26 ตุลาคม 2551 05:02 น.
ช่ออักษราลี
๑. หอมหยาดแก้วแผ่วหล้าร่วงมาหอม
ระรินล้อมภูมิโลกโศลกเถลิง
ระบายเมฆเสกฟ้ามาดำเกิง
ต้น-สำเริงก่อดอกน้อยสร้อยสุมาลย์
๒. ลาเทวีจันทรา..อุษาสาง
เพชรน้ำค้างในรอยดาวพราววิศาล
พระอาทิตย์ชักรถคคนานต์
แผ่รัศมิ์ผ่านปลายฟ้ามารำไร
๓. วรรษวัสสานฤดูพรูพื้นหล้า
ก่อกำเนิดทิพย์ธาราอุดมใส
เป็นภักษาสุธารสหยดตฤณไพร
ปลุกชีพให้ปวงสัตว์ชัฏเงยงาม
๔. เหลืองอร่ามนาทองมองละลิบ
หอมข้าวทิพย์สุธาสินีศรีสยาม
จรุงค่าชาวนาไทยในนิยาม
ศรัทธาไทยศรัทธางามตามความคิด
๕. จุดประทีปโคมดวงห้วงนที
แม่วารีไสวไหลสฤต
ลอยบูชาวารีมิ่งชีวิต
งามวิจิตรกระทงไทยไหวอุบล
๖. จินตภาพอาบความคิดนิมิตศรี
งามชีวีดื่มด่ำท่ามสับสน
วรรษวัสสานร่วงพรูกรูมายล
เติมค่าคนให้งามตามคิดฤๅ?
ช่ออักษราลี
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๑
22 ตุลาคม 2551 21:15 น.
ช่ออักษราลี
๑. มาตรแม้นมีหมู่ดาวพร่างพราวฟ้า
ปรารถนาเพียงแขที่แลเห็น
ดื่นดาษดวงดาวรายพรายล้อมเพ็ญ
หลบร่างเร้นแอบชมสมฤทัย
๒. เราก็แค่เป็นดาวที่คราวหม่น
ร่วงสกนธ์อับแสงแฝงตัวใต้-
หมอกอ้างว้างน้ำค้างเหงารุมเร้าใจ
จะวาดหวังอะไรในภพนี้
๓. จึ่งเป็นเพียงกระต่ายที่หมายจันทร์
เฝ้าใฝ่ฝันหนึ่งใครในห้วงศรี
ในกาลคืนมืดค่ำดำราตรี
เฉกรักที่..มีนั้น..อันธการ
๔. ดึกแล้วหนา..ราตรี..สิจันทร์ฉาย
รอเธอพรายเสน่หาให้ฟ้าหวาน
ฤๅคืนนี้เดือนแรมดาวแซมลาน
ระยับกาฬแวมไหว...แต่ไร้เธอ
๕. จักรอคอยสิ้นทิวามาอีกครั้ง
มิ..สิ้นหวังสิ้นท้อรอเสมอ
ยามพระลบพลบลับกลับละเมอ
หัวใจเพ้อใฝ่ฝันถึงจันทร์งาม
แม้นมีหมู่ดาริกามาเรียงราย
ก็จักหมายเพียงแขที่แลมอง
18 ตุลาคม 2551 14:00 น.
ช่ออักษราลี
๑. ทอดภวังค์ฝั่งดาวทอวาวฟ้า
รัตติกาลกัลยามาทอขวัญ
นฤมิตสรรพสิ่งมิ่งลาวัณย์
อุบัติฝันอุบัติพจน์รจน์มาลัย
๒. ฝันเอย ...เลอค่าฝันพรรณราย
เจียมใจเจียมกายหมายฝากไว้
เสน่ห์กานท์กานดาบ่คลาไคล
จักร้อยช่ออักษรให้พิไลตา
๓. สำเริงร่าโลกกวีสุนทรีย์ทิพย์
ประหนึ่งจิบสุธารสหยดล้ำค่า
ฝากฝันไว้ในสายธารจินตนา
เปล่งประกายพัชรามาลัยกวิน
๔. สุคันธชาติเบ่งบานลานอักษร
หมู่ภมรว่อนดอม-ดมหอมกลิ่น
เสพหวานช่อผกามารินริน
บ่สุดสิ้นถวิลหามาลีกานท์
๕. แล้วกรองร้อยสร้อยขวัญรังสรรค์ศรี
ท่ามมณีดาริกามาฉายฉาน
จนอุษารุ่งรางสว่างลาน
ดอกไม้กานท์พวงช่อก็อวยชัย
ทุกสร้อยอักษรในลานอักษรานี้(บ้านกลอนไทย)
ล้วนแต่เป็นอักษรของผู้ที่มีความฝัน
มีจินตนาการอันยิ่งใหญ่
ลานคำจึงงดงามด้วยเปลวฝัน พรรณราย
ของมวลผกามาลีกานท์
เบ่งบานในโลกกวีอันสุนทร