24 มีนาคม 2552 02:49 น.
ซอแก้ว
วาดอากาศ กระดาษธาตุ สาดสีอ่อน
วาดเจ้านอน ก่อนเอื้อมจูบ แล้วลูบหัว
กระดาษฉ่ำ ร่ำน้ำตา ปร่ารดตัว
ใจเจ็บรัว เหมือนใครพราก เจ้าจากไกล
วาดอาหาร จานเจ้าชอบ ขอบภาพฝัน
อยากตักน้ำ อาบให้กัน ขันสุดท้าย
วาดลมแรง ช่วยแปรงขน ก่อนมลาย
ใจหล่นหาย หากเจ้ากลาย หายลับไป
ช่วยลืมตา มาอีกครั้ง ฟังนายเจ้า
เค้าแสนเศ้า เค้ารักเจ้า เจ้ารู้ไหม
อยากจ้องตา คราสุดท้าย ก่อนจากไป
มารับรู้ ว่านายใคร ใจรวยริน
แค่ครั้งเดียว สัมผัสลม หายใจสุดท้าย
แค่ครั้งเดียว สัมผัสทราย กลบร่างฝัง
แค่อีกครั้ง กระซิบใส่หู ให้เจ้าฟัง
..................................................
(บรรทัดสุดท้าย "เว้นไว้ให้เติม" )
28 มกราคม 2552 23:49 น.
ซอแก้ว
กัดฟันเจ็บ เก็บความปวด รินรวดร้าว
เพียงแรกสาว มิยาวยืน ขืนรักษา
จักจำอด ทดเงินออม รอมกายา
จันทร์เจ้าขา ข้าลา ฟ้าบ้านเดิม
ปลิวเปลื้อง เครื่องห่ม เหมือนสมรู้
ร่านผู้ คู่กับชาย กายทอดร่าง
ส่ายหน้าหลบ คบคาหมอน จิตอ่อนวาง
เบิ่งตาถ่าง ลางเลือนภาพ อาบน้ำตา
สีจางลง สะบงแม่ แลดูเก่า
พ่อก็เฝ้า เศร้าใจคิด พิษหนี้สิน
ควายสีมัว ตัวสุดท้าย เอามากิน
ประทังดิน ที่สิ้นเขียว เกินเยียวยา
อีกไม่นาน ที่บ้าน มีงานใหญ่
ขึ้นบ้านใหม่ เห็นแม่ใส่ สะไบสวย
ควายตัวน้อย จะลอยคอ รอพ่อรวย
ฝันภาพสวย ช่วยกายช้ำ ให้ร่ำทน
ศาลฏีกา หน้าไหนกัน ลั่นความโทษ
สาวใจโฉด โยนความผิด คิดมหันต์
คู่ชายตาย กายคาคบ ลมหมดพลัน
ดับความฝัน บั่นใจกาย ให้ตายตาม
27 มกราคม 2552 22:01 น.
ซอแก้ว
เออ เธอบอก หลอกว่า ฟ้าลิขิต
เออ เธอคิด ว่าดวงจิต ติดผูกแน่น
เออ เธอชม ฉันเพอร์เฟค เลิศแมนแตน
เออ เธอล้อ ฉันใส่แว่น เหมือนปาคร์ ชี ซุง
เออ ฉันเลย มอบกาย แหล่ะใจให้
เออ ฉันเลย ง่ายๆ จ่ายค่าหอ
เออ ฉันเลย คล้องแปดสลึง ให้ถึงคอ
เออ ฉันเลย ถอย 4 ล้อ ถ่อมาประเคน
เอ ยังไง ไปเที่ยว เลี้ยวรับเพื่อน
เอ ยังไง เพื่อนชอบเลื่อน เกี่ยวแขนขา
เอ ยังไง เห็นมือโอบ ยามลับตา
เอ ยังไง คุ้นๆหนา มันมาจากหอเดียวกัน
เอะ ทำไม 7 วัน ไม่เห็นหัว
เอะ ทำไม ไม่เห็นตัว หาทั่วหอ
เอะ ทำไม จะไปรับ ไม่เคยรอ
เอะ ทำไม ไอ้ 4 ล้อ อันตธาน
อ่า หรือว่า เธอคงรู้ ไม่คู่ควรฉัน
อ่า หรือว่า เธอตื้นตัน ทุกวัน ที่ฉันจ่าย
อ่า หรือว่า เธอคิดสั้น แอบหนี ไปบั่นคอตาย
โถ ไอ้ควาย นี่แหล่ะหนา เรียกรักจริง........
27 มกราคม 2552 21:50 น.
ซอแก้ว
กลิ่นอ่อน ก่อนเช้า เจ้าโปรยกลิ่น
เคล้าดิน สิ้นฝนหมาด หยาดค้าง
ใครเล่ายอม พลาดสูด กลิ่นเลือนจาง
กลีบบาง วางในมือ ถือเดินทาง
ผู้ห่างไกล ให้หวง ทวงดอกเจ้า
ฤ จะเหย้า เจ้ากะลา คราว่าง
บรรจงรีด กรีดปลายอ่อน ก่อนจะวาง
ดอกสีจาง พลางสว่าง กลางกะลา
กะลาไม้ ใส่จำปี สีตัดดอก
กลิ่นโชยหยอก หลอกผู้ใด ให้มองหา
วันนี้สิ้น กลิ่นคงหมด จะอดลา
วอนเจ้าหนา นะ สูดกลิ่น ให้สิ้นใจ....
ดอกคงเก่า เข้าวันใหม่ ใจคงหาย
หากต้องย้าย หายจากลา กะลาหอม
จำปีล้า คราดอกหัก จักจำยอม
เฝ้าถนอม รอมชอมกลิ่น จนสิ้นวัน
ซอแก้ว..
17 ธันวาคม 2551 23:19 น.
ซอแก้ว
ลมรำเพย เอยพัด ไปทางใด
หอบดวงใจ ห่วงใย ถึงน้องข้า
อย่าโบกแกล้ง ให้หนาวนัก ยามนิทรา
ฝากห่มผ้า อย่าให้ตก จากอกใจ
จันทร์เจ้าเอ๋ย น้องข้า อยากได้บ้าน
ข้าขอแลก จิตวิญญาน จะได้ไหม
จะแหวนแก้ว เงินทอง ข้า ไม่ใส่ใจ
ขอบ้านใหญ่ ให้น้องข้า ได้ภาคภูมิ
น้องข้าเหนื่อย น้องข้าเพลีย สู้ปัญหา
วอนดวงดาว บนฟ้า อย่าพรากแสง
เป็นแรงจิต อย่าให้ล้า อย่าอ่อนแรง
อย่าหน่ายแหนง อุปสรรค ที่ดักทาง
สุดท้ายฟ้า วอนอย่าแกล้ง ชะตานัก
ให้น้องข้า ได้พบรัก ที่ไฝ่หา
ไม่หลอกลวง ไม่ทำเจ็บ เสียน้ำตา
ได้เห็นค่า ในตัวน้อง อย่ารองใคร