2 พฤษภาคม 2550 15:36 น.
ชัยพิษณุกร
แสงแห่งธรรมอุบัติขึ้นแล้ว!
ทิพยอาภาปรากฏ ณ. เบื้องหน้า
กระแสธรรมรวยรินเป็นเกลียวใย
คล้ายเส้นไหม
ถักทอเป็นเส้นสายสวยงาน
เปล่งประกายฉัพพรรณรังสี
คล้ายแสงเหนือ แสงใต้
หากแต่เป็นเพียงเสี้ยวเท่านั้น
เสียงกังวานใส คล้ายเสียงระฆังแก้ว
ลั่นเบาๆ
ระลอกกระแสเสียงแว่วผ่านเข้ามา
เบาไกล...มาจากดินแดนอันไกลโพ้น สุขาวดี
พุทธภูมิยังอยู่ห่างไกล
เสียงนั้นเสนาะหูนักหนา
"ผู้ใดเห็นธรรม...ผู้นั้นเห็นเรา"
25 กุมภาพันธ์ 2550 21:43 น.
ชัยพิษณุกร
" Happy Birthday......to....you.....สุขสันต์วันเกิดทุกคนคร้าบบบ "
สิ้นเสียงดีเจ ทุกโต๊ะที่มีเจ้าภาพวันเกิด ก็จะเป่าเทียนบนเค้ก ตามแต่อัตตภาพ
เป็นพิธีอย่างหนึ่งที่คนเที่ยวกลางคืน จะต้องร่วมอวยพรวันเกิดกับ " เพื่อนร่วม
ร้าน
เพียงแต่วันนี้...
" Happy Valentine Day ขอให้มีแฟนกันทุกๆคนน่ะคับ " เพราะฉะนั้น...
วันนี้ก็เลยมีนักเที่ยวแน่นขนัดกว่าทุกๆวัน ดอกกุหลาบ
ดอกเล็ก ดอกใหญ่ ปักไว้ตามขวดโซดาของแต่ละโต๊ะ มากบ้าง น้อยบ้างแตกต่าง
กันไป....ดอกกุหลาบ
ใช่สิ ! ไอ้ลูกหมานั่น ผมนึกขึ้นได้
หางตาผมชำเลืองมองกระจกใสบานใหญ่ในร้าน ที่มองเห็นหน้าร้านด้านนอก
ท่ามกลางผู้คนที่เดินกันขวักไขว่
เด็กชายตัวผอมกระหร่อง ยืนอยู่ตรงฝั่งตรงข้าม ดวงตาคู่นั้นจ้อง
มองมาที่ผม ฉายแววเศร้าเหมือนเมื่อครู่ แต่ทว่า ครั้งนี้มันดูเลื่อลอย ทอดสายตา
ไปไกล...อย่างไรจุดหมาย
ในอ้อมกอดนั้นยังมีดอกกุหลาบช่อโต
เด็ก เอ๋ยเด็ก ใครบอกอะไรก็เชื่อตาม คงอยากกลับบ้านจริงๆ
สินะ ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เบียดตัวผ่าน นักเที่ยว ที่กำลังโยกตัว
ตามจังหวะเพลง กันอย่างสุดเหวี่ยง ฉลองให้กับเทศกาลแห่งความรัก
...อากาศปลอดโล่งโปร่งสบายนอกร้านทำใหไผมรู้สึกคล้ายกับ
หลุดออกมาจากอีกโลกหนึ่ง เบาหูและหายใจได้ทั่วปอด
ฝั่งตรงข้ามร้านตอนนี้ กลับไม่มีไอ้ลูกหมานั้น ยืนจ๋องอยู่เสีย
แล้ว ผมใช้สายตามองหาตลอดทุกร้านในย่านนี้ ไม่มี! มันหายตัวไปไหนของมัน
หว่า?...
ผมยืนชะเง้อมองหามันอยู่แถวๆนั้นอยู่นาน ก็เห็นรถกระบะเปิด
ไฟของทางและเสียงไซเรนจอดอยู่ริมถนน ผมนึกสังหรณ์อะไรไม่สู้ดีขึ้นมา
สาธุ! ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย..
-โปรดติดตามต่อในครั้งหน้า-
20 กุมภาพันธ์ 2550 21:21 น.
ชัยพิษณุกร
" พี่ครับ...ซื้อดอกกุหลาบผมสักดอกสิครับ " ผมเกือบจะหาต้นเสียงนั้นไม่เจอ หากไม่ก้มหัวให้ตำลง เด็กผู้ชายตัวเท่าลูกหมา ผอมกระหร่อง ถูกห่อด้วยเสื้อที่ " ขี้ริ้ว " มอซอ หอบดอกกุหลาบสีแดงเพลิง ตัดกับผิวกระดำกระด่าง ดวงตาคู่นั้น ดูอมทุกข์เอาไว้เกินวัย
" ผมอยากกลับบ้าน "
ใจผมอยากสงเคราะห์ มันสักดอกจริงๆ หากไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ช่วงเทศกาลแบบนี้ โต๊ะภายในร้านดังๆของผับย่านนี้ จะถูกจองจนเต็มทั้งร้าน
" เอาไว้ก่อน " ผมตอบปฎิเสธ
" โธ่พี่! ผมอยากกลับบ้น ผมอยากกลับบ้าน " มือเล็กๆมอมแมมข้างหนึ่งของมัน เหนี่ยวชายเสื้อผมไว้ จนตัวเอน ทว่า...ก็ยังแหกปากร้องลั่น
" เฮ่ย! กรูรีบ " ตีนนักเที่ยวบางคน สะดุดกับขาผมที่เข้าไปขวางทางเขา
ในวันนั้น ทุกคนต่างรีบ ผมเองก็รีบ
" ปล่อยก่อนพี่ไม่มีเงิน " ที่สุดก็ต้องอ้างเรื่องเงินนี้ล่ะครับ
" โกหก! ถ้าพี่ไม่มีเงินจะมาเที่ยวได้ไง " มันย้อนเข้าให้
" เออๆ เดี่ยวถ้าพี่จะกลับ แล้วจะมาเหมาซื้อของเราทั้งหมดเลย "
มันมองผมด้วยดวงตาละห้อย ปริ่มจะร้องไห้
" มาเร็วๆนะพี่...ผมอยากกลับบ้าน "
มือที่กำอยู่ก็ค่อยๆคลายออก ผมมองสารรูปเด็กคนนั้นเป็นครั้งสุดท้าย
แว๊บเดียว! มันก็วิ่งปราดเข้าไปยังรถแท็กซี่ ที่กำลังจอดส่ง " นักเที่ยวราตรี "กลุ่มใหญ่
ที่ริมถนนตรงนั้น ที่เดิมตอนที่ผมเดินเข้ามา มันคงจะยืนรอผมตรงนั้น ตามสัญญาส่งเดชของผม
คงอีกนานกว่าที่ผมจะกลับบ้าน ถ้ามันอดทนรอได้จริง มันคงได้เจอผม
- โปรด (ติด) ตามต่อในครั้งหน้า -