24 เมษายน 2551 10:59 น.
ช่ออักษราลี
๏ ขอให้ฟ้าพร่างดาวเป็นพยาน
ด้วยดวงจิตอธิษฐานแห่งข้าฯนี้
เทิดกตัญญุตาบุพการี
ค้ำธานีด้วยชีวินตราบสิ้นใจ
๏ ปณิธานจากศรัทธาแห่งชีวิต
จักอุทิศร่างกายตังวายให้
นคเรศไพร่ฟ้าประชาใน
จำนงใจรักมั่นนิรันดร
๏ ด้วยบัลลังก์สีทองละอองรัก
สามิภักดิ์ดวงหทัยไป่ถ่ายถอน
แนบสถิตเคียงอยู่คู่นคร
ห่มอาภรณ์รักทั้งปวงด้วยดวงจินต์
๏ เป็นรากไม้ค้ำฤดีทุกชีวิต
แม้นโลหิตหลั่งหยดจนหมดสิ้น
ผิว่าใจปวดประดังจนพังภินท์
มอบชีวินอุทิศด้วยจิตงาม
๏ ขอครองคู่เธอชั่วฟ้ากัลปาวสาน
ทุกห้วงกาลภักดีมิผลีผลาม
เคียงขวัญแก้วแล้วทอรักให้จักงาม
ทุกข์เทวษใดไป่คร้ามฤๅขามกลัว
ไร้ราก ก็ไร้กิ่ง ก้าน ดอก ผล ใบ และชีวิต
ปิยะพร ศักดิ์เกษม
หากบ้านเมืองของเราเกิดอะไรขึ้น
ขอให้พวกเราทุกคนเป็นรากฝอย
ช่วยกันยึด ค้ำ นครา ของเราจักให้มั่นคง
ช่ออักษราลี
20 เมษายน 2551 11:51 น.
ช่ออักษราลี
๏ พลิ้วลำนำเพลงรักหวานข้ามผ่านฟ้า
ขับเสภารัตติกาลบรรสานฝัน
ราวเห่กล่อมภพช่วงจากจวงจันทร์
ล้อมดวงขวัญแนบสนิททุกนิทรา
๏ หลับตาเถิดคนดีนะที่รัก
จักทอถักเรียงร้อยสร้อยบุปผา
มาเคียงข้างบรรจถรณ์ผ่อนอุรา
ปลอบวิญญาณ์อย่าหวั่นจงฝันดี
๏ ณ คืนนี้จักถนอมกล่อมเคียงร่าง
จนรุ่งสางทิวาวารผ่านดิถี
ทุกทุกคำที่ร้อยสร้อยวจี
จากใจที่ประจักษ์รักทั้งปวง
๏ เจ้าเดือนดาวพราวฟ้าราตรีนี้
ฤๅจักที่ทอแสงมาแต่งสรวง
ขอเพียงนวลปลายหาวจากดาวดวง
มาแต้มทรวงหวามไหวในพี่ยา
๏ อันความรักฉ่ำหวานปานหยาดผึ้ง
งดงามตรึงหนึ่งทรวงให้ห่วงหา
ส่งใจไปพร่ำพลอดตลอดเวลา
น้อมกายาเคียงร่างมิสร่างรอย
๏ หอมประทิ่นกลิ่นดอกแก้วยังหอมกรุ่น
หวานละมุนละไมในทุกถ้อย
ขลุ่ยเพียงออพลิ้วเพรียกขานผ่านฝนปรอย
ร่วมเพลงร้อยประทับขวัญม่านราตรี
15 เมษายน 2551 11:38 น.
ช่ออักษราลี
๏ ม่านละไอขาวบางลอยคว้างคว้าง
สีแดดจางแต่งหล้าทาบทาฝัน
เผยอาภาแย้มแสงแห่งแวววัน
สดับขวัญล่องลิบทิพยา
รังสีชมพูแห่งรักจักลอยล่อง
สู่บัลลังก์เรณูทองผองปรารถนา
ขอเคียงคู่สวาสดิ์มิคลาดคลา
เป็นสร้อยขวัญแก้วชีวามาลาใจ
แม้นเพลาเลยผ่านนานเท่าไหร่
ห้วงหัวใจครองขวัญมิหวั่นไหว
รักอย่าป่นเป็นภัสมธุลีฤทัย
จักล่องไปรายล้อมห้อมใจเธอ
สะท้อนทกแวบวับทุกหลับตื่น
เงาของใครเคียงวันคืนชื่นเสมอ
เปลวแห่งรักโชติงามทุกยามเจอ
ในละเมอซาบซึ้งเพียงหนึ่งใคร
พยับโพยมฟ้าครามท่ามไอหมอก
ลอยระลอกขาวคว้างควันบางใส
หมอกไอรักละล่องสู่สองฤทัย
ปรารถนาแห่งหัวใจเนาให้งาม ๚ะ๛
29 มีนาคม 2551 23:01 น.
ช่ออักษราลี
๏ ล่องลอยเอยจากแคว้นแดนไกลลิบ
ห้วงหาวทิพย์เทพสถานพิมานสรวง
สู่หัตถานคราหมายมาทวง
สัญญาบ่วงวิญญาณร้อยสานกัน
กรีดสายขิมพริ้มพรายจากปรายภพ
ยามได้สบสร้อยศุภางค์กลางใจฝัน
ขับลำนำผ่านฟ้ามาสัมพันธ์
เชื่อมชีวันล่องลิบทิพยา
ข้ามเขตขัณฑ์มหรรณพสู่ภพนี้
ด้วยฤดีนิราศวาสนา
เคลื่อนเลยล่วงบ่วงกระแสกาลเวลา
สู่ลานหอมดวงผกา...จำปาลาว
รัถยาจดจารตำนานรัก
ซึ้งประจักษ์พรากกี่กัลป์ต้องทัณฑ์ร้าว
ดวงยิหวาชาตินี้หวังดั่งดวงดาว
หมายปองสาว..ชาวฟ้า..ราชาวดี
ล่องลอยเอยตระการฟ้ามาเสกสรร
ขอเทพแห่งคนธรรพ์ขับพิณสี
ข้ามฝั่งฝันสีทันดรมาไมตรี
หมายฤดีพิศวาสทุกชาติไป
ขอทวยเทพเทวาเป็นพยาน
จะรักมั่นนิรันดร์กาลทุกชาติไซร้
เจ้านางน้อย "ม่านแก้ว" เฉิดไฉไล
สมหทัยภพพิลาส ชาติ...อันตรา ๚ะ๛
ขอทวยเทพเทวาเป็นพยาน
จะรักมั่นนิรันดร์กาลตลอดไป
คาราโอเกะ / หนัง
1. เพลงลาวม่านแก้ว
http://koongnang.multiply.com/video/item/43
2. เพลงแต่ปางก่อน
http://koongnang.multiply.com/video/item/44
3. เรื่องแต่ปางก่อน
http://www.yenta4.com/entertainment/show_lakorn2.php?id=102