9 มกราคม 2551 20:06 น.
ซาตานซ่อนตน
กระดึงโคกระบือยิน
ฟังพิณสลับแคน
กบเขียดกระโดดแล่น
แผ่นน้ำขจรกระจาย
ใตัร่มจามจุรี
ดวงฤดีมิมีหน่าย
ปักเบ็ดไว้เรียงราย
ไม่ได้หมายเพียงแค่ปลา
สุขใดจะมาเปรียบ
เสมอเทียบเราชาวนา
แม้ใครจะตราหน้า
ด้อยค่าไม่คร่ำครวญ
โถ ชาวนาบ้านนอก
ฉันจะบอกให้ถี่ถ้วน
อย่าได้มาคร่ำครวญ
ไห้หวนรัญจวนใจ
ที่นาของพวกเจ้า
ฉันจะเอาทำกำไร
เก็บดอกพอกพูนไว้
ใช้จ่ายไปตามอำเภอ
โถ นายอย่าใจดำ
เรานั้นทำสม่ำเสมอ
ไม่เคยขัดใจเธอ
เสนอสนองตามต้องการ
อย่าถือเอานาเลย
ก่อนเคยเคยสุขสำราญ
ถ้านาต้องลาผ่าน
ใจนั้นคงขาดกระเด็น
ชั่งประไรพวกพายแอก
นี่แค่แรกเริ่มเพิ่งเห็น
ต่อไปยิ่งรำเค็ญ
กว่าที่เห็นเป็นไหนไหน
น้ำใช้ก็ได้ซื้อ
จะถือเอาเปล่าไม่ได้
ต้องเก็บส่วยจ่ายไป
รัฐจะได้มีทุนรอง
โห น้ำยังต้องซื้อ
มันคือน่าสยดสยอง
ทำไมผู้ปกครอง
ไม่เคยส่องมาดูแล
ชาวนาคงต้องตาย
ผุสลายไปเป็นแน่
หากรัฐไม่ดูแล
เห็นเป็นแค่น้ำแช่ปอ
ฟังฟังนั่งลงก่อน
อย่าใจร้อนเย็นก่อนพ่อ
มาฟังเสียงจากสอสอ
ให้ท่านป้อก่อนค่อยโวย
แฮ่ม...พ่อแม่พี่น้อง
อย่าหมองอย่าหวนโหย
ชีวิตใกล้ร่วงโรย
จะกอบโกยเอาสิ่งใด
ทุกท่านก็แก่เฒ่า
ลูกเต้าเขาไปไหน
จะอยู่อย่างเดียวดาย
เฝ้าไร่ทำไมกัน
จำนากับเราเถอะ
ได้เยอะนะเงินนั่น
รับรองจะแบ่งปัน
เท่ากันทุกทุกคน
ยังมีเงินสำรอง
ไม่ต้องมาดิ้นรน
ยังไงก็ไม่จน
ถ้าเชื่อคนอย่างเราเรา
เซ็นต์ซะจะสบาย
ภายหน้าไม่ต้องเหงา
ไม่ทำนาก็ได้ข้าว
เราจะส่งให้ทุกปี
"กี่สิบปีแล้วที่พวกท่านก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก
โดยไม่เคยรู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
แม้พวกท่านจะพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่
(ไม่ใช่ส่ิงที่มีอยู่)
แต่ท่านก็ไม่เคยหลุดพ้นจากวังวนแห่งหนี้สิน
เพราะพวกท่านกลัว พวกท่านอาย
อายที่จะอยู่อย่างจน กลัวการต่อสู้เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น"