โบยบินในรอยกาลผ่านไหวเคลื่อน
จวบปีเดือนมิหยุดมุ่งจุดหมาย
สู่รุ้งรอบขอบฝันพรรณราย ฝ่าความมืดเดียวดายว่ายแสงจันทร์
บางครั้งฝ่าพายุฝนเกินทนไหว แต่ข้างในใจนี้ยังมีฝัน จึงพาร่างบินฝืนข้ามคืนวัน แม้นหนาวสั่นก็จะสู้รู้อดทน
ดาลปีกฝันล่องไปในฟ้าหวัง ลมจะยังโบยปีกฉีกทุกหน แรมจันทรอ่อนล้าฟากฟ้าบน บ้างสับสนบางคราฟากฟ้าใจ
ฝากชีพด้วยปรายขนข้ามสนธยา คืนเหว่ว้าประคองฝันมิหวั่นไหว แม้นยากเข็ญเส้นทางยังห่างไกล บอกกับใจให้กางปีกอีกสักกาล
แล้วปีกขาวเริ่มพราวแสงแห่งอุษา ก็รู้ว่ามีเช้าเข้าพาดผ่าน จึงรู้ค่าคืนหนาวอันร้าวราน ย่อมรู้ซึ้งถึงจิตวิญญาณการโบยบิน
๏ ร้อยพันหมื่นดื่นบุปผาระดาโลก เพียงสักแผ่วลมโศกมาโยกไหว ก็ปลิดปลิวลิ่วออกทั้งดอกใบ และคว้างขวัญเพียงใดใครจะรู้ ๏ จึงต้องปลูกเลี้ยงไว้ให้ถนอม ดอกจักหอมแย้มบานสราญอยู่ รดน้ำใจพรวนเมตตาพาเอ็นดู เติมปุ๋ยรักให้กลีบชูสู่แสงดาว ๏ มวลดอกไม้ผลิใหม่ในวันนี้ บริสุทธิ์ทุกที่ด้วยสีขาว หยาดน้ำค้างทิพย์หยดรดใจพราว หยาดความรักทุกคราวไม่เว้นวัน ๏ แต่...ดอกไม้ในโลกมืดชืดและหนาว หลุบกลีบกับฝันร้าวทุกคราวฝัน ยามตื่นคอยหาดาวสักเงาจันทร์ มีแต่เพียง ปืน ควัน ระเบิด ไฟ ๏ รอสักหนึ่งผีเสื้อมาเพื่อปลด ออกจากฝันรันทดอาจสดใส นำตะวันแย้มดอกออกไฉไล ปวงบุปผาชายแดนใต้ได้เบ่งบาน ๏ โน่น! ผีเสื้อกำจรว่อนลงแล้ว ยินเสียงแว่วเพลงปรารถนามาขับขาน ว่ามวลปีกแห่งเมตตาจะเบิกกาล ก่อนลมปราณดอกไม้ดับกับไฟปืน ๏ ณ ทิวทุ่งตะวันอันแสนไกล มีดอกไม้ดอกใหม่ในดินผืน ยืนหยัดกลางบุปผางามท่ามวันคืน ด้วยน้ำใจดาษดื่นทั่วพื้นดิน๚ะ๛
๏ ฝนเช้าโชยชุ่มชอุ่มเช้า ระบายเมฆเทาเฝ้าแฝง เปลี่ยนสีริ้วแสดแสดง เปล่งแสงเช้าชื่นชีวิต ๏ คลื่นหมอกดอกไม้สายน้ำ เบิกบานระบำวิจิตร หยาดชลหยดชุ่มจุมพิต จักไปแนบชิดดอกไม้ ๏ ร่อนปีกคำนึงพึงหา ขอบฟ้าขอบฝันวันใหม่ มอบโชคชะตาพาไป แหละหนึ่งหัวใจนำทาง ๏ เมื่อเรายังฝันยังใฝ่ ยังมีเปลวไฟไสวสว่าง ยังมีศรัทธาไม่รู้จาง ตรู่สางของพรุ่งรอรุ้งราย ๏ จึงร่อนปีกฝันวันนี้ เพื่อเปี่ยมชีวีที่จุดหมาย คลื่นหมอกดอกไม้พลิ้วพราย หยาดฝนคอยร่ายลำนำ ๏ แม้นจะอีกสักเท่าไหร่ หัวใจมิหยุดร้องร่ำ เฉาดอกหมอกพรางทางสีดำ ขอย่ำไปถึงซึ่งเช้า ๚ะ๛
๏ อัญเชิญพุ่มอักษรยอกรกราบ ศิโรราบรำลึกครูผู้สั่งสอน จำเนียรกาลผ่านมายังอาทร จึ่งร้อยกลอนนี้มาบูชาครู ๏ เมื่อยามเยาว์เขลานักจึงมักผิด ท่านอุทิศกายใจสอนให้สู้ แม้นเหนื่อยยากแสนเข็ญด้วยเอ็นดู ศิษย์เรียนรู้วิชาพาก้าวไกล ๏ แล้ว ๑๖ มกรามาอีกครั้ง ครูก็ยังดูแลคอยแก้ไข นำธูปเทียนบุปผาหอมมาลัย ห้อมหัวใจกราบเท้าเนานิรันดร์ ๏ ขอให้ครูอายุมั่นขวัญรวยรื่น ทุกหลับตื่นล้วนปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ มากมิ่งมิตรอุดมพละทรัพย์อนันต์ เชิญเทวัญปกปักพิทักษ์ครู ๚ะ๛ ข้าพเจ้าช่ออักษราลีและเหล่าศิษย์ครูแก้วประเสริฐ ขออัญเชิญกลอนต่างพานพุ่มดอกไม้มากราบ แทบเท้าครูแก้วที่ได้เฝ้าอบรมสั่งสอนในด้านร้อยกรอง แก่ศิษย์ในบ้านกลอนไทยนี้มานานโดยไม่เห็น แก่ความเหน็ดเหนื่อยเลยค่ะ