26 พฤษภาคม 2551 21:31 น.
ช่ออักษราลี
๏ ประจงเก็บมวลบุปผามากรองร้อย
เป็นงามสร้อยบุษบามาลัยขวัญ
พรมรวยรินกลิ่นฉมภิรมย์รัน
กระแจะจันทน์เย็นรื่นโชยชื่นใจ
๏ รอรับขวัญสู่เรือนมาเยือนข้าง
จักประทับรอยปรางหว่างแก้มใส
ละเลียดคำพร่ำรักวรรคไฉไล
อวลดอกไม้ในอ้อมอุ่นละมุนมาน
๏ ประจุบุหงารำไปไพลประทิ่น
ระรวยรินรสสุคนธ์ปนหอมหวาน
สารภีคลี่กลิ่นล้อมรินนาน
หอมผสานแป้งร่ำกระแจะจันทน์
๏ โอ้จอมขวัญยอดดวงใจอยู่ไกลลิบ
เกินจะหยิบสารทุกข์สบสุขสันต์
เรียมร้อยรสพจนามารำพัน
ปริ่มโศกศัลย์ร้อยรัดหัทยา
๏ ฉวยภูษาแพรไพลสไบเฉียง
ผืนพุมเรียงงามพราวพาดราวบ่า
จุฑามณีพรายเก็จเพชรวามตา
ปักเกศามุ่นศกปรกละลาน
๏ ทิฆัมพรรอนแสงแห่งรพิ
งามศศิทรงกลดวาดจรดผ่าน
ลมโลมหล้าอิงซบเงียบพบพาน
ล่วงพ้นกาลนานนับราวกับลวง
๏ ละเลื่อมวับระยับพลอยในรอยแก้ว
หยาดน้ำแพร้วแวววาวเฉกดาวสรวง
ประกายเพชรเกล็ดวาดเม็ดหยาดรวง
กลั่นจากห้วงหาวลึกผลึกฟ้า
๏ หยาดน้ำค้างกลางหาวมาพราวแก้ม
หยาดนัยน์แย้มแต้มปรางอยู่กลางหน้า
ยะเยือกเย็นเฉียบชื้นรื้นน้ำตา
โอ้พี่ยามาลับหายกับสายกาล
๏ จักรวาลสิ้นสุด ณ จุดไหน
เวิ้งขอบฟ้าอำไพกว้างไพศาล
มองหาอ้อมอกอุ่นละมุนมาน
อยากหนุนตักหวานหวานของม่านฟ้า
๏ ขอนวลแสงจำรัสประภัสสร
ศศิธรเคลื่อนคล้อยลอยเวหา
มาต่อใจรอนรอนอ่อนอุรา
กับเพลาเงียบงันดั่งฝันไป
ภาพ - ฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
ศิลปินแห่งชาติ
6 พฤษภาคม 2551 23:51 น.
ช่ออักษราลี
๏ ดวงบุหลันลอยเลื่อนมาเยือนฟ้า
เผยอาภาวิศิษฏ์แสงแห่งจันทร์โฉม
เสียงเรไรกล่อมเพ็ญเย็นลมโลม
พิศภาพโคมโสมฟ้าอ่าอำไพ
๏ เพียงคีตขิมสำเนียงเสียงบรรสาน
เสนาะโสตแผ่วหวานทรวงซ่านไหว
ลาวดวงเดือนขับเห่เสภาใจ
ดวงหทัยเรียมหวั่นใต้จันทรา
๏ เย็นราตรีขวัญพี่ชี้ชวนน้อง
ยลทิพย์ทองส่องขจ่างกลางเวหา
หวิวพระพายระบัดไกวพัดมา
แพรภูษาสะบัดปลิวพลิ้วส่ายชาย
๏ หอมเอยหอมประทิ่นกลิ่นบุหงา
เก็บเถาลดามาร้อยเป็นสร้อยสาย
รสสุคนธ์หอมจรุงฟุ้งกำจาย
หอมมิวายสายสวาสดิ์ไป่ขาดกัน
๏ บุหลันลอยเลื่อนเหมือนเตือนใจในค่ำนี้
ผูกฤดีสองเราอยู่เคียงคู่ฝัน
ถักทอร้อยสร้อยฟ้าเป็นมาลาจันทร์
กล่อมจอมขวัญยอดชีวันข้างบรรจถรณ์
๏ รุ่งสางแล้วแก้วกานดาขอลาล่วง
แม้นแสนห่วงดวงฤทัยไป่ฉะอ้อน
ถอดสไบต่างพักตร์ปักอาทร
ไว้เคียงหมอนแทนระลึกตรึกดวงแด
๏ ทิวากรลำดับแสงแห่งโอภาส
จำนิราศลาล่วงจากดวงแข
ค่ำคืนนี้หากจันทร์ไม่ผันแปร
จักมาแลชมชื่นรื่นราตรี
5 พฤษภาคม 2551 00:38 น.
ช่ออักษราลี
๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
พลิ้วระนาดขาวฟ่องล่องกระสินธุ์
เคลื่อนลีลาอรรณพหยั่งซบดิน
แล้วเลยรินไหลล่วงห้วงนที
๏ ให้ทะเลเห่ขวัญไร้หรรษา
พิศธาราแลเหลียวเปลี่ยวอิตถี
เพียงเดียวดายฝ่าดื่นคลื่นชีวี
ดวงฤดีเวียนว่ายสายสาคร
๏ เจียนจะจมดวงแดกระแสสินธุ์
จึ่งรับรินน้ำใจจากไม้ขอน
เอื้อมโอบรัดหัตถาแห่งอาทร
ใจรอนรอนแทบภินท์ก็สิ้นพลัน
๏ ด้วยฤทัยเราสองตระกองอยู่
จักครองคู่เคียงชลร่วมยลฝัน
มหรรณพจรดฟ้าอันลาวัณย์
ประคองกันแหวกว่ายสายชีวา
๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
ดารดาษซบหว่างกลางมหา
คลื่นชีวิตลิขิตวิถีแห่งลีลา
หทัยสองร่วมแรงฝ่ากล้าผจญ