6 เมษายน 2548 15:41 น.
ช่อมะไฟ
ฉันคงเหมือนกองไฟใกล้สิ้นเชื้อ
ไม่มีเหลือแสงสว่างก็จางหาย
ความเริงโรจน์โชติร้อนค่อยผ่อนคลาย
มอดมลายแต่ปะทุระอุใน
คล้ายความรักหักอกสะทกสะท้าน
เริ่มร้าวฉานเขาห่างเหินสะเทิ้นไหว
เคียงคู่หล่อนหมอนหนุนอุ่นหทัย
น้ำตาไหลร่วงรินหมดสิ้นกัน
หมอนใบนั้นเคยนอนแนบแอบกับอก
ยามเดือนตกดาวระยับประดับฝัน
สัมผัสรสบทรักฝากชีวัน
อ้อมกอดนั่นกะหวัดแน่นแสนปรีดา
ค่ำคืนนี้กอดกายกับความหนาว
มองเดือนดาวข่มดับปรารถนา
คงได้เพียงกอดหมอนซ่อนน้ำตา
ใครเล่าหนาจะเติมไฟให้ลุกโชน
6 เมษายน 2548 10:43 น.
ช่อมะไฟ
เป็นเพียงผลไม้.........ในพนา
หาใช่มากราคา...........ค่าน้อย
หล่นร่วงลงพสุธา........ เฉาเหี่ยว
ช่อมะไฟพุ่มย้อย.........เหว่ว้าดวงใจ ไร้ใครแล
เกิดกายในพนา
ดูไร้ค่าสง่าศรี
ล่วงบนปฐพี
มิเคยมีใครสนใจ
ทุเรียนเงาะมังคุด
คือที่สุดผลไม้
อ้อยตาลนั่นไง
ฉ่ำหทัยคราวลิ้มลอง
ทั้งลำไยลิ้นจี่
ราคาดีคนคอยจ้อง
ทางใต้มีลองกอง
ใครก็ปองปรารถนา
ฉันแค่ช่อมะไฟ
อยู่พงไพรดูไร้ค่า
ร่วงลงพสุธา
ใครมองมาพากันเมิน