14 กุมภาพันธ์ 2552 04:39 น.
ช่ออักษราลี
๏ คือสายสร้อยเรืองรองของอุษา
เจิดแจรงแหล่งหล้าเวหาสวรรค์
หอมบุปผามาลัยอวลไพรวัลย์
หอมรักนั้นจรุงรุ่งอรุณ
๏ คือโกสุมปทุมมาลย์แผ่หวานซึ้ง
ทั้งภู่ผึ้งถวิลในกลิ่นกรุ่น
ละอองรักโชยหอมล้อมละมุน
อ้อมไออุ่นมธุรสมาพร่างพรม
๏ คือสายลมของอาทรอันอ่อนหวาน
รำเพยสารเสน่หามาประสม
มณฑาทิพย์สูงศักดิ์จักล่องลม
ลานภิรมย์แดนดินถวิลแล้ว
๏ คือบทเพลงสุนทรีย์ที่ไพเราะ
พริ้งเสนาะระรินในพิณแก้ว
จำเรียงสองฤทัยให้เพริศแพร้ว
สานไมตรีทุกแนวแล้วหัวใจ
๏ คือสายน้ำชื่นใจยามไหลผ่าน
จากแล้งลาญรันทดพลิกสดใส
คลายเหนื่อยล้าว้าเหว่จากเล่ห์ใด
พักอาศัยริมน้ำฉ่ำความรัก
๏ ทุกนิยามนำรักมาถักถ้อย
เป็นสายสร้อยวลีที่ฉลัก
ฉลุคำพริ้งพรายเป็นสายภักดิ์
แต่ละวรรคละวรรคสลักใจ ๚ะ๛
7 กุมภาพันธ์ 2552 04:45 น.
ช่ออักษราลี
๏ ในดึกดื่นถามดาวสกาวสรวง
ราวโชนช่วงเนตรหนึ่งซึ่งปรารถนา
มีเงาฉันบ้างไหมในจินตนา
คิดถึงเธอทุกครายามราตรี
๏ น้ำตาดาวร่วงหล่นเป็นฝนฝอย
ใจคนคอยทุกข์ท้นจนล้นปรี่
หนาวพร่างพรมห่มใดในฤดี
หนาวรักที่เปล่าดายกลางสายลม
๏ ปลายขอบฟ้าเรืองรองของจันทร์เสี้ยว
พลันคล้องเกี่ยวฤทัยไยขื่นขม
โหยหาใครในราตรีที่ระทม
ใจจ่อมจมทะเล...เล่ห์ดาวใด
๏เมื่อลมหนาวพัดมาจากฟ้านั่น
คือความรักของฉันที่หวั่นไหว
ล่องลอยหาจากอีกฟ้าคราเธอไกล
หรือเธอมีอีกใคร...ในคืนนี้ ๚ะ๛
ช่ออักษราลี
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
1 กุมภาพันธ์ 2552 06:07 น.
ช่ออักษราลี
๏ หอมสายลมพรมพร่างยามสางรุ่ง
ฟ้าก็ปรุงเมฆพรายระบายสี
อวลประทิ่นกลิ่นฉมสุมาลี
ปลุกชีพนี้อีกวันที่สัญจร
๏ ตื่นเถิดหนาตาวันแย้มแต้มขอบหาว
ดนตรีดาวสะอื้นสายก่อนถ่ายถอน
วานสายลมคลอเคล้ามาเว้าวอน
ห่วงอาทรบางใครในเพลา
๏ ละอองรักล่องลอยอย่างอ้อยอิ่ง
มาหยุดนิ่งคีตเพลงบรรเลงหล้า
ปลุกโลกตื่นจากหลับใหลในนิทรา
ด้วยเครื่องสายเสน่หามาลีกานท์
๏ รักเจ้าเอยรักนักมิจักหมด
กลั่นนัยพจน์ให้เห็นเป็นกลอนหวาน
เฝ้าบ่นเพ้อพรรณนาอย่ารำคาญ
ทุกลมปราณของฉันนั้นมีเธอ ๚ะ๛