19 กันยายน 2550 22:05 น.
ชีวินมธุรา
ฝากสายลม เสียงกระซิบ ผ่านภูผา
ล่องลอยพา ความรัก จากใจฉัน
ส่งถึงเธอ ที่ห่างไกล ให้ผูกพัน
ว่าฉันนั้น คิดถึงเธอ ไม่รู้คลาย
ขอฝากใจ ดวงน้อย ที่คอยรัก
สุดจะหัก ห้ามจิต ใฝ่ถวิล
มอบแด่เธอ มอบให้ ทั้งชีวิน
มิสุดสิ้น ตราบจน โลกมลาย
วอนสายลม พรมพริ้ว ลิ่วเลื่อนไหว
ส่งความหมาย ความห่วงหา อาทรถึง
ช่วยโลมไล้ แผ่วผิว นวดคลายคลึง
ให้เธอพึง พบแต่สุข ทุกข์ละลาย
ให้ดอกหญ้า สดสวย กลางทุ่งกว้าง
ใสกระจ่าง แทนความหวาน ที่มีให้
เธอได้ยล เพลินพิศ สนิทใน
รักเธอไซร้ รักแน่ ไม่เปลี่ยนแปลง
***********
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 22:01 น.
ชีวินมธุรา
โกโบริ หนุ่มน้อย จากเมืองหลวง
ได้ลุล่วง ถึงเมืองไทย ใจสุขสันต์
ทำหน้าที่ ทหารกล้า ในครานั้น
ดุจดั่งฝัน ได้ประสบ พบกับเธอ
อังศุมา- ลินสาว เยาว์แรกแย้ม
เหน็บดอกแซม มวยผม สมเสมอ
เธอบรรเลง เพลงขิม ชวนละเมอ
ชวนให้เพ้อ ใหลหลง ให้งงงัน
ต้นลำพู ต้นใหญ่ ใกล้ริมน้ำ
หิ่งห้อยรำ เริงร่า บินผกผัน
หลายร้อยตัว ร่อนเวียนวน คละเคล้ากัน
สุดจำนรรจ์ บรรยาย ถึงความงาม
สองหนุ่มสาว พราวกระซิบ ใต้ร่มไม้
สองดวงใจ ชิดใกล้ ไร้คำถาม
มิขอห่าง นวลน้อง ทุกโมงยาม
พี่บอกความ ในใจ เจ้าได้ยิน
แม้แตกต่าง เชื้อชาติ ใช่ปราศรัก
พี่ขอพัก หัวใจ ใฝ่ถวิล
แด่สาวไทย นามอัง- ศุมาลิน
ใช่เล่นลิ้น จวบสิ้น ชีวาวาย
แรกพบเขา เกลียดเขา โกโบริ
กาลเวลา ผ่านไป เริ่มสงสัย
รักเขาแล้ว จริงจัง หรืออย่างไร
ในฤทัย ข้องขัด ไม่ชัดเจน
วันเวลาแห่ง การพราก มาถึงแล้ว
จำต้องแคล้ว จากจร ที่สามเสน
ระเบิดดัง ไปไกล ทั้งยามเย็น
ดอนกระเด็น ท่วมทับ กายยับเยิน
หวั่นวิตก ตามหา เธออยู่ไหน
น้ำตาไหล ใจท่วมทับ ราวดับสูญ
รู้สึกตน รักเขา นั้นเพิ่มพูน
แสนอาดูร วันเวลา ผันผ่านไป
เรื่องเล่านี้ ผ่านพ้น เนิ่นนานนัก
ตำนานรัก ทั้งสอง ไม่หลับไหล
ส่องสะท้อน ความรัก แม้จากไกล
ฟากฟ้าไกล ให้ดวงดาว เป็นพยาน
**********
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 14:09 น.
ชีวินมธุรา
เธอและฉัน ขาดกัน แต่วันนี้
วาจาที่ เอ่ยมา ช่างเชือดเฉือน
หยาดน้ำตา หยดไหล พรายพร่าเลือน
ดังเสมือน โลกหยุดหมุน ในทันใด
ร้ายกาจนัก คำทัก หักดวงจิต
ฉันทำผิด สิ่งใด เธอผลักใส
หัวใจนั้น ช่างดำ นี่กระไร
ตัดรอนร้าย ด้วยคารม ขมขื่นใจ
ฉันรู้ซึ้ง แล้วว่า ตัวเธอนั่น
แสร้งเสกสรรค์ ปั้นแต่ง ด้วยคาดหมาย
ร่วมภิรมย์ ชมชื่น แล้วทิ้งไป
ฉันไม่ใช่ นวลนาง กลางหนทาง
เสียใจยิ่ง ที่หลง คบชายผิด
เจ็บเหน็บจิต ทุกข์ระทม หม่นหมองหมาง
พอกันที แต่นี้ คนละทาง
อย่าได้หวัง ว่าฉัน จะหวลคืน
ขอลาก่อน ยอดชาย มากหลายรัก
จำสลัก ไว้มั่น จำทนฝีน
ตั้งกายไว้ ดำรงคง หยัดยืน
ยิ้มระรื่น หยุดที รักจอมปลอม
นับแต่นี้ ฉันขอเป็น คนไร้รัก
มิขอพัก หัวใจ เฝ้าถนอม
ไร้คู่เชย คู่ชิด ไม่ตรมตรอม
ฉันขอยอม อยู่ผู้เดียว นั้นสุขใจ
**************
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 14:05 น.
ชีวินมธุรา
รักเอย เป็นอย่างไร ใครรู้บ้าง
จะอ้างว้าง แรมรา หรือไฉน
ฤๅมีสุข สมปอง ในหทัย
แสนสงสัย มีใคร ช่วยตอบที
เกิดมานี้ มีเคยมี รักสักครั้ง
เหมือนหนึ่งดัง แก้วงาม วาววามสี
ยังสดใส ใสพิสุทธ์ ไร้ราคี
ห้องใจนี้ ยังไม่มี ผู้ใดปอง
อยากใคร่เห็น เป็นรัก อย่างเขาบ้าง
อยากพบทาง แห่งรัก อย่างคู่สอง
อยากชิมรส รักจริง ตามครรลอง
อยากอยู่สอง รักภิรมย์ ชมชื่นใจ
ท่านผู้ใด ใครตอบได้ วานเฉลย
โปรดจงเผย ความนัย ที่สงสัย
ไขกระจ่าง แจ้งจริง อย่าดูดาย
ตัวน้องไซร้ ได้ซื้ง ถึงความจริง
*********
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 00:38 น.
ชีวินมธุรา
โอ้ใจเอ๋ย หัวใจ ใยอ้างว้าง
ดูเลือนลาง เศร้าสร้อย มิผ่องใส
ด้วยถูกรัก หักราน ร้าวหทัย
ต้องทุกข์ตรม ขมไหม้ ในอุรา
เหตุไฉน ใยเธอ ทอดทิ้งฉัน
หันเหพลัน หาคนอื่น ระรื่นศรี
ไม่เคยนึก ถึงกัน ฉันคนนี้
เป็นคนที่ ห่วงใย อย่างมากมาย
ยามเธอทุกข์ ฉันปลุก ให้เธอตื่น
ให้เธอยืน ยิ้มได้ ดังคาดหมาย
ยามเมื่อพบ เขาแล้ว ก็เผยลาย
นี่หรือชาย รักจริง แท้หลอกลวง
ชีวินมธุรา