช่นแม่กับลูกกันจริงๆมาวันนี้ดิฉันรู้ได้ว่าเธอห่วงดิฉันเหมือนกับที่ดิฉันห่วงเธอ ดิฉันไม่สบายเธอก็คอยเมลล์มาถามข่าวคราว
อดหลับอดนอนรอฟังข่าวจากดิฉัน เมื่อได้มีโอกาสคุยกันเมื่อดิฉันรู้็สึกดีขึ้น เธอดีใจที่ดิฉันดีขึ้น
แม่ค่ะ ลูกมาเขียนข้อความนี้ให้แม่ป้อม และอยากจะบอกแม่ป้อมจากก้นบึ้งห้องหัวใจว่า ลูกรักแม่มากค่ะรักมากและเป็นห่วงแม่มากเช่นกัน ขอบคุณสำหรับความรัก ความห่วงใย ความมีไมตรีที่ลูกหาจากที่ไหนไม่ได้เท่าที่แม่ให้ ถึงแม่เราจะเป็นแม่-ลูก(นามธรรม) แต่ลูกดีใจที่ได้รู้จักแม่ และไม่เคยมีแม้แต่เสี้ยวนาทีเดียวที่เสียใจที่รู้จักแม่ค่ะ
อยากจะบอกเืพื่อนๆว่า คำว่าเพื่อนทางอินเตอร์เน็ทในบางครั้งเราหาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าเราจริงใจ แต่ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยที่จะเจอคนดีอย่างที่คุณหวังกัน แต่ระหว่างดิฉันกะแม่ป้อมของดิฉันนี้ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นกับเราสองคนแล้ว เราใจตรงกัน และมีความสุขที่ได้เจอกันรับรู้เรื่องของกันและกัน นี่แหละค่ะปาฏิหาริย์อีกข้อนึงของดิฉัน.....
29 เมษายน 2546 07:14 น.
ซินดี้
นี่แก ตั้งแต่มาถึงนี่ก็พูดอะไรหน่อยสิยะ มันเงียบแบบนี้ใจไม่ดีอ่ะแกจอยไปนั่งใกล้ๆเพื่อน
พี่แววเค้าไม่อยู่แล้ว เค้าหนีเราไปอ่ะ พูดจบคิมร้องไห้ออกมา
โธ่ เพื่อนเราบางทีเค้าอาจจะยุ่งๆอยู่ก็ได้นะ แกก็ใจน้อย ใจร้อนไปได้อ่ะจอยปลอบใจเพื่อน
เราผิดเองที่ทิ้งเค้าไป เค้าคงเกลียดเรามากสิเนอะคิมตัดพ้อต่อว่าตัวเอง
ไม่หรอกยัยคิม นี่แกจะโทษตัวเองไปอีกนานมั้ยอ่ะ ห๋า ชั้นไม่ชอบให้แกมานั่งว่าตัวเองแบบนี้น่ะ คนเราอ่ะถ้าทำอะไรที่อยากทำได้ทุกอย่าง มันก็คงจะดีอ่ะนะ แกอ่ะไม่ผิดหรอกยัยคิม อย่าโทษตัวเองเลยเพื่อน ชั้นจะร้องไห้ตามแกล่ะ สงสารเพื่อนอ่ะ จอยนั่งกุมมือเพื่อนอย่างเป็นห่วง
วันนี้แกก็นอนนี่แหละยัยคิม จะได้ไม่คิดมาก ยิ่งอยู่คนเดียวแกยิ่งจะคิดมากนะคิม นะๆจอยพูดต่อ
แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดกันต่อว่าแกจะทำอย่างไรต่อไป นะคิมเชื่อเราสิ ถ้าเค้ารักและอยากจะเจอกะแก เค้าต้องมาหาแกแน่ๆเชื่อชั้นสิ
อืม ก็ได้ แต่ว่าเราไปหารัยทานกันเหอะจอย เราหิวอ่ะคิมเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
เออ ไปก็ไป เพื่อน วันนี้เราเลี้ยงเอง เพื่อนมาทั้งที
จอย 5วันที่เราพยายามตามหา เรื่องราวของเค้า เรายังไม่เจอกับเค้าเลยคิมพูดกับเพื่อนรักอย่างเหนื่อยใจ
พรุ่งนี้เราจะเช็คเอ้าท์และกลับไปต่างจังหวัดล่ะ เรามีงานด่วนเข้ามาน่ะ แม่เราเค้าจะเหนื่อยเปล่าๆเราไปช่วย
งานแม่เรา พี่แววเค้าคงไม่อยากจะเจอเราหรอกคิมไม่วายที่จะว่าตัวเองอีกอย่างน้อยใจ
เฮ้อ คิมเอ้ย อะไรที่แกคิดว่าแกทำแล้วสบายใจก็ทำไปเหอะเพื่อน ชั้นพูดอะไรไม่ได้หรอก เพราะนี่มันชีวิต
แกอ่ะ ชั้นทำได้แค่เอาใจช่วยเพื่อนอ่ะจอยพูดขึ้นมาบ้าง
เราจะกลับบ้าน กลับไปอยู่กะแม่เรา ไปตั้งใจทำงาน สักวันถ้าเค้าอยากเจอเราเค้าคงมาหาเราเอง เราเหนื่อยมากเลยล่ะจอย ในชีวิตนี้เราจะไม่รักใครอีกนอกจากพี่แวว เราจะรอเค้า แต่ถ้าเค้าไม่มา นั่นมันก็เรื่องของเค้าบางทีตอนนี้เค้าคงมีคนอื่นแล้วมั้งคิมพูดพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาอีก
เฮ้ยๆๆนี่คิม บอกแล้วงัยว่าอย่าสรุปอะไรเอาเองมันไม่ดีหรอกเพื่อน ไม่แน่เค้าคงอาจจะคิดถึงแกอยู่ก็ได้แต่เค้ารู้ว่าแกแต่งงานแล้ว เค้าอาจะกลัวว่ามาแล้วแกกะแฟนจะทำเลาะกันงัยจอยปลอบใจอีก
สนามบินดอนเมือง ขาออกภายในประเทศ ช่องผู้โดยสาร กรุงเทพฯ-พิษณุโลก
คิมเดินไปตามทางเพื่อเตรียมเข้าไปนั่งประจำที่ตามหมายเลขที่มีไว้ที่ตั๋วเครื่องบิน หน้าตาของเธอบ่งบอกถึงความเศร้า เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ตาช้ำๆของเธอถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดใสๆ ที่ใส่แล้วเข้ากับใบหน้าของเธอ เธอมาได้ที่นั่งติดหน้าต่า่งพอดี
เอ่อ ขอโทษค่ะ ดิฉันมีที่นั่งติดหน้าต่าง ขอดิฉันเข้าไปได้มั้ยค่ะคิมกล่าวกับผู้ที่นั่งถัดมาจากที่นั่งเธอ เพื่อให้ลุกให้เธอเดินเข้าไป
เ่อ่อ ได้ ค่ะ ขอโทษค่ะ พอดีอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ผู้ที่ถูกขอร้องกล่าวขึ้นและรีบวางหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างอยู่แล้วลุกให้ขิมวดีทันที
พี่แวว คิมมองหน้าสาวผู้ที่ลุกให้เธอนั่ง
ค่ะพี่แววเองค่ะคิม พี่แววรู้ว่าวันนี้คิมจะกลับเพราะว่าจอยบอกกับพี่แล้ว พี่ไปหาคิมตามที่อยู่ที่คิมให้ไว้ และเจอกับจอย จอยบอกว่าคิมกลับบ้านวันนี้ พี่เลยรีบมาที่นี่และก็มาอยู่ตรงนี้ที่เดียวกับทีคิมอยู่นี่งัยค่ะแววพูดพร้อมกับดึงคิมมากอด คิมรีบกอดแววตอบพร้อมน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาด้วยกันทั้งคู่พี่แววรู้มั้ยว่าคิมคิดถึงพี่แววแค่ไหน พี่แววใจร้าย พี่แววหนีคิมทำไมคิมรีบต่อว่าแววทันที
โธ่ คนดี พี่ทำไปเพียงเพราะพี่ไม่รู้ต่างหากว่าคิมกับแฟนคิมเป็นอย่างไร พี่ไม่อยากให้คิมกับแฟนคิม
ไม่มีความสุขเพราะพี่เป็นเหตุให้คิมคิดถึงพี่น่ะค่ะ อย่าว่าพี่เลยนะจ๊ะ คนดี แววพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้คิม
พี่แววไปบ้านกับคิมนะค่ะ ไปหาแม่คิม ไปคุยกัน ทุกคนเข้าใจคิมและความรู้สึกของคิมที่มีต่อพี่แววแล้วไม่มีใครว่าคิมหรือว่าพี่แวว เพียงแต่เค้าไม่เข้าใจเท่านั้นว่ามันเป็นอย่างงัย เราไปอธิบายด้วยกันและความรักที่เรามีต่อกันจะทำให้เค้าเข้าใจกันเองอ่ะค่ะ พี่แววนะ คิมพูดพร้อมกับดึงมือแววมากอดไว้จ๊ะ คนดี ความรักของเราจะอยู่ตลอดไป เราจะทำให้รักของเราเป็นที่ยอมรับของทุกคนในครอบครัวของคิม ส่วนครอบครัวของพี่ทุกๆคนเค้ารู้ดี แล้วพอเรากลับมาจากบ้านคิม พี่จะพาไปเจอพ่อกับแม่ของพี่นะค่ะ
คิมจ๋าแววพูดบ้างค่ะพี่แวว คิมจอรักพี่และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ คิมสัญญา คิมพูด อย่าสัญญาเลยค่ะคิม พี่เชื่อแลพี่ก็รู้
ว่าคิมรักพี่คนเดียวจริงๆ เพราะคิมสามรถที่จะมีใครก็ได้แต่คิมกลับไม่มี คิมรอพี่ พี่ดีใจที่พี่คือคนที่คิมฝากใจไว้และเห็นพี่เป็นคนพิเศษของคิม แวว พูดจบต่างคนต่างก็สวมกอดกันแนน่โดยที่ไม่แคร์สายตาใครๆ
เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้าในเวลาต่อมา และทั้งสองก็ได้ใช้วิตในส่วนที่พวกเค้าต่างเลือกที่จะเดิน แล้วมีใครอีกบ้างหนอที่จะได้เดินทางที่ตัวเองเลือกเองบ้าง
29 เมษายน 2546 06:49 น.
ซินดี้
สนามบินดอนเมือง 9โมงเช้า
คิมก้าวขึ้นแท็กซี่พร้อมกับบอกสถานที่ที่เธอจะไป อากาศร้อนน่าดูนะครับคุณแท็กซี่ชวนเธอคุย เอ่อ ค่ะร้อนมากเลยอ่ะค่ะ แย่จัง คิมตอบอย่างเนือยๆ คิมคิดในใจยังคงไม่มีอะไรจะร้อนเท่าใจของเธอในขณะนี้แน่ๆไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งอยู่บนแท็กซี่ แต่คิมมารู้้ตัวอีกทีเมื่อแท็กซี่มาจอดหน้าอาคารแห่งนึง ซึ่งเธอรู้จักดีกับที่นี้เธอเดินเข้าไปหลังจากที่จ่ายค่ารถให้แท็กซี่เสร็จสรรพแล้ว
เอ่อ สวัสดีค่ะ ดิฉันขิมวดีที่จองห้องไว้หนึ่ง1ห้องอ่ะค่ะ คิมกล่าวพร้อมกับยิ้มให้พนักงาน รอ สักครู่นะค่ะไพนักงานพูดพร้อมกับยิ้มตอบอย่างมีไมตรีคุณจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนค่ะ พนักงานถาม
เอ่อ สัก2อาทิตย์ค่ะคิมตอบ
นี่ค่ะุ กุญแจห้องของคุณพนักงานยื่นกุญแจให้คิม ลังจากที่เธอเช็คอินพร้อมกับจ่ายเงินเรียบร้อย ขอบคุณ
ค่ะ คิมกล่าวพร้อมกับเดินจากไปทางลิฟล์
นี่ๆยัยคิม แกนี่ท่าจะบ้านะยะ มากรุงเทพทั้งทีดันไปเสียตังค์พักโรงแรม ไม่มาพักกะฉัน จอยเพื่อนรักกล่าวอย่างอารมณ์น้อยใจสุดๆ
โธ่ จอย เราเกรงใจน่ะ อีกอย่างเรามาด่วนนะ ไม่ได้บอกจอยล่วงหน้าแล้วจะให้เราทำงัยล่ะจ๊ะคิมกล่าวแก้ตัวกับเพื่อนรัก
แหมด่วนยังก็ต้องบอกมั่งแหละยะ แล้วนี่คุณสามีมาด้วยป๊ะล่ะจอยยังถามต่อไปเอ่อ ป่าวหรอกจอย คิมพูด อ้าวมัยอ่ะ เห็นพี่แกตามดีจะตาย ปล่อยเมียมาคนเดียวได้งัยอ่ะจอยล้อเพื่อน
เรากะพี่กรเลิกกันแล้วล่ะคิมพูดพร้อมกับเสียงที่บ่งบอกถึงความเศร้า มัยอ่ะคิม ทำไมถึงเลิกกันอ่ะจอยตะ
โกนมาอย่างลืมตัว เรื่องมันยาวอ่ะจอย เด๋วเราจะไปหาและเล่าให้ฟังนะจอย ตอนนี้อยู่บ้านป๊ะคิมพูดต่อไป
อือเราอยู่บ้านน่ะ ขี้เกียจไปไหน มานี่ดิ คิดถึงเพื่อนจะตาย มาให้เรากัดหน่อยดิเพื่อนเหงาอ่ะจอยพูดพร้อม
กับหยอกเพื่อน
จอยและคิมเป็เนพื่อนกันมาตั้งแต่เล็ก เติบโตมาด้วยกันตลอด เพิ่งมาแยกกันเมื่อต่างคนต่างเรียนจบ ต่างก็แยกย้ายไปตามครอบครัวย้าย จอยมาอยู่กรุงเทพ เพราครอบครัวของเธอมีธุระกิจที่กรุงเทพ ส่วนคิมนั้นหลังจากกลับมาจากอเมริกา เธอก็มาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนกับแม่ผูั้้ให้กำเนิดของเธอ มีธุรกิจเป็นของตัว
เอง นานๆครั้งพวกเข้าทั้งสองจะมาเจอกันซักครั้งนึง จอยกับคิมมีนิสัยที่แตกต่างกันมามาตั้งแต่เด็กๆ จอยจะ
เป็นคนที่ค่อนข้างจะพูดเสียงดัง ห้าว จนดูก่ากั๋น แต่ผิดกับคิมที่ดูเงียบๆ ขี้อาย แต่พวกเข้าก็เป็นเืพื่อนที่ดีมาตลอด
ก๊อกๆๆๆๆ เสียงประตูดังขึ้น
เ่อ่อ มีใครอยู่มั้ยค่ะ ดิฉันมาหาคุณวิเวียนค่ะ คิมกล่าวขึ้นทันทีที่ประตูถูกเปิดออก
คุณวิเวียนไม่อยู่หรอกค่ะคุณ สาวสูงวัยกล่าวขึ้นคุณเป็นเพื่อนคนแววเหรอค่ะ หนูเธอยังถามคิมต่อ
ค่ะ คิมเป็นเอ่อ เพื่อนเค้าค่ะ คิมกล่าว แล้วพี่แววไปไหนค่ะ คุณป้า
แววไม่อยู่ที่นี่นานแล้วล่ะ เค้าไปอยู่ต่างจังหวัดนานแล้ว 7-8เดือนแล้วล่ะจ๊ะ หนูคิม สาวสูงวัยตอบคิมอย่าง
ยิ้มแย้ม
เอ่อ งั้นมีเบอร์โทรติดต่อเค้ามั้ยค่ะ ป้า คิมยังไม่ท้อป้าไม่มีหรอกลูก นอกเสียจากเค้าจะโทรมาเองน่ะ
งั้นบอกเค้านะค่ะว่าคิมมาเยี่ยมเค้าค่ะป้า นี่เบอร์โทรของคิม ถ้าเค้ามาหรือโทรมาช่วยบอกเค้าให้คิมด้วยนะค่ะคิมไปแระค่ะป้า ขอบคุณค่ะคิมพูดจบแระยกมือไหว้หญิงสูงวัยคนเดิม และเดินจากไป
เค้าไปแล้วเหรอป้าแววถามป้า
จ๊ะแวว แววน่าจะคุยกะเค้านะลูกอย่าไปทำกับเค้าแบบนี้ เค้าดูน่าสงสารนะลูก ตอนที่ป้าบอกเค้าดูแล้วเหมือนเค้าจะร้องไห้น่ะ นี่เบอร์โทรที่เค้าฝากไว้ให้ อย่างงัยก็โทรไปหาเค้าซะ ถ้ารักเค้า และรักที่จะเห็นเค้ามีความสุขก็ไปหาเค้าซะนะลูก แววก็รักเค้าไม่ใช่หรือ เค้าก็คงรักแววไม่น้อยไปกว่าที่แววรักเค้าหรอกนะป้าของแวว
เตือนสติแวว แวว ไม่อยากให้เค้ามาคิดถึงแววอ่ะค่ะ แววกลัวว่าเค้ากะสามีเค้าบาดหมางกันเพราะแวว แววตอบป้าแต่ว่าถ้าคนเรารักกันแล้วอ่ะ เราจะไปห้ามใจได้เหรอลูก คนสองคนอยู่ด้วยกันถ้าลองไม่รักกันแล้ว ให้อยู่ด้วยอย่างงัยก็ไม่มีความสุขเท่าคนที่รักกันอยู่ด้วยกันหรอกลูก และเท่าีที่แววเล่าให้ป้าฟังนี่ เค้าคงรักแววมากนะ
ลูกนะ ป้าก็บอกหนูได้แค่นี้แหละลูกป้าพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารค่ำต่อไป
29 เมษายน 2546 06:41 น.
ซินดี้
พี่แววค่ะ เมื่อไรเราจะเจอกันอีกค่ะ คิมคิดถึงพี่แวว คิมกรอกเสียงออดอ้อนลงไปในโทรศัพท์
โธ่ คนดีของพี่แวว พี่ก็คิดถึงคิมใจจะขาดจ๊ะ แต่ไม่นานหรอกค่ะ เราจะเจอกันอีก แววหวานกลับมาบ้าง
คิมจะบอกให้แม่คิมรับรู้เรื่องของเราค่ะพี่แวว คิมพูด
แล้วท่านจะรับได้เหรอจ๊ะคิมแววซักกลับมาด้วยเสียงที่เป็นกังวล
นี่ยัยคิม ผู้ชายทั้งโลกมันไม่ดีตรงไหนที่แกไม่อยากจะคบกับผู้ชายน่ะ หา ไหนบอกแม่สิ แม่ของคิมพูดด้วยเสียงที่โมโหหลังจากที่ได้ยินคำสารภาพจากลูกสาวจนหมดใส้หมดพุง
ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกค่ะแม่ แต่ถ้าแม่รู้สึกเป็นอย่างไรแล้วแม่ห้ามความรู้สึกนั้นได้ด้วยเหรอค่ะคิมแย้งบ้างอย่างเกรงๆ
แต่อย่างไรก็ตามแม่ไม่มีวันให้แกมารักกันอย่างนี้ได้หรอกนะ อายชาวบ้านชาวช่องเค้าที่มีลูกสาวเป็นพวกรักร่วมเพศแบบนี้ แม่ของคิมพูดขึ้นด้วยเสียงเด็ดขาด และกำัลงจะก้าวเดินไปแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อคิมพูดว่าแล้วแม่จะมาห้ามอะไรเราสองคนได้ค่ะ
แม่จะให้แกแต่งงาน แม่ของคิมพูดขึ้นอย่างเด็ดขาดอีกครั้งพร้อมกับก้าวออกไปจากห้อง ปล่อยให้คิมนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
**************************************************แขกเหรื่อเริ่ิ่มหลั่งไหลเข้ามาในงานอย่างมากมาย เจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างานแม้เหนื่อยแค่ไหนต้องฝืนยิ้ม เพราะงานนี้คืองานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงเราแต่คิมสาวน้อยผู้ซึ่งผิดกับผู้หญิงทั่วๆไป เธอคงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าเธอสามารถแต่งงานกับคนที่เธอรัก และได้ใช้ชีวิตร่วมกันได้ แต่นั่นก็แค่ฝันที่เธอและเธออีกคนฝันไว้ เท่่านั้นเอง จะเป็นจริงได้อย่างไรในเมื่ออุปสรรคมันมากมายขนาดนี้
คุณคิมค่ะ มีโทรศัพท์มาถึงคุณคิมค่ะ จากต่างจังหวัด พนักงานในออฟฟิซส่งเสียงมาบอกคิมให้รับโทรศัพท์ ฮัลโหล ขิมวดีพูดค่ะ คิมกรอกเสียงลงไป
คิมจ๊ะ นี่พี่แววนะค่ะ เสียงพูดตอบกับมาทำให้คิมเงียบไป แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับไหลมาอย่างท่วมท้น
พี่แววค่ะ คิม ขอโทษ คิมพูดออกไปอย่างไม่สะดวกนักเพราะเสียสะอื้นมันออกมาด้วย
ไม่เป็นไรหรอกค่ะคนดี พี่แววเข้าใจค่ะ ถ้าวันไหนที่คิมไม่สบายใจหรือทุกข์ใจก็ขอให้กลับมานะค่ะคนดี พี่ยังรักและคิดถึงคิมเสมอ
คิม พี่ยังรักและเป็นห่วงคิมมากเหมือนเดิมและพี่ก็รู้ว่าเราสองคนรักกัน ไม่ต้องห่วงหรอกนะคิม พี่ไม่ได้โกรธและไม่ได้เกลียดคิมเลย กลับสงสารคิมมากขึ้นที่ต้องฝืนทำอะไรเพื่อคนที่คิมรักและเคารพ คนที่มีบุญคุณกะคิม พี่โทรมาอวยพรคิม พี่ขอโทษนะ
วันแต่งงานของคิมพี่ไปไม่ได้ เพราะพี่ไม่อยากให้คิมต้องกังวลและเสียใจมากกว่านี้น่ะ อีกอย่างพี่คนทำใจดูไม่ได้เหมือนกันที่เห็นคิมต้องอยู่กะคนอื่น แววพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
พี่กรค่ะ คิมมีอะไรจะพูดด้วยค่ะคิมเริ่มต้นสนทนากับสามีอย่างไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำนักพูดมาสิครับคิม ผมรอฟังอยู่ กรตอบอย่างเยือกเย็นจนเธอเองเริ่มสั่น
เ่อ่อคิมอยากถามพี่กรอ่ะค่ะ ว่าทำไมพี่กรถึงอยากแต่งงานกับคิมทั้งๆที่พี่ไมได้รักคิมเหมือนกับที่คิมไม่ได้เอ่อ.. คิมหยุดชะงักตรงคำนั้น
เหมือนกับที่คิมไม่ได้รักผมใช่มั้ยครับ กรยิ้มอย่างรู้ทัน
ก็เป็นเพราะว่าเราสองคนโดนบังคับมาเหมือนกัน แต่ ผมน่ะก็แอบชอบคิมมานานแล้วล่ะครับคิมไม่เห็นเอง แต่ผมรู้ว่าคิมไม่ได้รักผมหรอก ผมรู้ว่าคิมทำไปเพราะคุณแม่คิมบังคับใช่มั้ยครับ
มาวันนี้คิมเลยอึดอัดที่ไม่อยากอยู่กับผม คิมเลยคิดที่จะขอแยกทางจากผม ใช่มั้ยครับ คิมกรพูดทั้งหมดออกมาเหมือนกับเดาใจเธออก
ในเมื่อพี่กรรู้แล้วพี่กรก็ไม่โกรธหรือเสียใจเหรอค่ะคิมพูดด้วยน้าตาไหลนองหน้า กรเดินมาหยุดที่ตรงหน้าคิมพร้อมกับโอบกอดคิมไว้และพูดขึ้นมาว่าคิมครับ ผมเสียใจนะที่คิมไม่รักผม แต่ผมจะเสียใจกว่าถ้าผมรู้ว่าผมดึงคนที่ไม่ได้รักผมไว้ทั้งๆที่เค้าอยากจะไป
คิมรักเค้า คิมมีเค้าในใจ ผมไม่โกรธที่ผมต้องเป็นฝ่ายแพ้หรอกครับคิม เค้าเป็นผู้หญิงอย่างคิม เค้าคงเข้าใจคิมมากกว่าผม กรยังพูดต่อไป แต่คำพูดนี้ทำให้คิมตกใจอย่างมากพี่กรรู้เหรอค่ะว่าคิมรักผู้หญิงด้วยกันคิมถามอย่างตกใจและอย่างไม่แน่ใจว่ากรกำลังคิดอะไรอยู่
ครับ ผมรู้และรู้มานานแล้ว รู้ตั้งแต่วันที่เค้ามาหาคิมที่บ้าน หลังจากที่คิมกลับมาจากกรุงเทพแล้วล่ะครับคิม กรตอบคำถามเพื่อให้คิมหายข้องใจแค่เห็นสายตาที่คิมมองเค้าและเค้ามองคิม ผมก็ดูออกแล้ว คุณแม่ของคิมก็ดูออกครับ ท่านยังมาคุยกับผมเรื่องนี้บ่อยๆหลังจากที่เค้าและคิมอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่เค้ามาเยี่ยมคิม
กรยังพูดต่อ คิมอย่าลืมสิครับว่าผมทำงานกับคิมมานานแล้ว ทุกอย่างเกี่ยวกับคิมผมรู้เกือบหมด แม้กระทั่งความรู้สึกของคิม คิมรักผู้หญิงด้วยกันไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับ ทุกคนเกิดมาแล้วรู้สึกแบบไหนเราเลือกไม่ได้ แต่คิมต้องเข้าคุณแม่ของคิมว่าท่านเป็นคนหัวโบราณ ท่านอาจจะรับไม่ค่อยได้กับเรื่องแบบนี้ ส่วนผม ผมเข้าใจนะคิม ผมไม่รังเกียจด้วย ผมแค่เคยคิดว่าการที่เราแต่งงาน
ผมอาจจะเปลี่ยนความคิดคิมได้ แต่มาวันนี้ผมรู้ว่าผมทำไม่ได้และก็คงไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนคิมได้ด้วย ใช่มั้ยคิม
พี่กรค่ะ คิมเสียใจและขอโทษค่ะ และคิมก็ไม่รู้จะทำอย่างงัยต่อไและไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณแม่ว่าอย่างไรดีท่านจึงจะเข้าใจอ่ะค่ะ คิมนั่งลงข้างๆสามีคิมจ๊ะ พี่เข้าใจและพร้อมที่จะช่วยคิมนะ และพี่รอให้คิมกับพี่ยังคงเก็บความรู้สึกดีดีนี่ไว้ ให้เห็นว่าพี่เป็นเพื่อนคิมคนนึงนะครับคิม พี่ยังรักและห่วงคิมและหวังดีกะคิมเสมอจ๊ะกรพูด
พร้อมกับน้ำตาของลูกผู้ชายที่ไหลออกมา และดึงคิมมากอดด้วยความรัก คิมกอดตอบและต่างคนต่างร้องไห้
29 เมษายน 2546 06:34 น.
ซินดี้
คิมเดินลงมาจากบันไดชั้นบนของบ้านอย่างรีบเร่ง ภาวนาอยู่ในใจว่าอย่างสายเกินนัดมากเกินไป นี่ๆๆยัยคิม รีบแบบนี้จะไปไหนยะ เพื่อนสาวของเธอทักคิมตามประสาเพื่อนรัก
เออ เรานัดพี่แววไว้น่ะ จะไปทานข้าวกัน เรากลัวจะรถติดแล้วไม่ทันน่ะ จอย คิมตอบไปพร้อมกับใส่รองเท้าไปด้วย
แววไหนว่ะ แกไปรู้จักคนแถวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ยัยคิม เพื่อนถามพร้อมกับหน้า งง
เราเจอพี่เค้าที่คอฟฟี่ช็อป ตรงใกล้ๆนี่งัยล่ะ เค้ามาคุยด้วย เราเลยรู้จักกันน่ะ คิมตอบพร้อมยิ้มๆให้เพื่อนรักอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน
งัยๆก็ระวังมั่งละกันนะ คนเมืองใหญ่ ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปล่ะจอยเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ไม่ช้ามากนักคิมก็มาถึงยังร้านอาหารค่อนข้างหรูแห่งนึงที่แววนัดไว้ คิมจึงไม่รอช้าที่จะเดิน
เข้าไป แววนั่งรออยู่แล้ว การทักทายจึงเริ่มขึ้น พร้อมๆกับมิตรภาพที่ดีดีของทั้งสองก็เริ่มขึ้นเช่นกัน
จากวันนั้นคิมต้องเดินทางกลับไปสุโขทัยซึ่งเป็นบ้านของเธอเอง แต่การติดต่อระหว่างเธอ
กับแววยังเ็ป็นไปได้ด้วยดีสม่ำเสมอ ตลอดมา แววโทรมาบ้าง หรือไม่ก็คิมเป็นฝ่ายโทรไปบ้าง
นี่เราทำไมถึงคิดถึงแต่พี่แววนะ เราจะบอกเค้ามั้ยว่าเราคิดถึงเค้า แล้วเค้าจะรู้รังเกียจมั้ยน๊า
ถ้าเค้ารู้ว่าเรา... คิมยิ่งคิดยิ้งกลุ้มกับเรื่องนี้
คิมๆๆ ยุ่งอยุ่หรือป่าวลูก แม่ของคิมเดินมาหาเธอในห้องทำงาน
ป่าวค่ะแม่ แม่มีอะไรจะใช้คิมเหรอค่ะ คิมตอบกลับไปอย่างเหนื่อยๆ
ไม่มีอะไรหรอกลูก มีเพื่อนลูกมาหาน่ะจ๊ะ ออกไปหาเค้าหน่อย เค้ามารอนานแล้วนะ
ยังไม่ทันที่แม่คิมจะกล่าวจบร่างของลูกสาสุดที่รักก็ไปลิ่วถึงหน้าประตูเรียบร้อยแล้ว
พี่แวว ดีใจจังค่ะพี่แววมาหาคิม คิมพูดพร้อมรอยน้ำตาของความดีใจ
อย่าร้องไห้สิค่ะเด็กดีของพี่แวว แววยิ้มออกมาสีหน้าของเธอก็ไม่ได้ต่างไปจากคิมเลย
คิมคิดถึงพี่แวว คิดถึงใจะขาด คิดมากจนนอนไม่หลับเลย คิมพูดความในใจออกมาโดยที่คิมลืมนึกไปว่าเหตุการณ์ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของผู้ป็นแม่ของเธอ ที่เฝ้ามองอยู่จากอีก
ห้องนึง
ไปคุยกันที่ห้องทำงานคิมนะค่ะพี่แวว คิมพูดพร้อมกับดึงมือแววให้เดินตามมา
แม่ค่ะ พี่แววค่ะ เพื่อนรุ่นพี่ของคิมเอง เค้ามาจากกรุงเทพ คิมพูดพร้อมกับยิ้มให้มารดาผู้เป็นที่รักของเธอ
สวัสดีค่ะ คุณแม่ แววพูดพร้อมยกมือไหว้
ตามสบายนะลูก ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกคิมเค้า เค้าจะจัดการให้น่ะลูก แม่ของคิมพูดด้วย
น้ำเสียงที่เป็นมิตร แต่ใครจะรู้บ้างว่าเธอคิดอะไรอยู่ข้างในภายใต้รอยยิ้มนี้
อาหารค่ำมื้อนี้ผ่านพ้นไปท่ามกลางความสุข ความสดใสของสองสาวที่มาเจอกันหลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่รักของเธอทั้งสอง เป็นแบบไหน ต่างกันมั้ย และจะเป็นอย่างงัย