6 พฤษภาคม 2551 23:51 น.
ช่ออักษราลี
๏ ดวงบุหลันลอยเลื่อนมาเยือนฟ้า
เผยอาภาวิศิษฏ์แสงแห่งจันทร์โฉม
เสียงเรไรกล่อมเพ็ญเย็นลมโลม
พิศภาพโคมโสมฟ้าอ่าอำไพ
๏ เพียงคีตขิมสำเนียงเสียงบรรสาน
เสนาะโสตแผ่วหวานทรวงซ่านไหว
ลาวดวงเดือนขับเห่เสภาใจ
ดวงหทัยเรียมหวั่นใต้จันทรา
๏ เย็นราตรีขวัญพี่ชี้ชวนน้อง
ยลทิพย์ทองส่องขจ่างกลางเวหา
หวิวพระพายระบัดไกวพัดมา
แพรภูษาสะบัดปลิวพลิ้วส่ายชาย
๏ หอมเอยหอมประทิ่นกลิ่นบุหงา
เก็บเถาลดามาร้อยเป็นสร้อยสาย
รสสุคนธ์หอมจรุงฟุ้งกำจาย
หอมมิวายสายสวาสดิ์ไป่ขาดกัน
๏ บุหลันลอยเลื่อนเหมือนเตือนใจในค่ำนี้
ผูกฤดีสองเราอยู่เคียงคู่ฝัน
ถักทอร้อยสร้อยฟ้าเป็นมาลาจันทร์
กล่อมจอมขวัญยอดชีวันข้างบรรจถรณ์
๏ รุ่งสางแล้วแก้วกานดาขอลาล่วง
แม้นแสนห่วงดวงฤทัยไป่ฉะอ้อน
ถอดสไบต่างพักตร์ปักอาทร
ไว้เคียงหมอนแทนระลึกตรึกดวงแด
๏ ทิวากรลำดับแสงแห่งโอภาส
จำนิราศลาล่วงจากดวงแข
ค่ำคืนนี้หากจันทร์ไม่ผันแปร
จักมาแลชมชื่นรื่นราตรี
5 พฤษภาคม 2551 00:38 น.
ช่ออักษราลี
๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
พลิ้วระนาดขาวฟ่องล่องกระสินธุ์
เคลื่อนลีลาอรรณพหยั่งซบดิน
แล้วเลยรินไหลล่วงห้วงนที
๏ ให้ทะเลเห่ขวัญไร้หรรษา
พิศธาราแลเหลียวเปลี่ยวอิตถี
เพียงเดียวดายฝ่าดื่นคลื่นชีวี
ดวงฤดีเวียนว่ายสายสาคร
๏ เจียนจะจมดวงแดกระแสสินธุ์
จึ่งรับรินน้ำใจจากไม้ขอน
เอื้อมโอบรัดหัตถาแห่งอาทร
ใจรอนรอนแทบภินท์ก็สิ้นพลัน
๏ ด้วยฤทัยเราสองตระกองอยู่
จักครองคู่เคียงชลร่วมยลฝัน
มหรรณพจรดฟ้าอันลาวัณย์
ประคองกันแหวกว่ายสายชีวา
๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
ดารดาษซบหว่างกลางมหา
คลื่นชีวิตลิขิตวิถีแห่งลีลา
หทัยสองร่วมแรงฝ่ากล้าผจญ
30 เมษายน 2551 22:19 น.
ช่ออักษราลี
๏ ละอองวรรษโปรยปรายหยาดสายฝน
อัสสุชลนางฟ้าอำลาหาว
โบกโบยบินรินหลั่งจากฝั่งดาว
พาใจหนาวมาคว้างกลางเผลียง
๏ ละไอรักเพรียกหาท่ามฟ้าหม่น
คิดถึงคนฟากไกลไร้ส่งเสียง
ถวิลหาใครหนึ่งซึ่งเคยเคียง
นิราศแล้วจึ่งเพียงจำเรียงมา
๏ คือความรักไม่สิ้นสุดบ่หยุดรัก
เช่นทอถักรุ้งสายพรายสิเน่หา
เป็นสายใยเชื่อมคล้องสองชีวา
มธุรสรักนำพาเราหากัน
๏ ทุกเขตแดนนคราจบหล้าโลก
เรียมอโศกรอเพลามาเสกสรร
ประโลมถ้อยร้อยคำเฝ้าจำนรรจ์
เสกสวรรค์ร่วมสร้างไป่ร้างลา
๏ แม้นสิ้นฟ้าสิ้นดินสิ้นสมุทร
รักบ่หยุดสุดสิ้นถวิลหา
เฉกวรุณพรมพฤกษ์ตรึกอุรา
ย้อยหยาดมาชุบชีวินให้ถิ่นไพร
๏ ละอองพรรษโปรยปรายหยาดสายฝน
ธารเมฆหม่นเวหาสปราศสดใส
ส่งสำเนียงเรียงร่ายถึงคนไกล
ฟากหทัยมิหม่นดั่งคนรอ
27 เมษายน 2551 15:21 น.
ช่ออักษราลี
๏ ราตรีหนึ่งตรึงใจในนิรมิต
ยาตรสถิตพิศิษฐ์แคว้น ณ แดนสรวง
ริ้วเมฆขาวพราวแสนแดนดาวดวง
เพลาล่วงบุพกาลสู่พิมานเมือง
๏ ย่ำนพรัตน์ประกายเก็จเพชรแววแสง
มณีแดงบุษราคัมน้ำงามเหลือง
เขียวมรกตสดใสไพฑูรย์เรือง
มุกดาเฟื่องเพทายพรายอำไพ
๏ ท่องจักรวาลเขตสถานวิมานฟ้า
สู่นิมมานรดีนิรัติศัย
วอนสถิตนิรันดรอัมพรใน
นิราลัยไร้ทุกขะอนิวรณ์
๏ สัญจรไปไตรภพจบวิถี
อมราวดีเทพสรวงปวงอัปสร
สยมภูกฤษดาสถาพร
อมรตระการฟ้าเหนือคงคาลัย
๏ เอนกายสุดขอบปลายฟ้า
ท่องในจินตนาละเมอสมัย
เหนื่อยล้าลาเรื่องการเมืองไทย
เที่ยวไปในดิถีรัชนีจร
๏ ล่องเภตราทองลอยฟ่องตระกองฝัน
แต่งเรียวจันทร์แย้มแต้มสิงขร
ม่านฟ้างามพิศุทธิ์รุจอัมพร
ศศิธรแย้มเยื้อนก่อนเลือนราง
๏ ยังหิมพานต์แดนภูสู่หิมาลัย
ลุในเขตกินนรก่อนฟ้าสาง
เจื้อยแจ้วแว่วเสภาทั่วสรรพางค์
จากนวลนางเทพินกินรี
๏ ยามอุษาบูรพารุจาใส
ผ่องอำไพทั่วหล้านภาศรี
ตื่นนิทราคลายตรมรื่นรมณีย์
สุขเสรีจากผองละอองดาว