16 ธันวาคม 2550 21:41 น.
ช่ออักษราลี
๏ ปีกระยับสลับสีมณีวาด
ระดาดาษผาดพร้อยร้อยพันสี
ว่อนว่อนเกสรสุมาลี
สุขเสรีวเนจรขจรไป
๏ เพ่งพิศแววเพชรเกล็ดน้ำค้าง
แลสล้างพร่างพนาป่าใหญ่
ลมรำเพยเชยชื่นระรื่นใจ
ผวยผินบินไปในวนา
๏ ลัดเลาะขอบเขินเนินไศล
ชมแมกไม้ผลัดใบในป่า
รวยระรินกลิ่นหอมบุษบา
แว่วลดาขับขานในลานใจ
๏ คีตกานท์บรรสานผ่านฟ้า
จินตลีลาร่ายระบำรำส่าย
มวลผีเสื้อสดใสร่อนขจาย
ร่วมส่ายร่ายรำลำนำไพร
๏ คีตาแห่งเพลงบุหงา
อ้อพลิ้วลิ่วมาอยู่ไหวไหว
หวาบหวิวหอมหวนรำจวนใจ
ผีเสื้อดอมดมไล้ไพรมาลา
๏ พิณเสียงไผ่กอลมล้อลู่
มาโลมสู่ใบบางและอย่างหนา
แดงเหลืองเคลื่อนปลิวริ้วชบา
ดอกไม้ประดับโลกาสง่าไพร
เพลงรักดอกไม้ป่า
http://imusic.teenee.com/2/frame/10034.php
15 ธันวาคม 2550 07:43 น.
ช่ออักษราลี
๏ ในความมืดดึกดื่นแห่งคืนค่ำ
รินน้ำคำย่ำสรวงดวงใจข้า
ซักครั้งหนึ่งก่อนสนิทแนบนิทรา
เสน่หาคราซึ่งยังตรึงใจ
๏ ทะเลครวญหวนไห้ในกาลเก่า
เราเคยเคล้าพะนอเคลียคลอใกล้
ท่ามพิรุณกรุ่นสำเนียงเสียงเรไร
ดั่งกล่อมใจจักรวาลผสานกลอน
๏ คืนเดือนหงาย...หาดทรายรี...ยังมีอยู่
เราเคยคู่อยู่เรียงนั่งเคียงขอน
กระซิบสั่งคำรักจักวิวรณ์
จวบจันทรรอนเลือนเสมือนลา
๏ สำเหนียกแห่งลมหนาวรวดร้าวนัก
เมื่อประจักษ์รักเลือนรางอำพรางพร่า
น้ำตาใสไหลหลั่งดั่งธารา
น้อมกายาร่ำทรวงกับดวงเดือน
เพลงรักเธอเสมอใจ
14 ธันวาคม 2550 22:03 น.
ช่ออักษราลี
ใบเรียวของเคียวข้าว
รวงแตกพราวยามหนาวพร่าง
ริกริกละเลียดราง
แรมเดือนร้างยามสางพราย
ระรองกันลองชื่น
แลดาษดื่น ณ ยามสาย
เหลืองแพแลริ้วราย
ระเรียงชายพระพายพัด
ริ้วคลื่นรื่นภิรมย์
ดั่งเชยชมลมระบัด
ต้นพลิ้วปลิวสะพัด
ฝนสาดซัดขัดเกลาใบ
รวงข้าวจะเงยงาม
ในนิยามความยิ่งใหญ่
ข้าวของผืนดินไทย
ผลิตให้เราได้กิน
14 ธันวาคม 2550 21:18 น.
ช่ออักษราลี
สะบัดปลิวพลิ้วลายบนปลายกระดาษ
บรรจงวาดวินิจวิจิตรศิลป์
ใส่ความรักละเมียดละไมในศิลปิน
ภาพทั้งสิ้นจึงงามพิศวิจิตรา
อ่อนช้อยแลงดงามดั่งความฝัน
ดั่งดวงจันทร์ลุล่วงห้วงเวหา
ฤาทวยเทพแห่งสวรรค์เสกสรรมา
ฤาเทพธิดาองค์ใดดลใจเอา
ทุกเส้นสายรายริ้วขอบคิ้วโค้ง
ทุกเส้นโยงเชื่อมรักสลักเสลา
เชื่อมชีวีวิถีไทยในลำเนา
ภาพไทยเราทรงคุณค่ามหาอนันต์
13 ธันวาคม 2550 17:39 น.
ช่ออักษราลี
ร้อยวลีเรียงรายร่ายร้อยรส
รินรินพจมานหวานกลิ่นร่ำ
ประดิดอักษรผ่านกลอนฝันผันผ่านคำ
เป็นลำนำช่อรักอักษราลี
หอบลมหนาวแสงดาวอันพราวพร่าง
เกล็ดน้ำค้างกลางนภาวนาศิขรี
หยาดพิรุณโปรยกรุ่นอุ่นฤดี
สู่วลีพจน์มาลาลดาไพร
เฝ้าเพาะบ่มอักษรสานกลอนฝัน
จนจวบวันแตกหน่อชูช่อไหว
ใส่ปุ๋ยรักพรวนดินรินรดใจ
เมื่อเติบใหญ่ได้ขับขานสู่ลานกลอน
วอนรุ่นพี่เมตตาปรานีหน่อย
น้องน้อยน้อยค่อยคืบคลานสู่ลานฝัน
ขออุ่นเจือเอื้อไมตรีดีต่อกัน
ดอกไม้นั้นมาฝากจากดวงใจ
เพียงสองเรา